- สำหรับ ตอน ใน ซีซั่น 4 เข้า Princess Twilight Sparkle - Part 1 และ Part 2
- สำหรับ ตัวละครนี้ในร่างมนุษย์ เข้า Twilight Sparkle (Sci-Twi)
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล (เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเกิล) | |
---|---|
ประเภท | อลิคอร์น (ตั้งแต่ S3E13) ยูนิคอร์น (ซีซั่น 1-3) มนุษย์ (EG) |
เพศ | หญิง |
ที่อยู่ | แคนเทอล็อท (ก่อน S1E2, หลัง S9E25) ปราสาทแห่งมิตรภาพ, โพนี่วิลล์ (ซีซั่น 5-9) ห้องสมุดโกลเด้นโอ๊ก, โพนี่วิลล์ (ซีซั่น 1-4) พระราชวังเจ้าหญิงคริสตัล (ของเล่น) |
อาชีพ | ผู้ปกครองเอเควสเทรีย (S9E26) ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าขององคมนตรีแห่งมิตรภาพ (S9E26) ผู้ปกครองปราสาทแห่งมิตรภาพ (S4E26-S9E26) ผู้ก่อตั้งและผอ. โรงเรียนแห่งมิตรภาพ (S8E1-S9E20) ครูของ สตาไลท์ กลิมเมอร์ (S5E26-S7E1) บรรณารักษ์ห้องสมุดโกลเด้นโอ๊ก (ซีซั่น 1-4) ลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทีย (ซีซั่น 1-3) อดีตลูกศิษย์โรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ |
ลิ้งค์เพิ่มเติม |
|
ข้อมูลเพิ่มเติม | |
---|---|
สีตา | ไวโอเลตกลาง |
สีแผงคอ | ไพลินสีฟ้าเข้ม กับ ไวโอเลตกลาง โดยมี ราสเบอรี่เยี่ยมยอด เป็นลวดลาย (ปกติ) พทาโล่สีฟ้าเข้ม กับ ม่วงกลาง โดยมี กุหลาบเยี่ยมยอด และ มะกอกเทาอ่อนซีด เป็นลวดลาย (ร่างสายรุ้ง) |
สีขน | มัลเบอรี่เทาอ่อนซีด กล้วยไม้เทาอ่อนซีด (ร่างมนุษย์) แกมโบกีชเทาอ่อน (ร่างมนุษย์ที่ไม่ได้มาจากอนิมเชั่นเอเควสเทรีย[1] ภาพถูกโพสท์โดยเพจเฟสบุ๊ค My Little Ponyชองสเปนยุโรปที่เป็นออฟฟิเชียล )[2] |
ออร่าเวทย์มนตร์ | กล้วยไม้เทาอ่อนซีด (ซีซั่น 1, ในรูปภาพจาก S5E12 และ แฟลชแบ็คจาก S9E5) ราสเบอรี่อ่อนหลักแหลม (ตั้งแต่ซีซั่น 2 ) ดำ ปนไปกับ ไวโอเลตสดใสที่เป็นควัน กับ เขียวอ่อนหลักแหลมที่เป็นขอบ (ตอนใช้ เวทย์มนตร์มืด) โคบอลท์ฟ้าเทา (Friends Forever Issue #17 ปกเล่ม) |
ชื่อเล่น | ทไว, ทไวลี่/ทวินลี่/ทวิวลี่, ทไวไลท์ ฟลอปเปิล, น้องสาว, แมร์ ดู เวลล์, เจ้าหญิงทไวไลท์, แมสก์ แมทเทอร์-ฮอร์น, ทไวไลท์ ทวิงเกิล, ที-สปาร์คเกิล, ผ้าปิดตา, เจ้าหญิง-ทไวลี่-วิลลี่-พู, ทวิกกี้, แสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทไวลี่, กุหลาบสีม่วง, Tw (The Periodic Table of My Little Pony), ราชินีทไวไลท์ สปาร์คเกิล (เกมโทรศัพท์) |
ครอบครัว | ไนท์ไลท์ (บิดา) ทไวไลท์ เวลเลท (มารดา) ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ (พี่ชาย) สไปค์ (น้องชายบุญธรรม) องค์หญิงเคเดนซ์ (พี่สะใภ้) องค์หญิงเซเลสเทีย (น้าสะใภ้) องค์หญิงลูน่า (น้าสะใภ้) ลุงนิรนาม เฟลอรี่ ฮาร์ท (หลาน) |
คิ้วตี้มาร์ค![]() | |
เสียงพากย์ | ทาร่า สตรอง (อังกฤษ) สมิตา ไทยจำนง (ไทย, Boomerang) |
เสียงร้อง |
รีเบคก้า ชอยเชต (อังกฤษ) สมิตา ไทยจำนง (ไทย) |
- "เมื่อไม่นานมานี้ อาจารย์และผู้ฝึกสอนของฉัน องค์หญิงเซเลสเทียส่งฉันให้มาอยู่ที่โพนี่วิลล์ ท่านส่งฉันให้มาเรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากสนใจสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้วันนี้ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าฉันคงไม่มายืนอยู่ ณ ตรงนี้หรอกหากไม่ใช่เพราะมิตรภาพที่สร้างมากับพวกเธอ พวกเธอแต่ละตัวสอนมิตรภาพบางอย่างให้แก่ฉัน และนี่้เองฉันจึงยินดีเสมอ วันนี้ฉันขอลงนามว่าฉันคือโพนี่ที่โชคดีที่สุดในเอเควสเทรีย ขอบคุณนะเพื่อนๆ ขอบคุณนะโพนี่ทุกตัว!"
- — สุนทรพจน์พิธีราชาภิเษกของเจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิล, Magical Mystery Cure
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือตัวละครศูนย์กลางดำเนินเรื่องหลักของมายลิตเติลโพนี่ มิตรภาพอันแสนวิเศษ เธอเป็นยูนิคอร์นเพศหญิงผู้ที่กลายเป็นอลิคอร์นและได้ตำแหน่งเจ้าหญิงในตอน Magical Mystery Cure เธอเป็นลูกสาวของทไวไลท์ เวลเลทกับไนท์ไลท์ น้องสาวของไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ น้องสะใภ้ขององค์หญิงเคเดนซ์ และน้าฝั่งพ่อของเฟลอรี่ฮาร์ท
ณ จุดเริ่มต้นของซีรี่ส์ เธอกับสไปค์เพื่อนรักและผู้ช่วยของเธอ ย้ายจากแคนเทอล็อทไปยังห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กที่โพนี่วิลล์เพื่อศึกษาเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ และในตอน Twilight's Kingdom - Part 2 เธอได้รับปราสาทเป็นของตัวเอง เป็นปราสาทแห่งมิตรภาพอีกทั้งได้รับตำแหน่งเป็น"เจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ" ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นตัวแทนธาตุแห่งมนตรา
ช่วงเวลาก่อนการเป็นเจ้าหญิง เธอมักจะส่งรายงานมิตรภาพแก่องค์หญิงเซเลสเทียเป็นประจำ และในตอน Owl's Well That Ends Well เธอก็ได้เลี้ยงนกฮูกชื่อโอนโอวิเชียสเพื่อให้เป็นผู้ช่วยยามราตรี ข้ามมายังตอน The Last Problemเธอก็ได้รับหน้าที่ให้กลายเป็นผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรีย
ร่างมนุษย์ของทไวไลท์ ไซ-ทไวปรากฏตัวครั้งแรกใน My Little Pony Equestria Girls: Friendship Games ในฐานะตัวร้ายชั่วคราว
พัฒนาการและการออกแบบ

"ทไวไลท์จ้องมองดวงดาว" งานเสก็ตช์เริ่มแรกสำหรับรายการต้นฉบับ "show bible"

ตุ๊กตาทไวไลท์ในวัยเด็กของลอเรน ฟาวส์
ลอเรน ฟาวส์ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบทไวไลท์ สปาร์คเคิล จากตุ๊กตาโพนี่รุ่นที่หนึ่งอย่างทไวไลท์[3] โดยการออกแบบเริ่มแรกของเธอนั้นมีความคล้ายคลึงทั้งในเรื่องของโทนสีและคิ้วตี้มาร์คกับตัวทไวไลท์ในรุ่นที่หนึ่งซึ่งปรากฏตัวในตอนทดลองออกอากาศ "Rescue at Midnight Castle" ต่อมาโทนสีของทไวไลท์นั้นเปลี่ยนให้มีความคล้ายคลึงกับม้าดินจากรุ่นที่สามที่ชื่อว่า ทไวไลท์ ทวิงเกิล ซึ่งมีแผงคอกับหางที่ต่างกันเล็กน้อย ลอเรน ฟาวส์กล่าวเพิ่มเติมว่าเดิมทีเเล้วทไวไลท์มีผมสีน้ำเงินเข้มพร้อมลายพาดสีน้ำเงินอ่อน[4]
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเคยมีชื่อว่า "ทไวไลท์ ทวิงเกิล" ในช่วงการเขียนบทเริ่มแรกของรายการนี้โดยตั้งตามโพนี่ที่เป็นแบบในรุ่นที่สามตามที่กล่าวมา[5] ชื่อนี้เองมูนแดนเซอร์เพื่อนในวัยเด็กของทไวไลท์ก็เรียกเธอแบบเดียวกันในตอน Amending Fences และในเกมโทรศัพท์ของเกมลอฟต์ก็เป็นหนึ่งในชื่อคอสตูมของเธอ เป็นการอ้างอิงถึงชื่อเก่านี้
ทไวไลท์จากรุ่นที่หนึ่งเทเลพอร์ตตัวเองโดยการอธิษฐานและยังชอบดูฝูงหิ่งห้อย สำหรับทไวไลท์ สปาร์คเกิลจากรุ่นที่สี่แล้ว โพนี่ทั้งสองตัวนี้มีสิ่งที่คล้ายๆกัน ต่างกันแค่สปาร์คเกิลมีความสามารถในการใช้เวทย์มนตร์เทเลพอร์ตและชอบดูกลุ่มดาวบนท้องฟ้าแทน แต่กระนั้นเธอมีความเป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในความสามารถทางเวทย์มนตร์มากกว่าเท่าตัว นอกจากนี้เธอยังมีนิสัยที่คล้ายกับเพกาซัสจากรุ่นที่หนึ่งอย่าง วินด์วิสเซอร์ เช่นการพิจารณาผ่านตรรกะมากกว่าสัญชาติญาณ และมีความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นต้น อีกทั้งเธอก็ยังมีนิสัยที่คล้ายกับโพนี่จากรุ่นที่หนึ่งอย่าง ไบรท์อายส์ เล็กน้อย
งานเสก็ตช์ปี 2008 สำหรับการออกแบบเริ่มแรกของซีรี่ส์ คิ้วตี้มาร์คของทไวไลท์มีความคล้ายคลีงของมูนเเดนเซอร์และมูนแดนเซอร์ตัวอื่นๆจากรุ่นก่อนหน้านี้ของมายลิตเติลโพนี่ ชื่อของเธอนั้นมีรูปแบบเดียวกันกับ ซันเซ็ต ชิมเมอร์, สตาไลท์ กลิมเมอร์ และสตาร์บีม ทวิงเกิล ซึ่งเป็นการใช้คำที่มีความหมายสอดคล้องหรือใกล้เคียงกันในตั้งชื่อกับนามสกุล
ลอเรน ฟาวส์เคยมีแผนให้ทไวไลท์มีพลังในการลอยตัว"ในบางจุด"[6] หลังจากการจากไปของฟาวส์ในการมีส่วนร่วมกับซีรี่ส์นี้ ทไวไลท์ใช้พลังนี้แค่สองตอนในซีซั่นสามได้แก่ The Crystal Empire - Part 2 และ Magical Mystery Cure
หนังสือเบื้องหลังอย่าง The Art of Equestria แสดงเพิ่มเติมว่าทไวไลท์ในตอนตั้งต้นเคยถูกออกแบบให้มีแผงคอกับหางเป็นเฉดสีน้ำเงินสองเฉดที่ต่างกัน อีกทั้งคิ้วตี้มาร์คในตอนแรกเป็นเสี้ยวพระจันทร์สีขาวพร้อมดาวดวงเล็กห้าดวง ซึ่งผู้ประพันธ์อย่าง แมรี่ เจน บีกิน กล่าวว่า"เป็นการแสดงทั้งในความภักดีและความรู้ในเวทย์มนตร์"
ในฐานะอลิคอร์น เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิลสูงขึ้นเล็กน้อย[7] คอของเธอโค้งเพิ่มไม่มาก และเขาของเธอก็ยาวขึ้นกว่าตอนเคยเป็นยูนิคอร์น ฉายากับชื่อของเธอนั้นยังสอดคล้องกับยูนิคอร์นจากรุ่นที่หนึ่งอย่าง เจ้าหญิงสปาร์คเคิล สุดท้ายในตอนอวสาน The Last Problem เธอสูงขึ้นอย่างเท่าตัวและมีแผงคอกับหางที่ปลิวสไวเฉกเช่นเดียวกับองค์หญิงเซเลสเทียและองค์หญิงลูน่า
การเดินทางและบทบาทในซีรี่ส์กับคอมมิค
ชีวิตในวัยเด็ก
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นลูกคนที่สองของคุณและคุณนายสปาร์คเคิล; ไนท์ไลท์ผู้เป็นพ่อและทไวไลท์เวลเลทผู้เป็นแม่ และน้องสาวสุดน่ารักของพี่ชาย; ไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ เธอเติบโตภายใต้ครอบครัวที่อบอุ่นในนครแคนเทอล็อท สนิทสนมกับพี่ชายเป็นอย่างมากถึงขั้นเรียกเขาว่า "พ.ก.พ.ก.ต" หรือ"พี่กับน้องเพื่อนกันตลอดไป" วันหนึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าร่วมเทศกาลฉลองตะวันขึ้นผันและช่วงนั้นเองที่ทำให้เธอได้พบกับองค์หญิงเซเลสเทียที่กำลังเบิกตะวันอยู่เบื้องหน้า สร้างความรู้สึกประทับใจในความทรงพลังเวทย์มนตร์ขององค์หญิงแก่เธอ ด้วยสิ่งนี้เอง ความสนใจในเวทย์มนตร์ของทไวไลท์จึงกำเนิดขึ้น เธอยึดเซเลสเทียเป็นแบบอย่างและหมั่นศึกษาฝึกฝนในเรื่องเวทย์มนตร์เป็นประจำ และในการศึกษานี้ทำให้เธอได้บุคคลในประวัติศาสตร์เข้าเป็นแบบอย่างเพิ่มมาอีกตัวนั่นคือ สตาเสวิร์ลหนวดงาม
ต่อมา พี่ชายของทไวไลท์พบรักกับเจ้าหญิงเคเดนซ์ และให้นางมาเป็นพี่เลี้ยงของเธอ ปรากฏว่าทไวไลท์นั้นสามารถเข้ากันได้ดีกับเคเดนซ์และถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญในชีวิตของเธอก็ว่าได้ ทั้งสองแต่งและร้องเพลงนี้ประจำเมื่อใดก็ตามที่ได้เจอกัน; "แสงแดด แสงแดด เต่าทองตื่นแสงแดด ตบกีบเท้า สะบัดก้นเราไปมา!"
เวลาแห่งการเข้าสู่การเล่าเรียนของทไวไลท์กำลังเข้ามา โดยเธอเลือกเข้าโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ของเซเลสเทีย โดยจะต้องผ่านการสอบด้วยการแสดงเวทย์มนตร์ไปก่อน เมื่อวันแห่งการทดสอบมาถึงหลังจากการฝึกฝนมาเป็นประจำ ทไวไลท์ได้โจทย์ให้ต้องฟักไข่ยักษ์ฟองหนึ่งด้วยเวทย์มนตร์น้อยๆของเธอ แต่ทว่าเธอกลับไม่สามารถทำได้ พลังของเธอดันอ่อนแอตอนนี้เสียอย่างนั้น สีหน้าเหล่ากรรมการต่างเคร่งขึงและผิดหวัง แต่ทันใดนั้น... ก็ได้บังเกิดระเบิดสายรุ้งหรือโซนิคเรนบูมผ่านโรงเรียนไป ระเบิดอันรุนแรงนี้กระตุ้นเวทย์มนตร์ของทไวไลท์ให้กลับมาทำงานอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงเวทย์มนตร์กระจายไปทั่ว ทำให้ไข่สามารถฟักมาได้ และคิ้วตี้มาร์คก็ปรากฏขึ้นบนตัวเธอ องค์หญิงเซเลสเทียรับรู้ถึงพลังเวทย์มนตร์ของเธอแม้จะอยู่นอกอาคาร หลังจากโซนิคเรนบูมรวมถึงทไวไลท์สงบลง องค์หญิงเซเลสเทียเข้ามาและยอมรับทไวไลท์เข้าโรงเรียนแห่งนี้ อีกทั้งยังตั้งให้เป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของพระองค์ พระองค์เห็นถึงความสามารถอันมหัศจรรย์ในเวทย์มนตร์ของทไวไลท์ ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ของเธอนั้น เธอได้รับหน้าที่อีกอย่างหนึ่งจากองค์หญิง สิ่งที่ฟักออกมาจากไข่คือมังกรทารกตัวน้อยสีม่วงไร้เดียงสาตัวหนึ่ง พระองค์มอบหน้าที่ให้ทไวไลท์ดูแลมันขณะเล่าเรียนไปด้วย ทไวลี่ยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก
ต่อมาในชีวิตวัยเรียนของเธอ ทไวไลท์ทำได้ดีเลยทีเดียวในเรื่องการเรียนแม้ตอนแรกการที่จะต้องดูแลมังกรน้อยไปด้วยจะเป็นอุปสรรคหลักสำหรับเธอ สร้างความรำคาญใจมากมาย แต่ท้ายที่สุดเธอก็เข้าใจว่ามันแค่ต้องการเพื่อนซึ่งนั่นก็คือเธอที่ต้องการด้วยเช่นกัน ทไวไลท์จึงตั้งชื่อมันว่า "สไปค์" ตามคำที่มันพยายามจะเรียกชื่อตุ๊กตาสมาร์ตตี้แพ้นท์ของเธอ สไปค์สำหรับทไวไลท์นั้นก็เหมือนกับสมาชิกครอบครัวอีกตัว โตมาด้วยกันและสนิทด้วยกัน ไม่ต่างจากพี่ชายของเธอ ชีวิตในเรียนของเธอดำเนินมาเรื่อยๆ มีกลุ่มเพื่อนสาวซึ่งได้แก่ เลม่อน ฮาร์ท, มินูเอท, ทวิงเกิลไชน์, และมูนแดนเซอร์ แต่อย่างไรก็ตามทไวไลท์ไม่ค่อยจะคบค้าสมาคมมากเท่าไหร่ ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องมิตรภาพมากนัก...
ซีซั่นหนึ่ง
เวลาผ่านมาเรื่อยๆจนเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเหมือนเหล่าเพื่อนๆกับเธอจะจบการศึกษาไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงทำแบบเดิม ไม่ใส่ใจเพื่อน สนใจแค่เวทย์มนตร์กับครอบครัว สไปค์เองก็โตขึ้นตามติดๆกันและกลายเป็นผู้ช่วยของเธอ ทไวไลท์ยังคงเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวขององค์หญิงเซเลสเทีย และแล้ววันหนึ่งทไวไลท์ค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับคำทำนายการกลับมาของไนท์แมร์มูน อดีตอลิคอร์นองค์น้อง ซึ่งปรากฏว่าเป็นคืนนี้พอดิบพอดี เธอตื่นตระหนกและพยายามไปเตือนองค์หญิงเซเลสเทียโดยปฏิเสธงานเลี้ยงที่เพื่อนชวน แต่พระองค์กลับส่งให้เธอไปตรวจสอบความเรียบร้อยในการจัดงานฉลองตะวันขึ้นผันซึ่งปีนี้จัดขึ้นในเมืองเล็กๆนามว่าโพนี่วิลล์ ทไวไลท์ต้องไปอย่างไม่เต็มใจนัก เธอบอกลาพี่ชายก่อนนั่งรถลากกับสไปค์มุ่งหน้าจากไป
เมื่อมาถึง ทไวไลท์ตรวจสอบความเรียบร้อยของงานตามรายการ และได้พบกับโพนี่แต่ละตัวที่รับผิดชอบในฝ่ายนั้นๆ แอปเปิ้ลแจ็คฝ่ายอาหารจัดเลี้ยง เรนโบว์แดชฝ่ายดูแลสภาพอากาศ แรริตี้ฝ่ายตกแต่งสถานที่จัด ฟลัตเทอร์ชายฝ่ายควบคุมวงนกร้องประสาน และสุดท้ายพิ้งค์กี้พาย...ฝ่ายจัดงานเลี้ยง! อย่างไรก็ตามการพบโพนี่ใหม่ๆไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับเธอ เธอระบายให้สไปค์ฟังว่าการพบเพื่อนใหม่รบกวนการศึกษาการต่อกรไนท์แมร์มูนด้วยธาตุแห่งความปรองดองของเธอ ไม่นานนักช่วงเวลาแห่งงานฉลองตะวันขึ้นผันกำลังจะจัดขึ้น เธอกับสไปค์จึงเข้าดูงานคิดว่าอย่างน้อยก็จะได้พบองค์หญิงเซเลสเทียอีกครั้ง แต่ทว่าอาชาที่ปรากฏตัวมานั้นคือไนท์แมร์มูนที่หวนกลับมาดั่งคำทำนายด้วยความต้องการเปลี่ยนเอเควสเทรียเป็นสถานที่แห่งราตรีนิรันด์ ทไวไลท์ตื่นตระหนกรีบกลับไปหาข้อมูลที่ห้องสมุดเรื่องธาตุที่ใช้ต่อกรไนท์แมร์มูน โดยมีโพนี่ห้าตัวที่ทำความรู้จักก่อนหน้าตามมาด้วยเพราะสังเกตว่าเหมือนเธอรู้อะไรบางอย่าง ซึ่งทไวไลท์ก็ตกใจแต่ก็ยอมอธิบายเรื่องราวทั้งหมดพร้อมบอกว่าธาตุแห่งความปรองดองที่ว่านั้นอยู่ในปราสาทสองพี่น้องยังป่าเอฟเวอร์ฟรี โดยโพนี่ทั้งห้านั้นจะขอตามไปด้วยร่วมกับทไวไลท์และสไปค์เพื่อร่วมปกป้องบ้านเมืองด้วยกัน
การตะลุยผ่านป่าเอฟเวอร์ฟรีของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดเสียวและอันตราย อีกทั้งยังรวมเข้ากับกลหลอกของไนท์แมร์มูนที่คอยเผ้ามองพวกเขาอยู่ แต่ละอุปสรรคล้วนเป็นบททดสอบของพวกเขาแต่ละตัว ซึ่งท้ายที่สุดก็ผ่านทั้งหมดมาได้ พวกเขาก้าวเข้าไปในซากปราสาท พบกับมณีไม่กี่ก้อนโดยเชื่อว่าเป็นตัวธาตุในช่วงโบราณ แต่แล้วไนท์แมร์มูนก็ปรากฏกายขึ้น ทำลายมณีพวกนั้นจนเป็นเศษซาก
ทไวไลท์ตระหนักได้ว่าอุปสรรคที่เธอกับเหล่าโพนี่ผ่านมาเป็นบททดสอบตัวแทนของธาตุ ทำให้เธอประกาศกร้าวว่าจิตวิญญาณของธาตุแห่งความปรองดองนั้นอยู่ในตัวเธอ... และเพื่อนของเธอ ในที่สุดทไวไลท์ สปาร์คเคิลก็ยอมรับให้มิตรภาพเข้าสู่ใจของเธอ...
หลังจากคำประกาศของเธอที่แสดงถึงมิตรภาพอย่างแท้จริง ทำให้เศษมณีรวมตัวกันเป็นสร้อยคอแขวนใส่โพนี่แต่ละตัวเป็นตัวแทนของธาตุ ทไวไลท์กลายเป็นตัวแทนของธาตุมนตรา ร่วมกันสร้างลำแสงรุ้งกำจัดไนท์แมร์มูน พลังแห่งความมืดหายไปเหลือเพียงแต่องค์หญิงลูน่าในสถาพอ่อนแอ องค์หญิงเซเลสเทียปรากฏกายและชื่นชมในทไวไลท์และเพื่อนใหม่ของเธอ พระองค์ได้องค์น้องกลับมาอีกครั้งหลังจากพลัดพรากไปราวพันปี ทไวไลท์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของมิตรภาพและตัดสินใจที่จะอยู่โพนี่วิลล์กับเพื่อนใหม่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมัน โดยได้มอบหมายให้ส่งรายงานมิตรภาพให้องค์หญิงเซเลสเทียเมื่อได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆเกี่ยวกับมิตรภาพ... ส่วนบ้าน... เซเลสเทียมอบห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กของเมืองเป็นที่อยู่อาศัยของทไวไลท์ในโพนี่วิลล์ให้ อีกทั้งยังแจกบัตรเข้าร่วมงานแกรนด์กาล็อปปิงกาล่าที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ให้เธอกับเพื่อนๆอีกด้วยเป็นคำขอบคุณ... แม้จะเผลอแจกแค่สามใบในตอนแรก จนเกิดการแก่งแย่งก็ตาม... แต่อย่างน้อยทไวไลท์ก็ได้บทเรียนมิตรภาพเรื่องที่สองในโพนี่วิลล์!
- ช่วงเวลาในโพนี่ิวิลล์
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลดำเนินบทใหม่ของชีวิตไปได้ด้วยดี ทำความเข้าใจเพื่อนใหม่ทีละตัวและบันทึกบทเรียนมิตรภาพทุกๆครั้งที่ได้มา ชีวิตของเธอในโพนี่วิลล์เต็มไปด้วยสีสันและมิตรภาพ ผจญภัยไปกับเพื่อนใหม่กับสไปค์ เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆไปพร้อมกัน ตลอดช่วงเวลานี้ของเธอได้แก่...
เห็นความอุตสาหะของเพื่อนอย่างแอปเปิ้ลแจ็คพร้อมทั้งเข้าไปช่วยร่วมกับเพื่อนที่เหลือ, เห็นเพื่อนทั้งสองอย่างเรนโบว์แดชกับพิ้งค์กี้พายเริ่มสนิทกัน, ช่วยโพนี่วิลล์จากการโดนหมีดาวคุกคามแต่ทว่า...เธอสร้างความอับอายแก่นักมายากลสัญจรทริกซี่ที่โอ้อวดว่าสามารถกำจัดหมีดาวได้แต่ทำไม่ได้โดยไม่ตั้งใจ เธอเผลอสร้างศัตรูโดยบังเอิญ..., เห็นถึงความกล้าหาญของฟลัตเทอร์ชายในการเผชิญหน้ามังกร, เห็นแอปเปิลแจ็คกับแรริตี้เริ่มเข้ากันในปาร์ตี้ชุดนอน, เธอกับเพื่อนทำความรู้จักกับม้าลายนักปรุงยาซีโกร่า, เข้างานวิ่งสะเทือนใบไม้และเห็นเพื่อนอย่างแอปเปิ้ลแจ็คกับเรนโบว์แดชเรียนรู้บทเรียนมิตรภาพ, เห็นความน่าทึ่งในตัวพิ้งค์กี้พายที่สามารถไล่ฝูงพาราสไปรท์ออกจากเมืองได้แม้จะสบประมาทเธอในตอนแรก, จัดระเบียบงานเก็บหวาดล้างหน้าหนาวของเมืองให้มีประสิทธิภาพขึ้น, เห็นมิตรภาพของเหล่าเด็กบั้นท้ายสะอาดที่ร่วมตั้งทีมด้วยกันในนามว่า"คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์", เรียนรู้กับเพื่อนว่าไม่ควรเรื่องมากจนเกินไปในความเอื้อเฟื้อของแรริตี้ จนได้ชุดงานกาล่าอันงดงามที่จะได้ใส่ในเร็ววัน, สนิทสนมกับพิ้งค์กี้พายมากขึ้นจากความสนใจในพฤติกรรมประหลาดของเธอ, เห็นเรนโบว์แดชสร้างโซนิกเรนบูม, เห็นความเริ่มสนิทกันของฟลัตเทอร์ชายกับคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์, เห็นความทะเยอทะยานในการตามหาคิ้วตี้มาร์คของคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์, เห็นความฉลาดของแรริตี้ในการต่อกรกับหมาไดม็อนด็อก, เห็นในมิตรภาพความเข้าใจของฟลัตเทอร์ชายกับแรริตี้, ไปเมืองแอปเปิลลูซ่ากับเพื่อนตามแอปเปิลแจ็คและเห็นการคืนดีระหว่างกระทิงพื้นเมืองกับเหล่าโพนี่, เห็นนกฟินิกส์ชื่อฟิโลมินาสัตว์เลี้ยงขององค์หญิงเซเลสเทีย, ได้รู้ในท้ายที่สุดว่าระเบิดสายรุ้งในวัยเด็กเป็นฝีมือของเรนโบว์แดชในตอนนั้น ทำให้เธอเคลิ้มพรรณนาว่ามิตรภาพแท้มาก่อนกาล, ร่วมฉลองวันเกิดพิ้งค์กี้พายกับจระเข้กัมมี่สัตว์เลี้ยงของเธอ, และสุดท้าย...เข้าร่วมงานแกรนด์กาล็อปปิงกาล่ากับเพื่อนที่ใฝ่ฝันมานาน โดยเธอตั้งใจจะไปพบกับองค์หญิงอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเธอกับทุกคนผิดหวังในงานเหมือนกัน จนมาตัดพ้อร่วมกันในร้านโดนัท สร้างความเฮฮาแก่เธอกับเพื่อนมากกว่างานเสียอีก! มิตรภาพนี่แสนวิเศษจริงๆ เธออาจจะคิดก็ได้
ซีซั่นสอง
- การหวนคืนแห่งความปรองดอง
เวลาผ่านไปและทุกอย่างเป็นปกติ จนกระทั่งมันไม่อีกครั้ง... เมื่ออยู่ดีๆตัวตนแห่งความโกลาหลนามว่าดิสคอร์ดฟื้นมาจากการจองจำเป็นรูปปั้นแล้วเริ่มก่อความหายะนะวุ่นวายรอบโพนี่วิลล์ คราวนี้องค์หญิงทั้งสองเรียกเธอกับเพื่อนๆเพื่อกอบกู้เอเควสเทรียอีกครั้ง โดยอธิบายว่าธาตุแห่งความปรองดองที่เธอกับเพื่อนถืออยู่ พระองค์ทั้งสองเคยใช้กำจัดดิสคอร์ดเมื่อนานมาแล้ว แต่ด้วยการที่ลูน่ากลายเป็นไนท์แมร์มูนทำให้สายสัมพันธ์ของธาตุอ่อนแอลงจนดิสคอร์ดค่อยๆกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง และตอนนี้มีแค่เธอกับเพื่อน ผู้ถือธาตุปัจจุบันที่สามารถเอาชนะดิสคอร์ดได้ เธอกับเพื่อนรับทราบและเปิดห้องเก็บธาตุแต่พบว่าธาตุหายไป ดิสคอร์ดปรากฏตัวขึ้นและหลอกล่อให้เธอกับเพื่อนเล่นเกมทดสอบมิตรภาพเพื่อคืนธาตุ เธอกับเพื่อนต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือกแต่นั่นเป็นกับดัก ดิสคอร์ดสร้างความแตกหักเพื่อนๆแต่ละตัวยกเว้นทไวไลท์ เธอสิ้นหวังและเห็นว่ามิตรภาพที่อุตส่าห์สร้างมาพังทลายโดยดิสคอร์ด แต่เมื่อเธอลองอ่านรายงานมิตรภาพที่เคยส่งไปหลายฉบับทำให้เธอนึกถึงมิตรภาพดีๆกับเพื่อน เธอกลับมาฮึกเหิม และค้นพบว่าแท้จริงแล้วธาตุเก็บไว้ที่ห้องสมุดของเธอเอง ทไวไลท์กลับไปฟื้นฟูมิตรภาพเพื่อนๆทีละตัวจนสำเร็จ และร่วมกันใช้พลังแห่งมิตรภาพจากธาตุแห่งความปรองดองคุมขังดิสคอร์ดเป็นรูปปั้นอีกครั้งในท้ายที่สุด แม้จะเจอเจ้าแห่งความวุ่นวายที่ปั่นหัวเธอ แต่ด้วยบทเรียนที่ได้มาทำให้ทไวไลท์สามารถผ่านบททดสอบมิตรภาพครั้งนี้ไปได้ เธอกับเพื่อนได้รับคำชื่นชมจากองค์หญิงและเหล่าโพนี่
- ช่วงเวลาในโพนี่วิลล์กับเพื่อน
ชีวิตกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ทไวไลท์ดำเนินชีวิตในโพนี่วิลล์ร่วมกับเพื่อนต่อ และดูเหมือนว่ามีความผูกพันมากขึ้น แต่แล้ว... มันปกติมากเกินไป ทไวไลท์ไม่มีรายงานมิตรภาพส่งให้องค์หญิงตามที่กำหนด เธอตื่นตระหนกและกลัวว่าองค์หญิงจะลงโทษเธอ เธอจึงสร้างความปั่นป่วนขึ้นมาโดยยอมเสียตุ๊กตาในวัยเด็กของเธอย่างสมาร์ทตี้แพ้นท์ สร้างเวทย์มนตร์หว่านเสน่ห์ใส่มันจนเผลอทำให้เหล่าโพนี่ต่างรุมตุ๊กตาของเธอ สไปค์เป็นห่วงเธออย่างมากเลยเรียกองค์หญิงเซเลสเทียให้มาคุยกับเธอ จนท้ายที่สุดทไวไลท์ก็ใจเย็นลง องค์หญิงเซเลสเทียเห็นว่านอกจากทไวไลท์แล้ว เพื่อนของเธอเองก็สมควรได้รับการเรียนรู้บทเรียนมิตรภาพเช่นกัน ฉะนั้นพระองค์จึงมอบหมายให้เพื่อนของเธอสามารถส่งบทเรียนมิตรภาพได้ แต่เฉพาะเมื่อใดก็ตามที่พบเท่านั้น องค์หญิงจากไปฝากบทเรียนแก่ทไวไลท์และเพื่อนๆรวมถึงสไปค์ที่ทไวไลท์ก็เห็นในความเป็นห่วงของเขา...
ทไวไลท์ดำเนินชีวิตต่อไปในโพนี่วิลล์ร่วมกับเพื่อนกับสไปค์ เจอบทเรียนบ้าง เจอเรื่องแปลกประหลาดบ้าง ซึ่งได้แก่... ทำให้องค์หญิงลูน่าอดีตไนท์แมร์มูนเป็นที่ยอมรับแก่ราษฏรในคืนแห่งฝันร้าย, ร่วมกันสั่งสอนเรนโบว์แดชให้ถ่อมตัวลงบ้างกับเพื่อนที่เหลือโดยการปลอมเป็น"อาชาผู้แสนดี" ที่ถึงแม้ปฏิบัติการนี้อาจจะ...เหลวไหลก็ตาม เพราะเธอก็พูดชมตัวเองว่า"อาชาแสนดีใช้เวทย์มนตร์เก่งจัง" , ฉลองวันเกิดตัวเองในงานเลี้ยงที่แคนเทอล็อต และดูเหมือนว่าเธอเริ่มติดนิสัยจากเพื่อนแล้ว, เห็นสไปค์ที่อยู่ดีๆกลายร่างเป็นมังกรยักษ์, แสดงละครเวทีประวัติศาสตร์การสถาปนาเอเควสเทรียโดยเล่นเป็นโคลเวอร์ผู้ชาญฉลาด, ให้กำลังใจแอปเปิลแจ็คร่วมกับเพื่อนว่าไม่เป็นไรที่แม้จะไม่ได้ที่หนึ่งในการแข่งโรดิโอ, ป้ายยานิยายแดริ่งดูให้เรนโบว์แดชโดยไม่ตั้งใจแล้วสำเร็จเกินคาด, ย้อนเวลาเพื่อมาเตือนตัวเองในอดีตว่าไม่มีอะไรต้องน่ากังวล แต่พูดไม่จบจนเธอในอดีตต้องมาย้อนเตือนเธอในอดีตอีกทีแต่ก็พูดไม่จบ และก็วนไปเรื่อยๆ, เธอกับแรริตี้ตามสไปค์ไปสำรวจแดนมังกร, สืบคดีการแอบกินเค้กที่ไว้ส่งประกวดบนรถไฟ, และเธอกับเพื่อนช่วยแรริตี้จากเหล่าพลังงานแห่งฝันร้ายที่มาทวงคืนคำสัญญาของไนท์แมร์มูน พร้อมทำให้เหล่าพลังงานกลายเป็นพลังงานแห่งฝันดี
- วิวาห์แคนเทอล็อท
วันหนึ่งเธอได้รับจดหมายเชิญชวน ทำให้ทราบว่าไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ พี่ชายแสนดีของเธอกำลังจะแต่งงานกับเจ้าหญิงเคเดนซ์พี่เลี้ยงของเธอในวัยเด็ก ช่วงเวลาดีๆกับพี่ชายเล่นย้อนใส่หัวของทไวไลท์มาไม่หยุด เธอคิดถึงพี่ชายผู้แสนดี ครั้งล่าสุดที่เจอกันคือตอนจากลาไปโพนี่วิลล์ เธออยากกลับไปพบเขาอีกครั้ง ทไวไลท์กับเพื่อนที่ได้รับการเชิญชวนด้วยเดินทางไปแคนเทอล็อต และทไวไลท์ก็ได้พบกับพี่ชายอีกครั้ง ทั้งสองยังคงสนิทสนมกันอย่างเช่นเคย แต่ทว่าเจ้าหญิงเคเดนซ์พี่เลี้ยงในวัยเด็กนั้นเปลี่ยนไป เฉี่อยชากับทไวไลท์ ร้องเพลงแสงแดดก็ไม่มี จนกระทั่งได้พบความจริงว่าเคเดนซ์ตัวนี้เป็นราชินีคริสซาลิส ราชินีแห่งเหล่าเชนจ์ลิ่ง ที่ปลอมตัวมาเพื่อดูดกลืนความรักจากการแต่งงานครั้งนี้ ทไวไลท์สามารถช่วยเคเดนซ์ตัวจริงที่ถูกจับตัวไว้ได้และกอบกู้เมืองแคนเทอล็อตร่วมกับเพื่อนๆจากการโจมตีของเหล่าเชนจ์ลิ่ง ท้ายที่สุดด้วยพลังแห่งความรักจากเคเดนซ์กับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ทำให้คริสซาลิสกับเหล่าเชนจ์ลิ่งกระจายลอยออกจากแคนเทอล็อต ทไวไลท์กับเพื่อนกอบกู้เอเควสเทรียรอบที่ 3 สำเร็จ และคราวนี้เธอเป็นสักขีพยานการแต่งงานของพี่ชายผู้แสนดีกับพี่เลี้ยงในวัยเด็กของเธอ
และต่อมา... ราชินีคริสซาลิสก็กลับมาโดยการจับเด็กๆคิ้วตี้มาร์คเป็นตัวประกัน และทำให้ทไวไลท์กับสไปค์กับเพื่อนต้องร่วมออกเดินทางไปยังฐานทัพใหม่ของเหล่าเชนจ์ลิ่งทางตอนใต้ของเอเควสเทรีย แม้จะลำบาก โดนล่อลวง และความเล่ห์แหลมของคริสซาลิส ในที่สุดเธอกับเพื่อนๆก็สามารถเอาขนะเหล่าเชนจ์ลิ่งได้ และเปลี่ยนจากฐานทัพใหม่ของพวกมันเป็นคุกแทน
ซีซั่นสาม
- อาณาจักรคริสตัล
ณ แถบภูมิภาคทางเหนือของเอเควสเทรีย อาณาจักรคริสตัลปรากฏกลับมาหลังจากหายวับไปเมื่อพันปีที่แล้วรวมถึงราชาซอมบร้าผู้ต้องการพิชิตด้วย... ซึ่งนั่นหมายถึงทไวไลท์กับเพื่อนถูกส่งเรียกไปกอบกู้เอเควสเทรียอีกครั้ง อีกทั้งพี่ชายกับ(อดีต)พี่เลี้ยงของทไวไลท์ก็ถูกส่งให้ไปช่วยหยุดการรุกรานของซอมบร้า และครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นบททดสอบจากองค์หญิงเซเลสเทียเสียด้วย พลังของซอมบร้าทรงพลังจนทำให้พี่ชายกับพี่เลี้ยงเหนื่อยล้า ทไวไลท์กับเพื่อนพบหัวใจคริสตัลในใต้ดินซึ่งมันสามารถกำจัดซอมบร้าได้ สไปค์รับหน้าที่เอาและสามารถวางบนแท่นได้ ทำให้อาณาจักรกลับมามีพลังคริสตัลอีกครั้งจนซอมบร้าถูกกำจัด สไปค์ได้รับเชิดชูเกียรติ ส่วนพี่ชายกับพี่เลี้ยงของทไวไลท์ก็กลายเป็นผู้ครองราชย์แห่งอาณาจักรคริสตัล ทไวไลท์กับเพื่อนผ่านบททดสอบมิตรภาพอีกครั้ง
- ช่วงเวลาต่างๆอีกเช่นเคย
ชีวิตของทไลไลท์ดำเนินต่อมาอย่างปกติเหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเวลาสนุกกับเพื่อนๆหรือการเรียนรู้มิตรภาพ และดูเหมือนว่าทไวไลท์มีความเข้าใจในมิตรภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนสามารถมอบมันให้แก่โพนี่ตัวอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนได้ ชีวิตในบทนี้ของเธอได้แก่...
การได้รับมอบหมายจากองค์หญิงเซเลสเทียให้เป็นผู้ช่วยโพนี่อดีตนักจัดเก็บเอกสารราชวงศ์ชื่อเจดซิงเกอร์ที่กำลังกีบหัก ซึ่งเจดก็เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ทไวไลท์ชื่นชอบทำให้เธอสามารถสานความสัมพันธ์เจดกับองค์หญิงได้อีกครั้ง, พบกับแสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทริกซี่ ศัตรูที่เธอสร้างโดยบังเอิญที่กลับมาโพนี่วิลล์พร้อมอำนาจเครื่องรางอลิคอร์นเพื่อมาแก้แค้นเธอโดยเฉพาะ ทริกซี่แสดงอำนาจถึงเครื่องรางต่อเธอและโพนี่ตัวอื่นอีกทั้งยังต้องการยึดเมืองอีก แต่ท้ายที่สุดทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นสามารถนำทริกซี่ออกจากการครอบงำของเครื่องรางได้จนกลับมาเป็นปกติพร้อมสำนึกผิด ทไวไลท์ให้อภัยทริกซี่ก่อนนักมายากลสัญจรตัวนี้จะจากไป อย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่ไว้ใจทริกซี่มากนักเห็นจากความอาคาตของทริกซี่ในตอนแรก, ร่วมยินดีเรนโบว์แดชที่ได้เข้าทีมวอนเดอร์โบลท์ตามฝัน, รับรู้ถึงถึงความเมตตาของฟลัตเทอร์ชายที่สามารถทำให้ดิสคอร์ด จ้าวแห่งความวุ่นวายที่สร้างความปั่นป่วนเมื่อคราวก่อนกลับตัวกลับใจได้ตามความมอบหมายขององค์หญิงที่เห็นว่าดิสคอร์ดสามารถกลับตัวได้, เข้าชมงานเอเควสเทรียเกมที่อาณาจักรคริสตัลกับเพื่อน
- การรักษาปริศนาทางเวทย์มนตร์
ทไวไลท์ทำการศึกษาเวทย์มตร์ในยามราตรีอย่างเช่นเคย ในคืนนี้เธอดูตำราเวทย์มนตร์ชิ้นโบว์แดงที่ยังไม่เสร็จของสตาเสวิร์ลหนวดงามที่องค์หญิงเซเลสเทียมอบหมายให้ต่อยอดคาถาหน้าสุดท้ายนั้นให้เสร็จ ที่ต้องเป็นเธอเพราะองค์หญิงเชื่อว่ามีแค่ทไวไลท์ที่ทำได้ ทไวไลท์อ่านคาถาพวกนั้นก่อนที่จะเข้านอนพักเตรียมเข้าสู่พรุ่งนี้ที่สดใส แต่...คงไม่ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อวันต่อมาทั้งเมืองโพนี่วิลล์ตกอยู่ในความวุ่นวายจากการที่เพื่อนของทไวไลท์ทั้งห้าที่อยู่ๆ คิ้วตี้มาร์คของพวกเขาสลับกันทำให้ต้องทำตามจุดประสงค์ของคิ้วตี้มาร์คนั้นอย่างไม่ได้เรื่อง ทไวไลท์ตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่เธอไปอ่านคาถาเวทย์มนตร์เมื่อคืน แต่เธอไม่สามารถหาวิธีแก้ไขอะไรได้เลย เธอระทมทุกข์มองภาพเธอกับเหล่าเพื่อน สไปค์ก็คอยให้กำลังใจเธอจนทำให้ทไวไลท์คิดออก เธอต้องใข้ตัวแทนมนตราของเธอเองในการเตือนความจำเพื่อนๆถึงจุดประสงค์ของพวกเขาเอง ท้ายที่สุดทไวไลท์ก็ทำสำเร็จในการฟื้นฟูเพื่อนๆของเธออีกทั้งเป็นการสำเร็จคาถาของสตาเสวิร์ลอีกด้วย จากนั้นทไวไลท์ถูกองค์หญิงพาไปยังมิติที่มีฉากหลังเป็นเนบิวลาอันสวยงาม แสดงความยินดีต่อลูกศิษย์ที่สามารถเสร็จสิ้นคาถาของสตาเสวิร์ลได้ เนื่องจากคาถานั้นต้องใช้ความรู้ในมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่สตาเสวิร์ลยังมีไม่พอ เซเลสเทียรู้สึกประทับใจและยินดีที่ได้ทไวไลท์มาเป็นลูกศิษย์ของพระองค์ ทไวไลท์เรียนรู้มาเรื่อยๆจนในที่สุดก็สำเร็จการเป็นลูกศิษย์ขององค์หญิงและพร้อมที่จะเติมเต็มโชคชะตาของตัวเอง องค์หญิงเซเลสเทียมอบปีกเพกาซัสแก่ทไวไลท์จนกลายร่างเป็นอลิคอร์นดั่งพระองค์ ันั่นคือประกาศนียบัตรของทไวไลท์ เพื่อนๆต่างมุงดูความมหัศจรรย์ตรงหน้า ทไวไลท์ซาบซึ้งพวกเขาที่ทำให้สามารถมาถึงจุดนี้ได้อีกทั้งยังสอนบทเรียนชีวิตให้ ถ้าไม่มีพวกเขาเธอคงไม่มีชีวิตที่ดีแบบนี้ อีกทั้งทำให้เธอได้กลายเป็น...เจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอย่างเป็นทางการพร้อมทั้งมีการจัดพิธีราชาพิเษกยังแคนเทอล็อต ทุกๆคนรวมถึงพี่ชายที่แสนดีของเธอต่างแสดงความยินดีและซาบซึ้ง
- ก๊วนสาวแห่งเอเควสเทรีย
หลังจากการได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ทไวไลท์ต้องเข้าร่วมการประชุมองค์หญิงครั้งแรกของเธอ ณ อาณาจักรคริสตัลโดยมีเพื่อนๆตามมาด้วย แต่ทว่าในคืนนั้นที่เธอกำลังพักผ่อนก็ได้มียูนิคอร์นสีส้มมาขโมยมงกุฏของเธอและกระเข้ากระจกไป เธอทราบในวันรุ่งขึ้นว่านั่นคือซันเซ็ตชิมเมอร์ อดีตลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทียที่หันไปสู่ความอยากมีอำนาจตามคำกล่าวของพระองค์ และการขโมยมงกุฏไปคือหนึ่งในแผนการการครอบครองเวทย์มนตร์ของเธอ ทไวไลท์ต้องข้ามกระจกตามไปโดยมีสไปค์ขอตามมาด้วยจนได้เข้ามาสู่...โลกมนุษย์ โลกแห่งนี้มีเหล่าเพื่อนของเธอและเหล่าโพนี่ที่คุ้นหน้าคุ้นตาที่อยู่ในวัยมัธยม เพียงแค่พวกเขาไม่ใช่อาชาแต่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ และอีกทั้งที่นี่วิทยาการก้าวล้ำไปกว่าเอเควสเทรียหลายเท่าแต่ไม่มีเวทย์มนตร์ ทไวไลท์กลายเป็นมนุษย์วัยมัธยมส่วนสไปค์กลายเป็นหมา(เนื่องจากที่นี่มังกรเป็นแค่สัตว์ในเทพนิยาย)เมื่อเข้ามา แม้จะปรับตัวได้ยากแต่ทไวไลท์กับสไปค์ก็สามารถเรียนรู้วิถีชีวิตมนุษย์ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทไวไลท์พบกับเพื่อนของเธอในร่างมนุษย์กับซันเซ็ต ชิมเมอร์ผู้ซึ่งเป็นนักเลงในโรงเรียน เธอพบว่าเพื่อนๆในโลกนี้ไม่ลงรอยกันทั้งๆที่เมื่อก่อนก็สนิทกันไม่ต่างจากที่เอเควสเทรียพร้อมกับสาเหตุที่เกิดจากซันเซ็ตค่อยๆใส่สีตีแต่งพวกเขาแต่ละคนจนเกลียดหน้ากัน ด้วยบทเรียนแห่งมิตรภาพที่ได้มาหลายครั้งพร้อมกับประกาศนียบัตรที่พึ่งได้มา ทไวไลท์สามารถสร้างความปรองดองแก่เพื่อนๆของเธอของโลกแห่งนี้จนพวกเขากลับมาดีกันได้อีกครั้ง ก่อนที่จะร่วมกันหยุดแผนการหายนะของซันเซ็ต ชิมเมอร์ในงานพร็อมได้สำเร็จ ซันเซ็ตตระหนักในความผิดของตัวเองและคืนมงกุฏแก่ทไวไลท์ ซันเซ็ตปฏิเสธที่จะกลับเอเควสเทรีย เธอตัดสินใจจะอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไปร่วมกับเพื่อนทไวไลท์ของโลกนี้เพราะต้องการเรียนรู้ในเรื่องมิตรภาพเช่นเดียวกับที่ทไวไลท์เคยทำ ทไวไลท์เห็นในความสำนึกผิดของซันเซ็ตจึงยอมรับคำขอโทษนี้และผูกมิตรกับเธอกลายเป็นเพื่อน ก่อนข้ามกระจกกลับเอเควสเทรียกับสไปค์พร้อมความตื้นตั้นใจ เมื่อข้ามกลับถึงเอเควสเทรีย ทไวไลท์บอกเล่าเรื่องราวของซันเซ็ต ชิมเมอร์ที่สำนึกผิดแก่องค์หญิงเซเลสเทียให้ทราบว่าอดีตลูกศิษย์ตัวนี้ของพระองค์กลับสู่หนทางที่ดีแล้ว นอกจากนี้การผจญภัยในโลกมนุษย์ทำให้เธอมีคนที่แอบชอบด้วย ชื่อของเขาคือ "แฟลชเซ็นทรี" ซึ่งเขาก็มีตัวตนในโลกโพนี่เช่นกันในฐานะองครักษ์แถมยังได้พบกันอีก แต่นั่นก็เป็นแค่ความแอบชอบของทไวไลท์เท่านั้นไม่ได้หลงรักแบบโรแมนติก
ซีซั่นสี่
- เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิล
การเป็นอลิคอร์นก็ไม่ได้สบายนัก ทไวไลท์ต้องฝึกบินเพื่อให้คุ้นชินกับปีกของตัวเองโดยมีเพื่อนๆเป็นกำลังใจ แต่ไม่นานนักงานก็เข้าอีกครั้งเมื่อองค์หญิงสองพี่น้องหายตัวไปอีกทั้งยังมีเถาวัลย์ประหลาดจากป่าเอฟเวอร์ฟรีรุกรานเมือง ทไวไลท์กับเพื่อนพบสาเหตุว่าเกิดจากดิสคอร์ดเมื่อพันปีที่แล้ว เขาได้หว่านเมล็ดพลันเดอร์ซีดก่อนจะโดนจองจำกลายเป็นรูปปั้นเพื่อให้ไปหยุดการทำงานของ...พฤกษาแห่งความปรองดองที่อยู่ใกล้อดีตปราสาทของสองพี่น้องอลิคอร์น ทไวไลท์กับเพื่อนต้องเดินทางผ่านป่าเอฟเวอร์อีกครั้งเพื่อไปยังพฤกษาแห่งความปรองดองพร้อมธาตุแห่งความปรองดองเนื่องจากพบมาว่าธาตุมาจากพฤกษา เมื่อเธอกับเพื่อนมาถึงก็พบกับตัวพฤกษาแล้วคืนธาตุแก่มัน พฤกษาฟื้นฟูพลัง ทำลายเถาวัลย์จนสิ้นซากและองค์หญิงทั้งสองเป็นอิสระจากมัน อีกทั้งยังงอกดอกไม้กลายเป็นหีบแห่งความปรอดองที่มีรูกุญแจหกดอกเป็นปริศนาไว้ ทไวไลท์กับเพื่อนผ่านบททดสอบมิตรภาพมาได้ดั่งเช่นเคยทั้งนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากดิสคอร์ดเองกับซีโกร่าด้วย และองค์หญิงทั้งสองก็กลับไปจัดงานฉลองตะวันขึ้นผันต่อ
- บทใหม่ของการเป็นอลิคอร์น
ชีวิตของทไวไลท์ก็ดำเนินไปอย่างเช่นเคย แต่คราวนี้ในฐานะเจ้าหญิงมิตรภาพกับอลิคอร์น แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เธอก็รู้จักการถ่อมตน ปรนนิบัติต่อตัวเองและโพนี่ตัวอื่นไม่ต่างจากสมัยที่เป็นโพนี่สามัญชนธรรมดา และโพนี่ตัวอื่นก็ทำแบบนี้ต่อเธอเช่นกัน ชีวิตในบทนี้ของทไวไลท์ก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับคราวก่อนมากนัก ซึ่งได้แก่...
สำรวจอดีตปราสาทสองพี่น้องกับเพื่อนและพบกับบันทึกของสองพระองค์ จึงลองบันทึกตาม, ออกเดินทางข้ามทะเลกับเพื่อนโดยมีกัปตันฮูฟเบียร์ดนำทาง และมอบเวทย์มนตร์หายใจใต้น้ำแก่เขาเพื่อที่จะได้อยู่กับเงือกที่หลงรัก, พบว่าแดริ่งดูมีตัวตนอยู่จริงในฐานะเจ้าของเรื่องของตัวเองพร้อมกับเพือน, โดนดูดเข้าไปอยู่ในโลกของคอมมิคพาวเวอร์โพนี่ที่สไปค์ซื้อมาจากร้านเวทย์มนตร์พร้อมกับเพื่อน และเอาชนะตัวร้ายในนั้นจนออกมาได้, ร่วมหยุดหนอนกินหนังสือในห้องสมุดที่ทำให้วายร้ายจากหนังสือต่างๆหลุดมาในโลกแห่งความจริงกับเพื่อน โดยชุกจูงให้มันทำหน้าที่ฟื้นฟูหนังสือแทน, เผลอทำให้ฟลัตเทอร์ชายมีเชื้อโพนี่ค้างคาวจากการเปลี่ยนจิตใจพวกค้างคาวไม่ให้กินแอปเปิลในไร่, เตือนสติเรนโบว์แดชในการเลือกข้างทีมในเอเควสเทรีย, โดนดิสคอร์ดที่แกล้งป่วยรบกวนขณะแคเดนซ์มาเยี่ยม แต่อย่างน้อยก็ได้ผจญภัยหรรษากับอดีตพี่เลี้ยง, เยี่ยมพี่ชายในอณาจักรคริสตัลและพบกับคริสตัลบาร์ดเชลยของซอมบร้า จึงให้มันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ในพระราชวัง, ผจญภัยข้ามมิติกับเพื่อนเพื่อต้องไปช่วยซอมบร้าผู้เมตตาในมิตินี้ที่เซเลสเทียหลงรัก แต่ท้ายที่สุดซอมบร้าในมิตินี้ก็เป็นผู้ที่จบทุกอย่างลงด้วยการเสียสละเพื่อไม่ให้มิติเกิดรอยร้าว, กลายเป็นขวัญใจเหล่าเด็กๆโดยบังเอิญจากฝีกีบคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ แต่เธอก็เตือนสติพวกเขาว่าไม่ควรทำแบบนี้, ทำความรู้จักกับม็อดพาย พี่สาวของพิ้งค์กี้พาย, โดนพวกเคลปี้สะกดจิตเช่นเดียวกับเพื่อนและชาวเมืองเพื่อทำลายเขื่อนท่วมโพนี่วิลล์ แต่ได้เหล่าสัตว์เลี้ยงมาช่วยไว้, ติวข้อสอบวอนเดอร์โบลท์ให้เรนโบว์แดชด้วยวิธีที่เรนโบว์แดชถนัด, ไปงานแลกซื้อของที่นำตกสายรุ้งกับเพื่อน, เดินทางไปยังแคนเทอร์ครีกกับเพื่อนนำโดยแอปเปิลแจ็ค และทำหน้าที่จับแก็งค์กระทิงเลวเข้าคุก, ปวดหัวกับวีรกรรมของสไปค์ที่มอบตำราเวทย์มนตร์แก่แรริตี้ที่เผลอทำให้ทั้งเมืองวุ่นวาย, ช่วยหยุดการบ้าขนมของพิ้งค์กี้พาย
- อาณาจักรของทไวไลท์
ชีวิตอันสงบสุขต้องลาพักอีกครั้งเมื่อมีภัยคุกคามเอเควสเทรียที่รอบนี้คือลอร์ดทีเร็ค ผู้ที่เคยจะยึดครองและดูดกลืนเวทย์มนตร์ทั่วเอเควสเทรียเมื่อพันปีที่แล้ว สามารถหนีออกจากคุกทาทารัสได้ ทไวไลท์กับเพื่อนได้รับข้อมูลนี้จากองค์หญิงและเตรียมการรับมือพร้อมแจ้งประกาศให้ชาวเมืองหาที่หลบซ่อน ทีเร็คดูดกลืนเวทย์มนตร์เหล่าโพนี่ตามภูมิภาคต่างๆมาเรื่อยๆจนทำให้เขาฟื้นฟูพลังพร้อมความช่วยเหลือจากดิสคอร์ดที่โดนชักจูงโดยเขา ทีเร็คมาถึงแคนเทอล็อตและโพนี่วิลล์ เพื่อนของเธอกับองค์หญิงไม่อาจต้านทานเขาได้ เหลือเพียงแค่ทไวไลท์ ทำให้ดิสคอร์ดตระหนักและสำนึกผิดแต่ก็สายเกินไป เกิดการต่อสู้อย่างหนักระหว่างเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพกับลอร์ดทีเร็ค ห้องสมุดที่เหมือนบ้านของเธอโดนทำลายจนเหลือแต่ซาก แต่ความหวังก็ยังมีอยู่นั่นคือหีบแห่งความปรองดอง เธอกับเพื่อนต่างได้กุญแจที่ใช้ไขมันมาแล้วและทำการปลดล็อค หีบมอบพลังสายรุ้งแก่เธอกับเพื่อนทำให้เอาชนะทีเร็คได้อย่างราบคาบ จนพลังของเขาเสื่อมสลายและเตะส่งเข้าจองจำคุกทาทารัสได้อีกครั้ง เวทย์มนตร์ที่เขาขโมยมาก็กลับคืนสู่เอเควสเทรีย ส่วนหีบก็ยังสร้างปราสาทแห่งมิตรภาพซึ่งเป็นบ้านใหม่ของทไวไลท์กับสไปค์ให้ซึ่งมีความหรูหรามากขึ้น ทไวไลท์กับเพื่อนผ่านบททดสอบแห่งมิตรภาพได้เหมือนเช่นเคย แถมได้บ้านขนาดใหญ่ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องเสียห้องสมุดในความทรงจำไป...
- เรนโบว์ร็อค
หลังจากทุกอย่างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทไวไลท์กำลังย้ายของเข้าไปในบ้านใหม่หรือปราสาทมิตรภาพกับสไปค์ซึ่งมีประตูกระจกคริสตัลเป็นหนึ่งในนั้น กระจกที่เคยนำพาเธอไปพบซันเซ็ต ชิมเมอร์ ขณะนั้นก็มีโพนี่ส่งของมาส่งหนังสือบันทึกขององค์หญิงเซเลสเทียที่สั่นและส่องสว่างในทันใด ทไวไลท์เปิดดูกับเพื่อนเและพบว่ามันคือหนังสือที่ซันเซ็ตกับองค์หญิงใช้ส่งข้อความกัน และตอนนี้ซันเซ็ตกำลังเรียกหาเธอเพื่อมาช่วยจัดการกับพวกแดซลิ่งหรืออดีตไซเรนที่กำลังจะยึดโลกมนุษย์ ทไวไลท์อยากเข้าไปช่วยแต่กระจกนั้นไม่สามารถเปิดติดได้ ด้วยคำแนะนำจากพิ้งค์กี้พายและมันส์สมองของเธอเอง ทไวไลท์เปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของกระจกใหม่โดยใช้บันทึกเป็นพลังงานเปิดประตู ทไวไลท์ก้าวสู่ต่างโลกกับสไปค์อีกครั้งเพื่อมาช่วยผองเพื่อน เมื่อข้ามมา ทไวไลท์โดนรุมกอดจากเหล่าเพื่อนๆด้วยความคิดถึง หลังจากช่วงเวลาแห่งการระลึก ทไวไลท์ร่วมวางแผนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเอาชนะสามอดีตไซเรนนี้ในวันแสดงดนตรีของโรงเรียนกับซันเซ็ตและเพื่อนที่เหลือ และในท้ายที่สุดเธอกับเพื่อนๆทั้งหมดก็สามารถเอาชนะพวกแดซลิ่งไปได้ แม้จะต้องทะเลาะกันในตอนแรกซึ่งโดนอิทธิพลจากเวทย์มนตร์ของแดซลิ่ง พร้อมรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากดีเจของโรงเรียน ไวนิ่ล แสครช ทำให้พวกมันสูญเสียพลังกลายเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา พลังมิตรภาพทำให้เธอกับเพื่อนสามารถเอาชนะได้อีกเช่นเคย ก่อนจากกัน ทไวไลท์บอกซันเซ็ตว่าเธอปรับปรุงประตูให้สามารถเปิดเมื่อใดก็ได้แล้ว และเธอหรือซันเซ็ตก็แวะมาหาได้เช่นกัน ทไวไลท์กับสไปค์กลับเอเควสเทรียพร้อมเรื่องราวเล่าต่อเพื่อนฝูงเดิมแต่ต่างจักรวาล
ซีซั่นห้า
- แผนที่คิ้วตี้
หลังจากจัดบ้านใหม่เสร็จเรียบร้อย ทไวไลท์กับผองเพื่อนจึงเริ่มสร้างความคุ้นชินแก่มันแทนที่ห้องสมุดในอดีต แต่เมื่อนั้นเองเธอกับเพื่อนบังเอิญไปเปิดการทำงานของโต๊ะแผนที่เอเควสเทรีย แผนที่นี้มีความคล้ายโฮโลแกรมดาวเทียมที่แสดงถึงทั่วทั้งดินแดนนี้ และตอนนี้เหมือนกำลังเรียกเธอกับเพื่อนไปยังตำแหน่งหมู่บ้านแห่งหนึ่งโดยใช้คิ้วตี้มาร์คเป็นตัวแทน การเรียกร้องของแผนที่กระตุ้นทไวไลท์กับผองเพื่อนถึงความสำคัญบางอย่างซึ่งอดไม่ได้ที่ต้องไปตามดู เสมือนเป็นภารกิจมิตรภาพบางอย่าง เมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ ทไวไลท์กับเพื่อนทำความรู้จักกับ สตาไลท์ กลิมเมอร์ ผู้นำของที่นี่ที่แนะนำว่าหมู่บ้านของเธอคือสถานที่แห่งความเท่าเทียมที่โพนี่ทุกตัวจะไม่มีคิ้วตี้มาร์คสื่อถึงความพิเศษ ทไวไลท์กับเพื่อนมีลางสังหรณ์ไม่ดีกับที่นี่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาอีกทั้งยังเห็นท่าทีของผู้นำหมู่บ้านอีก และนั่นเองที่เธอกับเพื่อนต่างคิดถูก สตาไลท์ใช้โอกาสในที่ลับตาดึงคิ้วตี้มาร์คของเธอกับเพื่อนออกไปจากนั้นเก็บไว้ในโหลที่สะสมคิ้วตี้มาร์คของโพนี่ผู้โชคร้ายก่อนหน้า พลังของยูนิคอร์นพร้อมคฑาตัวนี้ช่างเหนือกว่าเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ทไวไลท์กับเพื่อนตอนนี้ต่างไม่มีคิ้วตี้มาร์ค ความสามารถหายไป อีกทั้งยังโดนการล้างสมองด้วยแนวคิดอุดมการณ์ของสตาไลท์อีก... จนกระทั่งได้พบความจริงว่าสตาไลท์เองก็มีคิ้วตี้มาร์คอยู่โดยไม่รู้ว่าที่ทำตามอุดมการณ์ไร้สาระเช่นนี้เพราะเหตุใด ในวันรุ่งขึ้นทไวไลท์กับเพื่อนสามารถเปิดโปงความจริงของผู้นำอุดมการณ์ตัวนี้ได้อีกทั้งยังสามารถนำคิ้วตี้มาร์คคืนสู่โพนี่ทุกตัวพร้อมเธอกับเพื่อนๆ ส่วนสตาไลท์นั้นหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ในที่สุดทไวไลท์กับเพื่อนก็สามารถคืนความสงบสุขแก่โพนี่ผู้โชคร้ายเหล่านี้ได้ เช่นนี้เองก็เป็นการสำเร็จภารกิจมิตรภาพที่แผนที่มอบให้มาเมื่อกลับปราสาท ทไวไลท์กับเพื่อนเชื่อว่าภารกิจมิตรภาพมีมาอีกอย่างแน่นอน
- เจ้าหญิงแห่งมิตรภาพแห่งปราสาทมิตรภาพ
บ้านอันแสนสุขแห่งใหม่ก็เทียบไม่ได้เท่าห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กที่มีความผูกพันตั้งแต่อาศัยในโพนี่วิลล์ เพื่อนของทไวไลท์เข้าใจดีจึงเห็นพ้องต้องกันในการนำความทรงจำเหล่านั้นสานต่อในปราสาทแห่งนี้ ฉะนั้นพวกเขาจึงถอนรากถอนโคนซากที่เหลืออยู่ของห้องสมุดมาประดับเป็นโคมไฟห้อยในห้องโถงหลักของปราสาท ทไวไลท์ตื้นตันและซึ้งใจในเพื่อนที่แสนดีอย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก อย่างน้อยห้องสมุดในความทรงจำก็จะไม่มีวันถูกลืมเลือน
ทไวไลท์ สปาร์คเกิลดำเนินชีวิตต่อไปร่วมกับสไปค์กับเพื่อนของเธออย่างเช่นเคย โดยคราวนี้อาศัยอยู่ในปราสาทมิตรภาพอันมโหฬาร และมีลูกเล่นใหม่เพิ่มเข้ามานั่นคือแผนที่คิ้วตี้ที่จะมอบภารกิจมิตรภาพส่งให้เธอหรือเพื่อนไปแก้ไขปัญหาของเหล่าโพนี่เกือบทั่วเอเควสเทรีย ภารกิจเหล่านี้นอกจากเป็นการสอนมิตรภาพแก่โพนี่ตัวนั้นๆแล้ว ยังคงเป็นบทเรียนมิตรภาพชีวิตแก่ผู้ที่ถูกส่งไปด้วย ความหรรษาในชีวิตของทไวไลท์ยังคงเกิดขึ้นเช่นเคย ไม่ว่าเรื่องเล็กๆ หรือความปั่นป่วนระดับใหญ่ ได้แก่...
พบกับเหล่ากวางแห่งป่าเอฟเวอร์ฟรีพร้อมหยุดมิโนทอร์ชื่อเวล-ทู-ดูถางป่าของพวกเขาร่วมกับเพื่อน, พาเชียริ่ลลี่พบแฝดของเธอร่วมกับเพื่อน, ไปงานแกรนด์กาล็อปปิ้งกาล่าอีกครั้งร่วมกับเพื่อน แม้ตอนแรกจะดูราบรื่นกว่าครั้งที่แล้วแต่สุดท้ายดิสคอร์ดเข้ามาเกือบทำล่ม, ไล่บั๊กแบร์ที่บุกโพนี่วิลล์ร่วมกับเพื่อนทำให้พลาดชมการแต่งงานของลาคู่รัก, หยุดสงครามกลางเมืองโพนี่วิลล์ในวันครบรอบวันก่อตั้งเมืองนี้ เหตุเกิดจากการทะเลาะไร้สาระ, ฝากสไปค์เป็นต้วแทนในการประชุมเอเควสเทรีย ซึ่งไม่คิดว่าเขาจะเกือบทำพัง, เป็นหนึ่งในสักขีพยานในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเอเควสเทรียกับยักยากิสถาน, พบกับเพื่อนในวัยเด็กทั้งหมดอีกครั้งรวมถึงมูนแดนเซอร์ระหว่างอยู่แคนเทอล็อต ซึ่งมูนแดนเซอร์เองเป็นผู้ที่ชวนทไวไลท์เข้างานเลี้ยง ณ จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เมื่อรู้ว่าโดนปฏิเสธจึงหงุดหงิดในทไวไลท์ที่เหมือนหยิ่งมาโดยตลอดตั้งแต่นั้นมา สุดท้ายแล้วทไวไลท์จึงขอโทษและเข้างานเลี้ยงร่วมกับเพื่อนเก่าทั้งหมดเพื่อชดเชยในครั้งนั้น มูนแดนเซอร์เองให้อภัย ซ่อมรอยร้าวความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่า, ช่วยองค์หญิงลูน่าเอาชนะปีศาจทันทาบัส ตัวแทนความรู้สึกผิดของพระองค์สมัยเป็นไนท์แมร์มูนในฝันร่วมกับเพื่อนและชาวเมืองสำเร็จ, กำจัดพวกแอปเปิลจากเวทย์มนตร์อุกบาตที่รุกรานเมืองกับเพื่อนสำเร็จ โดยการเปลี่ยนให้ตัวเองกับเพื่อนเป็นโพนี่ค้างคาวจากเชื้อค้างคาวในตัวฟลัตเทอร์ชาย, เรียนรู้ในการบริหารงานโดยการเข้าไปในหัวของบิ๊กแม็คอินทัชเพื่อศึกษาตาม, ช่วยจัดงานวันเกิดขององค์หญิงลูน่าตามคำร้องของพระองค์กับพิ้งค์กี้พาย, เข้า"บ้านผีสิง"ที่ฟลัตเทอร์ชายจัดได้อย่างดีกับเพื่อนที่เหลือในคืนแห่งฝันร้าย, บังเอิญสร้างความหายนะแก่โพนี่วิลล์กับเพื่อนที่เหลือจากการแช่น้ำพุร้อนอำนาจมืดที่เปลี่ยนให้เธอกับเพื่อนกลับตาลปัตรกลายเป็นวายร้าย แต่สุดท้ายสไปค์ คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ และองค์หญิงลูน่าฟื้นฟูเธอกับเพื่อนสำเร็จ, เห็นว่าเพื่อนๆสนิทกับดิสคอร์ดมากขึ้น, หยุดการทะเลาะอย่างรุนแรงที่มีมานานระหว่างตระกูลฮูฟฟิลด์กับตระกูลแม็คโคลท์กับฟลัตเทอร์ชายตามภารกิจของแผนที่ิคิ้วตี้สำเร็จ
- คิ้วตี้ทำใหม่
หลังจากทไวไลท์ สปาร์คเกิลบรรยายถึงเริ่องราวและการเดินทางแห่งมิตรภาพของเธอกับเพื่อนๆในงานประชุมแห่งหนึ่ง เธอกลับปราสาทของเธอเคียงข้างสไปค์ แต่เมื่อเปิดประตูก็พบกลับศัตรูตัวดีตัวเดิม สตาไลท์ กลิมเมอร์ที่กำลังยิ้มเย้ยพร้อมวัตถุเวทย์มนตร์บางอย่างก่อนใช้มันเข้าสู่เส้นทางเวลาเพื่อนย้อนอดีตต่อหน้าเธอกับสไปค์ ทไวไลท์กับสไปค์จึงรีบตามเข้าไปทำให้ย้อนกลับมาในอดีตตอนที่เรนโบว์แดชในวัยเด็กกำลังจะได้คิ้วตี้มาร์ค แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น สตาไลท์เข้าไปรบกวนเส้นเวลาต่อหน้าทั้งสอง ทำให้เรนโบว์แดชน้อยไม่ได้รับคิ้วตี้มาร์คอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อกาลเวลาถูกรบกวน ทไวไลท์กับสไปค์โดนส่งคืนไปในช่วงเวลาปัจจุบันที่จากมา แต่กลายเป็นว่านี่ไม่ใช่เอเควสเทรียที่พวกเขารู้จัก นี่คือเอเควสเทรียภายใต้สงครามและความหายนะ ทไวไลท์กับสไปค์ทราบได้ทันทีว่านี่คือผลที่ตามมาจากการรบกวนเส้นเวลาของสตาไลท์ การที่เรนโบว์แดชไม่สร้างโซนิคเรนบูมและกำเนิดคิ้วตี้มาร์คแก่เธอและผองเพื่อนในตอนนั้น ทำให้วีรสตรีทั้งหก(กับสไปค์)แห่งเอเควสเทรียไม่มีตัวตน ภัยคุกคามที่เคยผจญจึงสามารถเอาชนะดินแดนแห่งนี้ได้สำเร็จ โชคยังดีที่เธอกับสไปค์สามารถย้อนกลับไปในช่วงเรนโบว์แดชในวัยเด็กได้อีกครั้งจากซากแผนที่คิ้วตี้ในเส้นเวลานี้ ทไวไลท์พยายามหยุดสตาไลท์ ซึ่งท้ายที่สุดหลังจากความล้มเหลวหลายครั้งเธอก็ทำสำเร็จ สตาไลท์ที่จนมุมจึงยอมเปิดเผยสาเหตุของตัวเอง ทำให้ทไวไลท์ทราบและเริ่มเห็นอกเห็นใจสตาไลท์ ที่ทำไปทั้งหมดในตอนแรกเพราะเพื่อนในวัยเด็กของสตาไลท์ได้คิ้วตี้มาร์คและโดนแยกจากกันเพราะต้องไปเรียนต่อ สตาไลท์เลยเหงาและเกลียดคิ้วตี้มาร์คตั้งแต่นั้นมา ส่วนรอบนี้ที่ย้อนเวลาเปลี่ยนอดีตเพราะสตาไลท์เกลียดทไวไลท์กับผองเพื่อนที่มาทำลายชีวิตในอุดมคติของตัวเอง ทไวไลท์เห็นว่าสตาไลท์ตระหนักในความผิดและมีโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตของตัวเองได้ เธอจึงให้สตาไลท์ กลิมเมอร์กลายเป็นศิษย์ที่คอยเรียนรู้มิตรภาพจากเธอและเพื่อนๆที่มีประสบการณ์จากการเดินทางที่ผ่านมา ทไวไลท์กับสไปค์และสตาไลท์กลับมาปัจจุบันพร้อมแนะนำตัวสตาไลท์ที่กลับใจแก่เพื่อนๆ
ในคราวนี้ทไวไลท์มีหน้าที่เป็นครูผู้มอบความรู้และประสบการณ์ที่มีมามากมายจากการที่เคยเป็นลูกศิษย์แก่ลูกศิษย์ของเธอ สตาไลท์ กลิมเมอร์
ต่อมาไม่นานนัก ทไวไลท์พาศิษย์ของเธอไปปราสาทสองพี่น้องเพื่อจัดระเบียบหนังสือโบราณในนั้นด้วยกัน แต่สไปค์ก็บังเอิญอัญเชิญปีศาจเถาวัลย์จากหนังสือเล่มหนึ่ง แม้ความปั่นป่วนจะมาเยือนครูกับลูกศิษย์คู่นี้ แต่นี่ก็เป็นเหมือนบททดสอบแรกของศิษย์อย่างสตาไลท์ซึ่งท้ายที่สุดก็ผ่าน และถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันและกัน
- การพบกับตัวเองและความพลั้งพลาดของเธอ
มันก็นานแล้วที่เจอหน้าเพื่อนต่างโลกอย่างซันเซ็ต ชิมเมอร์ในครั้งล่าสุด ทไวไลท์จึงเข้าไปเยี่ยมส่วนหนึ่งเพราะเห็นข้อความที่ส่งมาในสมุด เมื่อมาถึงเธอก็พบกับซันเซ็ตกับเพื่อนร่างมนุษย์ และ...ตัวเองในร่างมนุษย์? บรรยากาศเงียบขรึมในทันทีด้วยความอืดอัด เพราะนี่เป็นเหตุการณ์หลังจากทไวไลท์ของโลกนี้เกือบสร้างหายนะแก่โรงเรียนแต่สุดท้ายก็กลับตัวแล้วร่วมกลุ่มฝูงเพื่อน (Friendship Game) ทไวไลท์ทำความรู้จักกับตัวเองก่อนกลับเอเควสเทรีย เพื่อนต่างโลกของเธอคงไม่เหงาแล้วกระมั้ง...
ต่อมาทไวไลท์กับเพื่อนมาเยี่ยมราชินีคริสซาลิสยังปราสาทจองจำของนาง แต่พบว่านางดูท่าไม่ค่อยดี ทไวไลท์จึงเข้าไปดูแต่มันคือกับดัก ราชินีคริสซาลิสกับเหล่าเชนจ์ลิ่งหนีออกจากที่จองจำของพวกมันได้อีกครั้งด้วยการหลงกลของทไวไลท์ เธอทำพลาดซะแล้ว...
ซีซั่นหก
- พิธีคริสตัล
หลังจากการได้รับศิษย์ไม่นานนักพร้อมจัดสรรที่อยู่ในปราสาทให้ ทไวไลท์ สปาร์คเกิลได้ข่าวว่าพี่ชายกับพี่เลี้ยงของเธอประสูติองค์หลานชื่อเฟลอรี่ฮาร์ท และกำลังมีการจัดพิธีคริสตัล แน่นอนเหตุการณ์สำคัญแบบนี้พลาดไม่ได้ ทไวไลท์เดินทางไปอาณาจักรคริสตัลอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนโดยพาศิษย์ของตัวเองไปด้วย ทไวไลท์กลับสู่อ้อมกอดของพี่ชายและเพลงของพี่เลี้ยงเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งสองเปิดเผยว่าลูกของพวกเขานั้นเป็นอลิคอร์นแต่กำเนิดซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในเอเควสเทรีย ทไวไลท์เองทั้งประหลาดและอัศจรรย์ใจไม่ต่างกับเพื่อน ส่วนสตาไลท์ศิษย์ของเธอก็พบกับเพื่อนในวัยเด็กที่เคยเป็นต้นเหตุความชั่วร้ายในครั้งก่อนอย่างไม่คาดคิด เขาชื่อว่าซันเบิร์สท์ เขามาศึกษาเวทย์มนตร์ที่นี่ ไม่นานนักพิธีคริสตัลก็ได้เริ่มขึ้น บุตรสาวอลิคอร์นแห่งตระกูลสปาร์คเกิลตัวใหม่อยู่เบื้องหน้าน้าทไวไลท์กับประชาราษฏรแห่งอาณาจักรคริสตัล แต่ทว่า... พลังของอลิคอร์นน้องใหม่ตัวนี้ไม่สามารถควบคุมได้จนเผลอไปทำลายหัวใจคริสตัลที่ปกป้องอาณาจักรแห่งนี้จากซอมบร้า อำนาจมืดของเขาพร้อมพายุหิมะอันโหดร้ายกำลังบุกมาอีกครั้ง ทไวไลท์ร่วมวางแผนการกับเพื่อนและศิษย์พร้อมได้ซันเบิร์สท์เข้ามาช่วย ท้ายที่สุดก็ทำสำเร็จอย่างเช่นเคย ฟื้นฟูหัวใจคริสตัลขับไล่พายุหิมะกับอำนาจมืด ซึ่งก็ไม่แปลกอย่างใด ทไวไลท์กับผองเพื่อนมีประสบการณ์ในการกู้ดินแดนหลายต่อหลายรอบ แต่ครั้งนี้ได้ศิษย์มาช่วยเป็นครั้งแรก ทำให้เห็นศักยภาพในตัวสตาไลท์นอกจากการสามารถกลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเพื่อนในวัยเด็กสำเร็จ อาณาจักรกลับมาเป็นปกติ พิธีดำเนินต่อจนเสร็จสิ้น ทไวไลท์กับเพื่อนบอกลาสองผู้ครองราชย์ตระกูลสปาร์คเคิลพร้อมสตาไลท์ที่บอกลาซันเบิร์สท์เช่นกัน
- จากศิษย์สู่ครู
จากการกอบกู้อาณาจักรคริสตัลร่วมกัน ทไวไลท์เห็นศักยภาพในสตาไลท์มากขึ้นไม่ต่างกับตอนที่องค์หญิงเซเลสเทียเห็นศักยภาพในตัวทไวไลท์เมื่อเข้าใจถึงมิตรภาพเป็นครั้งแรก ทไวไลท์ดำเนินชีวิตต่อไปในเอเควสเทรียร่วมกับเพื่อนเช่นเคยพร้อมกับการเป็นครูไปด้วย สิ่งนี้เองเป็นการทบทวนเรื่องที่เคยเรียนมาแล้วส่งต่อให้สตาไลท์เรียนรู้ในเรื่องมิตรภาพกับบทเรียนชีวิตตาม ความหรรษาทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ยังคงวนเวียนตัวเธออย่างเช่นเคย ได้แก่...
คืนปีกเรนโบว์แดชจากยูนิคอร์นเลวสามตัวที่ใช้เวทย์มนตร์ดึงออกเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พร้อมลงโทษพวกมันโดยการไม่ให้สามารถใช้เวทย์มนตร์ของตัวเองได้ชั่วคราว, พบกับอดีตศัตรูเก่าอย่างแสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทริกซี่อีกครั้ง เธอยังคงไม่ไว้ใจเช่นเดิมโดยเฉพาะเมื่อสตาไลท์เริ่มเข้าไปสนิทกับทริกซี่ เธอเตือนสตาไลท์แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ เธอไม่ยอมให้ศิษย์ตัวเองเป็นเพื่อนกับศัตรูเก่าอย่างเด็ดขาด แต่หารู้ไม่เธอนั่นเองที่คิดผิด ทั้งศิษย์และศัตรูเก่ามีอดีตที่เหมือนกันคือเคยเป็นศัตรูของเธอและกลับตัวกลับใจแล้ว ทั้งสองสนิทและเข้ากันได้ดี ท้ายที่สุดทไวไลท์ยอมรับในมิตรภาพของทั้งสอง แม้จะเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพกับครู เธอเองก็ไม่ได้ถูกไปหมดทุกเรื่อง ต่อให้จะจบการเป็นศิษย์แล้วก็ยังต้องคอยเรียนรู้เรื่อยๆ, ร่วมฉลองวันอุ่นใจประจำปีนี้กับเพื่อนเช่นเคยพร้อมพาสตาไลท์เข้าร่วมเป็นครั้งแรกจากนิทานวันอุ่นใจ ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นรู้สึกไม่พอใจในตัวฟลิมกับแฟลมที่มาขายของวันอุ่นใจแบบวัตถุนิยมในโพนี่วิลล์ ซึ่งแอปเปิลแจ็คก็เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ปล่อยวางไปเพราะรู้สึกว่าเป็นการยัดเยียดความคิดตัวเองแก่ผู้อื่น, เตือนใจเเคเดนซ์ว่ายังมีค่าเมื่อเข้าตลาดสินค้าเจ้าหญิงแล้วไม่เจอพระองค์, ร่วมวางแผนและลงมือกับชาวเมืองแกล้งเรนโบว์แดชกลับจากการที่สร้างความวุ่นวายไปทั่ว, สั่งสอนตักเตือนสตาไลท์ที่ใช้เวทย์มนตร์ควบคุมเพื่อนของเธอให้มาทำกิจกรรมพร้อมๆกันซึ่งตรงข้ามกับจุดประสงค์ในความมอบหมายที่ให้, ร่วมหยุดแอคคอร์ดร่างตรงข้ามของดิสคอร์ดสร้างอิทธิพลควบคุมจิตใจสำเร็จกับผองเพื่อน, ไกล่เกลี่ยการทะเลาะกันของแรริตี้ พิ้งค์กี้พาย กับแอปเปิลแจ็คหลังจากไปล่องเรือแล้วล่ม, ถูกเรียกจากแผนที่คิ้วตี้ไปทำภารกิจกับกับเรนโบว์แดชในการไปช่วยสองเพกาซัสเพื่อนซี้เชื่อในตัวเองเพื่อผ่านเข้าวอนเดอร์โบลท์ ซึ่งก็ทำสำเร็จ
- หวนคืนและกลับมาอีกครั้ง
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลลืมตาขึ้นมาดั่งการตื่นนอนในยามเช้าหลังจากการหลับใหลในยามราตรี แต่นี่ไม่ใช่ยามเช้าและที่ที่นอนอยู่ไม่ใช่เตียงแต่เป็นเมือก เธอพึ่งตระหนักได้ว่าตัวเอง เพื่อน กับเหล่าองค์หญิงโดนลักพาตัวจากเหล่าเชนจ์ลิ่ง เธอกับตัวอื่นๆได้รับความช่วยเหลือจากศิษย์ของเธอ สตาไลท์ กลิมเมอร์, อดีตศัตรูทริกซี่, ดิสคอร์ด, และเชนจ์ลิ่งตระหนักรู้นามธอแรกซ์เมื่อสักครู่ รอบๆ ตัวมีเหล่าเชนจ์ลิ่งที่ไร้พิษสงดุร้ายไร้ความกระหายดูดกลืนความรักพร้อมมีสีสันเต็มไปทั่วรังของพวกมัน ต่างจากที่ทไวไลท์กับตัวอื่นๆเคยเผชิญมา เธอเห็นสตาไลท์กำลังเจรจากับราชินีคริสซาลิสแห่งเชนจ์ลิ่งแต่มันไม่เป็นผล คริสซาลิสปฏิเสธการตระหนักรู้แห่งความรักใหม่แล้วหนีไปพร้อมความเดือดดาล อย่างไรก็ตามนี่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อแล้ว ศิษย์ของทไวไลท์สามารถช่วยชีวิตเธอกับตัวอื่นๆพร้อมทั้งดินแดนเอเควสเทรีย อีกทั้งยังสามารถทำให้เชนจ์ลิ่งกลับตัวได้ ทไวไลท์ประสบความสำเร็จในการเป็นครูของลูกศิษย์ตัวนี้ หลังจากการพูดคุยกันเล็กน้อยของตัวอื่นๆและการก่อตั้งอาณาจักรเชนจ์ลิ่งใหม่ ทไวไลท์และเหล่าผองเพื่อนเดินทางกลับปราสาทเพื่อจัดพิธีชื่นชมวีรอาชาทั้งสี่นี้
ซีซั่นเจ็ด
พิธีมอบรางวัลขื่นชมจัดอย่างเรียบง่ายในปราสาทมิตรภาพ แต่เต็มไปด้วยความน่ายินดี อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความสามารถในการเป็นครูของทไวไลท์ สปาร์คเคิล ผู้เต็มไปด้วยประสบการณ์จากบทเรียนชีวิตและการผจญภัยร่วมกับสหายมิตรที่มีมา ศิษย์ของเธอกอบกู้เอเควสเทรียร่วมกับพันธมิตรสำเร็จ และนี่คือการผ่านบททดสอบจบการเป็นศิษย์ของเธอ สตาไลท์ กลิมเมอร์สามารถไปใช้ชีวิตของตัวเองได้แต่ก็ยังสามารถอาศัยต่อในปราสาทได้เช่นกัน หลังจากพิธีจบไปทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติอย่างสงบสุข ทไวไลท์ สปาร์คเคิลดำเนินชีวิตบทนี้ต่อไปร่วมกับผองเพื่อนสหายมิตรและเพื่อนตัวอื่นๆอย่างเช่นเคย แน่นอนความปั่นป่วนและความหรรษายังคงวนรอบชีวิตทไวไลท์เช่นเดิม ได้แก่...
พบโพนี่ชื่อชาโดว์ล็อคและร่วมมือกับเพื่อนหยุดเขาในการลบเวลาในประวัติศาสตร์เนื่องจากต้องการหยุดบรรพบุรุษผู้ชั่วร้ายของเขาที่อาจจะกลับมา, ยอมเป็นพี่เลี้ยงของเฟลอรี่ฮาร์ทชั่วคราวแม้จะยุ่งทั้งวันอยู่ก็ตาม เพราะพี่ทั้งสองขอไปใช้เวลาส่วนตัว, ร่วมมือกับเพื่อนและดิสคอร์ดหยุดพิ้งค์กี้พายในการครอบครองมิติของเขาจากการที่ติดใจในความโกลาหล, ตีพิมพ์และวางจำหน่ายบันทึกมิตรภาพที่จดไว้กับเพื่อนตั้งแต่พบบันทึกสองพี่น้องอลิคอร์น ซึ่งบันทึกนี้บรรจุเรื่องราวชีวิตของเธอกับเพื่อน แต่ในตอนแรกโดนรุมล้อมจาก"แฟนคลับ"และพวกขี้สงสัย, ช่วยองค์หญิงเซเลสเทียคืนเครื่องรางปลอมตัวของพระองค์ที่โดนขโมย, เห็นสไปค์สามารถหยุดความขัดแย้งที่เกิดจากการเข้าใจผิดของพวกจามรีกับมังกร, เดินทางไปยังบึงเฮย์ซีดกับฟลัตเทอร์ชายเพื่อรักษาโรคไข้หนองน้ำของซีโกร่า โดยที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของหนึ่งในตำนานวีรอาชา เมจเมโดวบรูค ผู้ที่สามารถรักษาโรคภัยให้หายขาดได้จากคำบอกเล่าของลูกหลานของเธอ แคทเทล และที่นี่ก็มียารักษาโรคไข้หนองน้ำ ความสนใจในวีรอาชาตัวนี้เกิดขึ้นในตัวทไวไลท์กับฟลัตเทอร์ชายที่ต่อมาก็พบเรื่องราวต่างๆจนค้นพบดอกมาเจนต้าบลูมที่รักษาโรคภัยหลายอย่างได้ตามเรื่องเล่า, ไปพักผ่อนล่องเรือเหาะกับครอบครัวแต่ทว่าโดนฝูงชนแย่งเวลาของเธอ แม้จะพลาดชมดวงดาวแต่อย่างน้อยครอบครัวก็ยังเป็นสิ่งสร้างความอุ่นใจแก่เธอเช่นเคย, เผชิญหน้าและหยุดป้าโพนี่ผู้ต่อต้านน้ำตาลที่สร้างความวุ่นวายในเมือง
- การเล่นเงา
การต่อสู้ของเสาหลักแห่งเอเควสเทรียกับโพนี่แห่งเงามืดนั้นเป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์จริงๆ ทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นๆฟังซันเบิร์สท์เล่าจากคัมภีร์ อีกทั้งพบหลักฐานวัตถุโบราณเพิ่มเติมในภายหลัง ในการขังโพนี่เงามืดผู้ชั่วร้ายนั้นเสาหลักต้องขังตัวเองพร้อมๆกับมันในลิมโบ้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หลุดออกมา พวกเขายอมเสียสละตัวเองและหนึ่งในเสาหลักคือสตาเสวิร์ลหนวดงาม นักเวทย์ผู้เป็นไอดอลของทไวไลท์ตั้งแต่ยังเด็ก ความต้องการในการปลดปล่อยพวกเขาจากลิมโบ้นิรันด์เป็นความปรารถนาของทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นๆ ดังนั้นแล้วทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นต่างแยกกันไปศึกษาเสาหลักแต่ละตัวพร้อมวิธีนำพาพวกเขากลับมา เมื่อได้สิ่งที่ต้องการและสถานที่ในการเรียกตัวพวกเขา ทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นๆทำพิธีกรรมปลดปล่อยเสาหลักแห่งเอเควสเทรียออกมาซึ่งก็ทำสำเร็จ แต่เสาหลักไม่ใช่สิ่งเดียวที่ออกมา โพนี่แห่งเงามืดถูกปลดปล่อยเช่นกันและมันหนีไป หลังจากความหลาดใจของเสาหลักเมื่อเผชิญเอเควสเทรียยุคใหม่ ทั้งหมดร่วมประชุมกันในปราสาทมิตรภาพ หาข้อมูลจากตำราต่างๆ ทไวไลท์เองก็รู้สึกผิดที่กำลังจะทำให้เอเควสเทรียพินาศเพียงแค่ต้องการอยากพบไอดอลของตัวเอง เธอมีไอเดียในการใช้ธาตุแห่งความปรองดองเปลี่ยนจิตใจของโพนี่ภายในเงาและเนรเทศแค่เงาอย่างเดียวจากตำราหนึ่งที่พบ แม้สตาเสวิร์ลจะไม่เห็นด้วย แต่ท้ายที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับโพนี่แห่งเงามืด ทไวไลท์เข้าไปในก้นบึ้งของมัน พบความเศร้าหมองของสติเจียนโพนี่ภายในนั้นที่ต้องการแค่อยากดีเด่นเหมือนเสาหลักบ้างเพราะเขาเป็นผู้ที่พาเสาหลักมารวมกันช่วยเอเควสเทรีย ทไวไลท์เตือนใจและสามารถนำเขาออกมาได้ ก่อนเนรเทศเงามืดกลับลิมโบ้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือทั้งเสาหลักและโพนี่ตัวอื่น ทไวไลท์พิสูจน์ให้ไอดอลตัวเองเห็นว่าเขาก็ไม่ได้ถูกเสมอไป สตาเสวิร์ลยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองรวมทั้งเสาหลักที่เหลือ ท้ายที่สุดทไวไลท์กับผองเพื่อนนอกจากปลดปล่อยตำนานเสาหลักจากการกักขังนิรันด์แล้ว ยังสามารถเตือนใจโพนี่ผู้หลงผิดภายในเงามืดได้ ความสามารถของเธอกับผองเพื่อน เสาหลักยอมรับในสิ่งนั้น
- มิตรภาพที่ถูกลืมเลือนของซันเซ็ต ชิมเมอร์
ความสงบสุขกลับสู่เอเควสเทรียดั่งเดิม แต่ไม่สำหรับเพื่อนต่างมิติของเธออย่างซันเซ็ต ชิมเมอร์ ทไวไลท์รับรู้ถึงความหายนะของซันเซ็ตจากข้อความที่ส่งมา เพื่อนในมิติของเธออยู่ดีๆก็ลืมเธอราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนเสียอย่างนั้น ทไวไลท์ยินดีมอบความช่วยเหลือแก่ซันเซ็ตเมื่อก้าวออกจากกระจก เธอพาซันเซ็ตมายังห้องสมุดแคนเทอล็อตเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับศิลาความทรงจำที่ถูกส่งมายังโลกมนุษย์ ซึ่งมีตำราข้อมูลที่สามารถช่วยชีวิตซันเซ็ตได้ เมื่อทราบวิธีเอาชนะหายนะนี้ ซันเซ็ตกลับโลกมนุษย์ของเธอ ทไวไลท์เองรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยและเชื่อว่าซันเซ็ตทำได้ซึ่งก็สำเร็จจริงๆ
- การรุกรานของราชาสตอร์ม
ความรื่นรมย์ผาสุขยังคงมีเช่นเคย พร้อมกับเทศกาลมิตรภาพครั้งแรกที่กำลังจัดขึ้นในกรุงแคนเทอล็อตโดยมีเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอย่างทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นผู้กำกับดูแล เทศกาลนี้เต็มไปด้วยความครื้นเครงมากมาย ทั้งการตกแต่ง อาหาร-เครื่องดื่ม ดนตรีบรรเลง หรือแม้แต่กิจกรรมสนุกสนานอื่นๆ องค์หญิงที่เหลือก็ต่างมารับชมงานนี้ด้วย อาชาราษฏรโพนี่ทั้งหลายกำลังมีความสุข ทไวไลท์เองก็เช่นกันจนกระทั้่ง... การรุกรานจากกองทัพของราชาสตอร์มผู้ต้องการพิชิตโลก ราชาสตอร์มนำทัพทำลายความสุขของเหล่าโพนี่ ขังประชาชนจองจำองค์หญิงเป็นรูปปั้นยกเว้นทไวไลท์ที่เธอสามารถหลบหนีมาได้กับเหล่าเพื่อนสหายมิตรผ่านลำธาร ราชาสตอร์มทรงพลังยิ่งนักถึงขั้นสามารถเอาชนะองค์หญิงอลิคอร์นได้ นั่นเพราะส่วนหนึ่งเขามีโพนี่ผู้ช่วยอย่างเทมเปสท์ ชาโดว์... ลำธารพัดพาทไวไลท์กับผองเพื่อนมายังทางตอนใต้ของแผ่นดินเอเควสเทรีย พวกเขาต้องหาวิธีเอาชนะราชาพายุนั่นรวมทั้งโพนี่ที่หักหลังเผ่าตัวเอง แต่ทว่าตอนนี้ต้องหาที่หลบซ่อนชั่วคราวก่อน ทไวไลท์กับตัวที่เหลือเดินทางอย่างเหนื่อยล้าลงใต้มาเรื่อยๆ จนทำให้พบเมืองคลูดจ์ทาวน์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธ์ุที่ไม่ใช่โพนี่อย่างเธอ อีกทั้งพบกับแมวยืนสองขาชื่อแคปเปอร์ผู้ที่เต็มใจช่วยเพราะเคยโดนราชาสตอร์มโจมตีบ้านเกิดตัวเองเช่นกัน ต่อมาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเรือบินของนกแก้วนำโดยกัปตันซาเลาโน่ที่ช่วยเธอกับเพื่อนจากการตามล่าของสตอร์ม ฝั่งพวกเขาเองก็มีความบาดหมางกับสตอร์มเช่นกัน ต่อมาก็โดนโจมตีทำให้เธอกับเพื่อนร่วงไปในดินแดนใต้ทะเลนามว่าซีเควสเทรียของเหล่าซีโพนี่และอดีตฮิปโปกริฟที่ดินแดนของตัวเองโดนราชาสตอร์มยึดครอง หลังจากการทะเลาะกันระหว่างเธอกับเพื่อนในวิธีการช่วยเอเควสเทรียโดยการขโมยไข่มุกของพวกซีโพนี่แต่ล้มเหลว ทไวไลท์โดนเทมเปสท์ ชาโดว์จับตัว เทมเปสท์เล่าประวัติอันน่าสงสารที่เป็นเหตุในการต้องมารับใช้ราชาสตอร์มเพื่อคำสัญญาจากเขา เทมเปสท์พาเธอกลับแคนเทอล็อทเพื่อที่ราชาสตอร์มจะได้ใช้เวทย์มนตร์จากอลิคอร์นทั้งสี่เพิ่มความทรงพลังแก่คฑาของเขา เมื่อได้ตามต้องการ ราชาสตอร์มไม่ทำตามสัญญาของเทมเปสท์ในการซ่อมแซมเขายูนิคอร์นของเธอ แต่ทันใดนั้นผองเพื่อนของทไวไลท์ แคปเปอร์ เรือบินนกแก้ว และฮิปโปกริฟ มายังแคนเทอล็อทและโจมตีทัพของราชาสตอร์มกลับซึ่งทัพของเขาแพ้อย่างราบคาบ ที่กลับมาได้นั้นเพราะสไปค์เตือนเพื่อนของเธอรวมทั้งตัวที่เหลือก็พร้อมตามมาช่วย ในความวุ่นวายนั้น ทไวไลท์ช่วยชีวิตเทมเปสท์เอาไว้โดยกล่าวว่านี่คือสิ่งที่เพื่อนต้องทำ ส่วนราชาสตอร์มนั้นตายไปอย่างราบคาบจากคฑาเขาเอง... แคนเทอล็อทกลับมาสงบสุขอีกครั้ง องค์หญิงกับประชาชนถูกปลดปล่อย เทศกาลแห่งมิตรภาพดำเนินต่อไปด้วยความสุขเช่นเคย ราชาสตอร์มจอมพิชิตที่มอบความน่าสะพรึงกลัวแก่หลากเผ่าพันธุ์ถูกโค่นล้มไป การผจญภัยครั้งนี้ ทไวไลท์ได้เปลี่ยนจิตใจของโพนี่ผู้หลงผิดอีกคน เทมเปสท์ ชาโดว์ รวมทั้งได้ผูกมิตรกับเธอ อีกทั้งยังค้นพบร่วมกับเพื่อนอีกว่ายังมีดินแดนที่กว้างขวางและใหญ่นอกเอเควสเทรีย รวมถึงเหล่าสายพันธุ์ต่างๆที่สมควรเรียนรู้ถึงมิตรภาพ...
- (ไม่)พักผ่อนฤดูใบไม้ผลิของซันเซ็ต
หลังจากการผจญภัยอันสุดเหวี่ยงและการค้นพบดินแดนต่างถิ่น ทไวไลท์กลับมาพักผ่อนและศึกษาหนังสือเพิ่มเติมในปราสาทมิตรภาพกับผู้ช่วยสไปค์จนกระทั่ง... ซันเซ็ตโผล่มาแต่จากหน้าประตูพร้อมเรนโบว์แดชกับตัวเธอที่ไม่มีปีกและใส่แว่น นั่นคือเธอกับเรนโบว์แดชจากโลกมนุษย์ ทไวไลท์กับสไปค์ต่างประหลาดใจ ซันเซ็ตอธิบายเรื่องราวก่อนหน้านั้นว่าระหว่างการนั่งเรือสำราญ มีเวทย์มนตร์บางส่วนของราชาสตอร์มที่พึ่งตายไปล่าสุดหลุดมายังโลกของเธอ และกำลังสร้างหายนะแก่เรือสำราญของเธอ ทไวไลท์ยินดีช่วยเหลือเช่นเคย ทำให้ซันเซ็ตกับสองมนุษย์กลับไปช่วยชีวิตผู้โดยสารเรือสำราญได้ทั้งหมด แต่จะกลับบ้านตัวเองอย่างไรในเมื่ออยู่บนเกาะร้างที่มีประตูสู่เอเควสเทรียอีกแห่ง... ทไวไลท์เปิดประตูปราสาทจากเสียงเคาะก่อนพบกับซันเซ็ตและมนุษย์ในร่างโพนี่ที่จะกลับสู่โลกตัวเองผ่านกระจกในปราสาท เธอยินดีช่วยเหลือในความอึ้ง
ซีซั่นแปด
- งุนงงโรงเรียน
จากการผจญภัยเพื่อกอบกู้เอเควสเทรียเมื่อครั้งล่าสุด ทไวไลท์เห็นดินแดนต่างๆมากมายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะนอกจากจะมีดินแดนของพวกจามรี, มังกร, หรือกริฟฟอนแล้ว... มันยังมีมากกว่านี้อีก และมันน่าจะมีมากกว่าที่ไปเจออีก แต่พวกเขายังดูไม่เป็นหนึ่งเดียวกันแบบเหล่าโพนี่นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า... "มิตรภาพ" เพราะฉะนั้นทไวไลท์จึงตกลงกับเพื่อนพร้อมได้รับอนุมติจากองค์หญิงเซเลสเทียในการจัดตั้งโรงเรียนที่ไม่ได้มีแค่โพนี่ที่เรียนได้ แต่เผ่าพันธุ์ไหนก็เรียนได้ นี่คือโรงเรียนแห่งมิตรภาพโดยมีหลักสูตรชี้วัดสำคัญคือมิตรภาพ โดยให้ตัวเธอเองเป็นผอ.ของที่นี่ ส่วนผองเพื่อนที่เหลือก็เป็นอาจารย์มิตรภาพด้านต่างๆ และตั้งในโพนี่วิลล์ไม่ไกลจากปราสาทของเธอ ไม่นานนักโรงเรียนแห่งนี้ก็ก่อสร้างสำเร็จและพร้อมเปิดภาคเรียนเป็นครั้งแรก ผลตอบรับออกมาดี มีพวกกริฟฟอน มังกร จามรี เชนจ์ลิ่ง และฮิปโปกริฟ มาสมัครเรียนเคียงคู่เหล่าโพนี่ จนกระทั่ง... รัฐมนตรีเนกเซแห่งกระทรวงการศึกษาแห่งเอเควสเทรีย หรือ E.E.A เข้ามายุ่งเกี่ยวในความไม่พอใจ เขามองว่าพวกพันธุ์อื่นคือภัยคุกคามของโพนี่และบงการโรงเรียนแห่งนี้ด้วยอำนาจของตัวเอง อีกทั้งยังทำให้เผ่าพันธุ์อื่นไม่พอใจ อย่างไรก็ตามทไวไลท์ร่วมกับผองเพื่อนและเผ่าพันธุ์ต่างๆก็พิสูจน์ให้รัฐมนตรีเนกเซเห็นว่าโพนี่กับเผ่าพันธุ์อื่นๆสามารถเป็นมิตรสหายกันได้ ทำให้เนกเซกลับไปอย่างไม่พอใจ ท้ายที่สุดความต้องการของทไวไลท์ในการเปิดโรงเรียนสอนมิตรภาพแก่เผ่าพันธุ์ต่างๆก็ประสบความสำเร็จ และดูเหมือนว่าจะมีลูกศิษย์หกตัวที่สะดุดตาเธอกับเพื่อน...
- ผอ.แห่งโรงเรียนมิตรภาพ
การกลายเป็นอาจารย์คงเป็นสิ่งที่ทไวไลท์ สปาร์คเคิลสนุกไปกับมันแล้วหลังจากเคยมีลูกศิษย์อย่างสตาไลท์ กลิมเมอร์ เธอต้องการสอนบทเรียนชีวิตกับมิตรภาพแก่ใครก็ตามที่สมคววรเรียนรู้มันเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันทร์แก่กันและกันจากประสบการณ์ที่เคยเดินทางและผจญภัยกับเพื่อนสหายมิตรมามากมาย แม้นี่อาจจะสร้างภาระแก่ตัวเธอกับเพื่อนมากขึ้น อย่างไรก็ดีเธอกับเพื่อนเองก็รู้สึกภูมิใจและยินดีที่มีโอกาสได้สอนประสบการณ์แก่ใครต่างๆ และดูเหมือนว่ามีหกในเหล่านักเรียนโรงเรียนนี้ที่โดดเด่นในสายตาเธอกับเพื่อน พวกเขาประกอบไปด้วย โพนี่ชื่อแซนด์บาร์, กริฟฟอนนามแกลลัส, จามรีชื่อโยน่า, มังกรนามสโมลเดอร์, เชนจ์ลิ่งชื่อโอเซลลัส, และฮิฟโปกริฟนามซิลเวอร์สตรีม พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนสหายมิตรที่ไม่ต่างจากทไวไลท์กับเพื่อน แน่นอนความหรรษายังมีอยู่ในชีวิตบทนี้ของทไวไลท์เช่นเคย ได้แก่...
เข้าร่วมงานประชุมแห่งสรรพชีวิตกับองค์หญิงเซเลสเทียและฝ่ายเอกสารพระคลังชื่อเรเวน อิงค์เวลล์, ดูแลคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ที่ถูกเรียกไปทำภารกิจมิตรภาพจากแผนที่คิ้วตี้ที่ภูเขาแอริสแห่งพวกฮิปโปกริฟ รวมทั้งเป็นการไปเยี่ยมพ่อแม่ของซิลเวอร์สตรีมเพื่อเซ็นใบตอบรับไปทัศนศึกษา, กำกับดูแลละครเวทีการฉลองการครบรอบการเบิกตะวันครั้งแรกขององค์หญิงเซเลสเทียเมื่อหนึ่งพัน หนึ่งร้อย สิบเอ็ดปีที่แล้ว, เห็นสไปค์น้องรักเติบโตมีปีกงอกออกมา, ปวดหัวกับความป่วนของพิ้งค์กี้อีกรอบที่ตอนนี้เผลอทำให้โพนี่วิลล์ตกอยู่ในหายนะเมื่อขอพรกับแอปเปิลทองคำ, รับโคซี่โกลว์เข้ามาเป็นนักเรียนในโรงเรียนของเธอ นอกจากนี้ยังแต่งตั้งให้คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์เป็นติวเตอร์มิตรภาพของที่นี้, ไปเดินป่าเอฟเวอร์ฟรีกับเพื่อนแต่เพื่อนทำตัวทรามๆใส่ ซึ่งในความเป็นจริงนั่นคือร่างก็อปปี้ที่คริสซาลิสเสกมา อย่างไรก็ดีเธอกับเพื่อนไม่ได้คิดบาดหมางกันในตอนท้าย, โดนดิสคอร์ดหลอกให้ไปทำภารกิจมิตรภาพปลอมๆเพื่อที่เขาจะได้มาเป็นรองผอ. ชั่วคราว, ร่วมกิจกรรมผู้ช่วยอุ่นใจสำหรับวันอุ่นใจปีนี้กับเพื่อน และเรียนรู้ว่าของขวัญวันอุ่นหัวใจที่แท้จริงคือมิตรภาพระหว่างกัน จากนั้นก็ไปฉลองต่อที่โรงเรียน, เปิดโปงกับแรริตี้ในการแอบหาผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยมิตรภาพของฟลิมกับแฟลมซึ่งมีรัฐมนตรีเนกเซอยู่เบื้องหลัง, ตกแต่งปราสาทสองพี่น้องให้เป็นบ้านผีสิงกับเพื่อนให้ศิษย์ทั้งหกเข้ามาชมในคืนแห่งฝันร้าย, จัดฉากภารกิจปลอมๆเพื่อทดสอบมิตรภาพระหว่างแรริตี้กับเรนโบว์แดช เพื่อสอนถึงนักเรียนว่าแม้จะความชอบต่างกันก็สามารถเป็นเพื่อนได้, ยอมทนพิ้งค์กี้พายเล่นเครื่อง"โยวิดาโฟน"เพื่อความสุขของพิ้งค์กี้เอง, มอบหน้าที่ให้ร็อคฮูฟ หนึ่งในเสาหลัก กลายเป็นผู้ดูแลเรื่องราวตำนานจากการที่สร้างแรงบันดาลใจแก่เหล่านักเรียน, ร่วมกันไล่สลัดจ์ผู้ที่เสแสร้งว่าเป็นพ่อของสไปค์ออกไปกับสไปค์และสโมลเดอร์, โดนส่งย้อนเวลาไปช่วงที่เธอกับเพื่อนพึ่งได้รับคิ้วตี้มาร์ค ก่อนที่องค์หญิงเซเลสเทียส่งกลับไปเพื่อรักษาเส้นเวลา
- เผาผลาญโรงเรียน
ชีวิตกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีในฐานะผอ.แห่งโรงเรียนมิตรภาพ ร่วมกับผองเพื่อนที่มาเป็นอาจารย์ อีกทั้งยังมีศิษย์ทั้งหกที่โดดเด่น พวกเขาคล้ายกับเธอและเพื่อนอย่างไม่มีผิดยกเว้นสายพันธุ์ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่ามิตรภาพคือสิ่งที่วิเศษ จนกระทั่ง... เวทย์มนตร์จากเขายูนิคอร์นของเธอกับตัวอื่นๆหายไป อยู่ดีๆก็หายไปทั่วทั้งเอเควสเทรีย นี่คือสัญญาณที่เลวร้ายอย่างไม่ต้องบอก และต้องรีบแก้วิกฤตนี้ให้ทันไม่เช่นนั้นอาจจะเลวร้ายขึ้นจนทำอะไรไม่ได้ ต้นตอที่เป็นไปได้ในหัวของทไวไลท์กับเพื่อนคือลอร์ดทิเร็คที่เคยสร้างความหายนะในการดูดเวทย์มนตร์ครั้งก่อน มันต้องเป็นเขาแน่ๆ เขาต้องแอบทำอะไรบางอย่างแม้ถูกจองจำ เธอกับเพื่อนรวมสไปค์ตัดสินใจเดินทางไปหาทิเร็คที่คุกทาทารัส โดยฝากให้สตาไลท์เป็นผอ.ของโรงเรียนชั่วคราว หลังการเดินทางผ่านอุปสรรคโดยที่ไม่มีเวทย์มนตร์ช่วย เธอกับเพื่อนก็มาถึงและใช้กุญแจเวทย์มนตร์ที่เปิดได้ทุกประตูที่เหมือนมีใครทิ้งไว้เปิดออก ก่อนที่มันจะแตกเป็นเสี่ยงๆหลังจากเข้าไป ทไวไลท์กับที่เหลือเผชิญหน้ากับทิเร็คในกรงขัง ซึ่งดูแล้วเหมือนเขาไม่น่าเป็นต้นตอด้วยความอ่อนแอในขณะนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากถามไถ่ ทิเร็คก็ยอมรับว่าเขาได้ช่วยเหลือโพนี่ตัวหนึ่ง ผู้เป็นหนึ่งในนักเรียนโรงเรียนของทไวไลท์และทำตัวจอมปลอมมาโดยตลอด โคซี่โกลว์ เด็กนี่ต้องการใช้อำนาจยึดครองเอเควสเทรียโดยการให้เขาพร้อมวัตถุมนตราต่างๆลบเวทย์มนตร์ออกไป และถ้าไม่แก้ไขให้ทัน เวทย์มนตร์จะหายไปอย่างถาวร ทไวไลท์กับผองเพื่อนช็อคและรีบไปหยุดโคซี่โกลว์ แม้ประตูทาทารัสจะสามารถเปิดด้วยเวทย์มนตร์เท่านั้น แต่เธอกับเพื่อนรวมเวทย์มนตร์จากสรรพชีวิตต่างๆในทาทารัสเพื่อเปิดออกไปจนสำเร็จ ไม่นานนักเวทย์มนตร์ก็กลับมาใช้ได้ทำให้สามารถเทเลพอร์ตเธอกับเพื่อนกลับมาที่โรงเรียนได้ก่อนพบว่าศิษย์ทั้งหกนั้นสามารถหยุดหายนะของโคซี่โกลว์ได้สำเร็จ มันจบแล้วสำหรับเด็กนี่ ศิษย์ทั้งหกขอบคุณบทเรียนจากเธอกับเพื่อนทำให้สามารถกอบกู้เอเควสเทรียได้ ส่วนโคซี่โกลว์ด้วยอาชญากรรมต่อทั่วเอเควสเทรีย โดนส่งจองจำในคุกทาทารัส
ความสำเร็จของทไวไลท์และผองเพื่อนในฐานะอาจารย์ผู้มากประสบกาณ์พึ่งพิสูจน์โดยศิษย์ทั้งหกของพวกเธอ และทุกอย่างกลับมาด้วยความสงบสุขเช่นเคย
ซีซั่นเก้า
- จุดเริ่มต้นของจุดจบ
ความสงบสุขกับความหายนะของเอเควสเทรียอยู่ควบคู่เหมือนเป็นวัฏจักรตั้งแต่ทไวไลท์กับเพื่อนกลายเป็นสหายมิตรกัน คราวนี้ก็เช่นเคย ทไวไลท์กับผองเพื่อนรีบมุ่งหน้าไปปราสาทแคนเทอล็อทเมื่อได้ยินการเรียกฉุกเฉินจากองค์หญิงทั้งสอง แต่ทว่า... องค์หญิงทั้งสองยังสบายดีและไม่มีภัยร้ายใดๆทั้งสิ้น พระองค์อธิบายอธิบายว่าพวกเขาปกครองเอเควสเทรียมานานแสนนานเป็นสหัสวรรษ และต้องการวางกีบลง โดยส่งต่อให้ทไวไลท์กับเพื่อนๆรับหน้าที่ปกครองเอเควสเทรียต่อ ไม่มีใครเหมาะนอกจากวีรอาชาที่เคยปกป้องบ้านเกิดตัวเองมานับไม่ถ้วนแล้ว ทไวไลท์ช็อคหนักที่สุดเพราะต้องรับหน้าที่สูงสุดในฐานะว่าที่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย อย่างไรก็ดีในความวิตกกังวลว้าวุ่นของเธอ เพื่อนๆนั้นต่างให้กำลังใจและเชื่อมั่นในตัวเธอว่าทำได้พิสูจน์จากประสบการณ์ในการกอบกู้เอเควสเทรียมานับไม่ถ้วนตั้งแต่พบกัน แต่ความกังวลใจของเธอนั้นยังไม่หาย ไม่นานนักเธอกับเพื่อนได้สัญญาณเตือนถึงการหวนคืนของราชาซอมบร้าในอาณาจักรคริสตัลจากแคเดนซ์ ไม่ได้การแล้ว เธอกับเพื่อนรีบมุ่งหน้าไปอาณาจักรคริสตัลพร้อมธาตุแห่งความปรองดองจากพฤกษา โดยไม่ขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงทั้งสองหรือเชื่อใจดิสคอร์ดเพื่อพิสูจน์ว่าเธอกับเพื่อนสามารถรับกีบด้วยตัวเองได้ และกลายเป็นว่าทไวไลท์กับผองเพื่อนสามารถเอาชนะซอมบร้าอีกหนได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่กำลังไปคืนธาตุแก่พฤกษาแต่ทว่า...
ซอมบร้าเสแสร้งว่าเขาพ่ายแพ้และปรากฏตัวต่อหน้าทำลายทั้งธาตุและพฤกษาจนเหลือแต่เศษซาก ก่อนหายตัวไปเพื่อเริ่มยึดครองเอเควสเทรีย แม้ความสิ้นหวังจะอยู่ต่อหน้าเธอกับเพื่อน แต่ทไวไลท์ก็ไม่ยอมแพ้ เธอมุ่งมั่นเพื่อที่จะปกป้องเอเควสเทรียให้ได้ เช่นนี้เอง ทั้งเธอกับเพื่อนกลับไปโพนี่วิลล์ที่โดนซอมบร้าควบคุมจิตใจชาวเมืองและครอบครัวไปแล้ว ก่อนมุ่งต่อไปแคนเทอล็อทโดยมีเสาหลักแห่งเอเควสเทรียช่วยหยุดพงไพรจากป่าเอฟเวอร์ฟรีที่กำลังยึดเมือง ทไวไลท์กับเพื่อนสามารถมาถึงในปราสาทจนได้และเผชิญหน้ากับซอมบร้า ดิสคอร์ดเข้ามาช่วยแต่ก็โดนกำจัดจนอ่อนแอ เขาให้กำลังใจทไวไลท์กับเพื่อนว่าไม่จำเป็นต้องมีเขา องค์หญิง หรือธาตุแห่งความปรองดอง โพนี่ทั้งหกนี้คือตัวแทนคุณธรรมของความปรองดองโดยเสมอ ตราบใดที่ยืนหยัดด้วยกันจะมีแต่ชัยชนะ ซึ่งกลายเป็นว่าท้ายที่สุด ทไวไลท์ สปาร์คเคิลและเพื่อนๆทั้งห้าสามารถเอาชนะราชาซอมบร้าได้โดยไม่มีธาตุ พร้อมคำประกาศเกล้าว่า "มิตรภาพคือเวทย์มนตร์!" ซอมบร้าสลายเป็นผุยผงอีกรอบและคงไม่น่ากลับมาได้อีกแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ชาวเมืองหลุดจากการควบคุม องค์หญิงทั้งสองเข้ามาชื่นชมทไวไลท์กับเพื่อนและยอมรับว่าพระองค์ควรให้เวลาทไวไลท์เตรียมตัวมากกว่านี้และไม่ควรกดดันเธอ ท้ายที่สุดแล้วทไวไลท์กับเพื่อนได้พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งได้ตราบได้ที่ยืนหยัดด้วยกัน ส่วนดิสคอร์ด... เมื่อสักครู่เขาเสแสร้งว่าอ่อนแอ เขาแค่อยากให้ทไวไลท์มีกำลังใจแต่ก็ผิดหวังเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้จะเป็นองค์หญิงในตอนนี้
- ว่าที่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย
จากโพนี่สามัญชนทั่วไปสู่การเป็นว่าที่ผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียนับได้ว่าเป็นการเดินทางชีวิตที่มหัศจรรย์มากของทไวไลท์ สปาร์คเคิล เพราะในสายตาองค์หญิงทั้งสองแล้วเธอคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการรับช่วงต่อในฐานะผู้ปกครอง พระองค์เห็นถึงความวิเศษในตัวเธอที่พิสูจน์จากการกอบกู้เอเควสเทรียและการผจญภัยกับผองเพื่อนมามากมาย เธอโดนสังเกตและพิจารณาตั้งแต่กลายมาเป็นศิษย์ส่วนตัวขององค์หญิงเซเลสเทียแล้ว เธอสมควรได้รับตำแหน่งนี้เพื่อที่พระองค์ทั้งสองจะได้ไปวางกีบและเกษียณหลังจากปกครองมาเนิ่นนาน เพราะฉะนั้นในบทชีวิตของทไวไลท์ช่วงนี้คือการเตรียมตัวรับหน้าที่เป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย และสะสางภาระต่างๆให้หมดสิ้นเพื่อความพร้อม อย่างไรก็ตามความหรรษาก็ยังวนเวียนรอบเธอเช่นเดิม ได้แก่...
สำรวจพฤกษาแห่งความปรองดองที่กลายเป็นวิมานแห่งความปรองดองจากการที่ศิษย์ทั้งหกฟื้นฟูธาตุ, โดนคอสมอสเพื่อนเก่าของดิสคอร์ดควบคุมจากการรับสร้อยคอประหลาดที่แรริตี้ซื้อมา และเกือบทำให้เอเควสเทรียพินาศย่อยยับถ้าหากดิสคอร์ดกับเพื่อนๆไม่สามารถเอาชนะคอสมอสได้, แข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่ง "สูงสุดแห่งสายเลือด" กับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ โดยมีเพื่อนของเธอกับองค์หญิงร่วมเล่นด้วย, เป็นส่วนหนึ่งในการจัดและฉลองวันครบรอบวันก่อตั้งโพนี่วิลล์ โดยได้ซันเซ็ต ชิมเมอร์ที่กลับเอเควสเทรียชั่วคราวมาแสดงดนตรี, ตามหาบรรณาลักษณ์ตัวเก่าเพื่อคืนหนังสือที่ลืมคืนมายาวนาน แต่สุดท้ายเก็บไว้เพื่อระลึกว่ามันโอเคที่จะไม่เพอร์เฟค, จัดงาน "Amity Ball" หรือลูกไมตรีในโรงเรียนแห่งมิตรภาพ อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูประเพณีงานเต้น The Fetlock Fete อันเก่าแก่ของโพนี่วิลล์, เล่นเกมกระดานสวมบทบาทแบบสมจริงกับเพื่อน และยังพาบัคไบเซ็ปมาร่วมเกมอีก, ถูกเชิญไปยังเมืองโฮปฮอลโลว์กับเพื่อนและพบว่าเมืองนี้ไร้สีสันและเทศกาลที่เชิญมา เธอกับเพื่อนช่วยกันฟื้นฟูสีสันของเมืองนี้สำเร็จในตอนท้าย, อาสาดูแลบ้านเมืองกับเพื่อนเพื่อที่สององค์หญิงจะได้ไปพักร้อนหนึ่งวัน โดยลืมนึกว่ามันจะเหนื่อยกว่าที่คิด, ให้เรนโบว์แดชเป็นโค้ชทีมเชียลีดเดอร์กีฬาบัคบอลประจำโรงเรียน แม้จะไม่ยินยอมในตอนแรก แต่ก็ทำออกมาได้ดีในท้ายที่สุด, จัดงานกีฬาทีมเจ็ดตัว"ความสำเร็จแห่งมิตรภาพ"ในโรงเรียนของเธอ, พาเต่าของเรนโบว์แดชไปเข้าการแข่งเต่าที่เมืองทรอทแลนด์ตามคำฝาก และเธอก็ต้องมาสืบคดีหาหนึ่งในเต่าคู่แข่งที่หายไป, เข้าแข่งเกมคอบคำถามไทรเวียทรอทโดยคิดว่าจะชนะเหมือนทุกครั้งที่เข้า แต่เมื่อต้องคู่กับพิ้งค์กี้พายเลยกลัวว่าแพ้ แต่สุดท้ายก็เรียนรู้ว่าความสนุกสำคัญกว่าชัยชนะ, ฉลองเทศกาลตะวันขึ้นผันครั้งสุดท้ายโดยหลังจากนี้จะกลายเป็นเทศกาลสองพี่น้องเพื่อระลึกถึงสององค์หญิงอลิคอร์นเมื่อเธอขึ้นปกครอง, ออกจากตำแหน่งผอ.โรงเรียนมิตรภาพโดยส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของสตาไลท์ กลิมเมอร์ เพราะเธอจะกลายเป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียเร็วๆนี้เเล้ว
- จุดจบของจุดจบ
อีกแค่ไม่กี่วัน การเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองเอเควสเทรียกำลังจะมาถึง มีการเตรียมพร้อมสำหรับวันอาชาพิเษกครั้งใหญ่นี้ในนครแคนเทอล็อต เพื่อนๆของทไวไลท์หรือว่าที่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรียต่างมีหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของงานที่ยิ่งใหญ่นี้ ส่วนตัวเธอแล้ว เธอทำใจร่มๆเพื่อเตรียมรับหน้าที่สูงศักดิ์นี้พร้อมกล่าวชื่นชมสไปค์สำหรับทุกสิ่งที่เขาเคยทำเพื่อเธอมาโดยตลอดพร้อมแแต่งตั้งให้เป็นว่าที่ผู้ปรึกษาหลวง แต่ทว่าไม่นานนักดิสคอร์ดปรากฏตัวต่อหน้าเธอกับเพื่อนด้วยความตื่นตระหนกพร้อมสารภาพว่าเขาเผลอทำให้วายร้ายที่ทไวไลท์กับเพื่อนเคยเอาชนะที่ยังเหลือรอดอยู่กำลังเตรียมตัวโจมตีเอเควสเทรีย ซึ่งพวกมันประกอบด้วย ราชินิคริสซาลิส, ลอร์ดทิเร็ค, และโคซี่โกลว์ พวกมันแอบไปเอากระดิ่งบีวิทชิ่งของโกรากราในตำนานแล้วดูดพลังของเขาไว้เพิ่มพลังพวกมันเอง ซึ่งที่เป็นเช่นนี้เพราะดิสคอร์ดปลอมตัวเป็นโกรกราในตำนานแล้วปลุกปลั่นวายร้ายสามตัวนี่เพื่อที่จะให้พวกมันโจมตีเอเควสเทรียแล้วสร้างความฮึกเหิมแก่ทไวไลท์ที่กำลังจะกลายเป็นองค์หญิง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือราชาซอมบร้าเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตอนนี้แผนผิดพลาดพวกมันมีพลังมากเกินควบคุมกว่าดิสคอร์ด เมื่อได้ยินเช่นนี้ทั้งทไวไลท์ เพื่อนเธอ และองค์หญิงอารมณ์เสียอย่างที่สุด การกระทำของดิสคอร์ดแม้อาจจะฟังดูดีแต่การวางแผนนั้นไม่มีเลย อย่างไรก็ตามทไวไลท์กับผองเพื่อนยืนหยัดที่จะเอาชนะสามวายร้ายไปให้ได้ให้มันจบๆ เธอกับเพื่อนส่งจดหมายไปหาพันธมิตรพวกเขาทั้งหมดทั้วเอเควสเทรีย ไม่ว่าจะเสาหลักทั้งหก, ไชน์น่ิง อาร์มเมอร์ องค์หญิงแคเดนซ์, หริือสตาไลท์กับทริกซี่ เพื่อเตรียมและเผชิญกับสมรภูมิครั้งยิ่งใหญ่ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อขะตาแห่งเอเควสเทรียกำลังเกิดขึ้น ทไวไลท์กล่าว
สามปรปักษ์นี้เริ่มทำการโจมตี พวกมันแยกตัวไปหาคู่แค้นของพวกมัน แต่เรื่องมันแย่อีกเมื่อก่อนหน้านี้พวกมันได้ไปปั่นข่าวปลอมให้โพนี่แต่ละประเภทเกลียดชังกันและกันสำเร็จเสียด้วย แต่ละเมืองแยกประเภทประชากรโพนี่ ขับไล่พวกที่ไม่ใช่พันธุ์ของตัวเอง ไม่ต่างกับช่วงโบราณกาลสมัยการสถาปนาเอเควสเทรีย และอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ไม่ต่างกันคือ... วินดีโก้ สรรพชีวิตที่ตามสูบกินความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธุ์พร้อมนำพาพายุหิมะหนาวเหน็บเพื่อฝังอารายธรรมนั้นจนไร้ร่องรอย พวกมันกลับมาในยุคนี้เมื่อรับรู้ถึงความเกลียดชังครั้งใหม่ ทุกอย่างเลวร้ายลง พันธมิตรของทไวไลท์ต่างพ่ายแพ้แก่สามปรปักษ์และโดนจองจำในคุกที่พวกมันสร้างไม่ว่าจะองค์หญิง เสาหลัก หรือดิสคอร์ด แต่ยังมีเคราะห์ดี เพื่อนของทไวไลท์ทั้งห้าหนีการจับกุมของพวกมันไปได้และรวมตัวกับทไวไลท์กับสไปค์ยังอาณาจักรคริสตัล ด้วยกำลังใจจากสหายมิตร ทไวไลท์ไม่สูญสิ้นความหวังและลงมือตามแผนเพื่อหยุดพวกมัน แต่แผนไม่สำเร็จ ทไวไลท์กับผองเพื่อนกำลังจะโดนสามปรปักษ์เอาชีวิตของพวกเธอไป แต่ทันใดนั้นเหล่าโพนี่และเผ่าพันธุ์ที่เธอกับเพื่อนเคยผูกมิตรกันมาทั้งหมดมาช่วยชีิวิตไว้ เป็นเกราะเวทย์มนตร์ห้อมล้อมเธอ เพื่อนและพวกเขาทั้งหมด เหล่าโพนี่และสายพันธุ์ต่างๆสามารถรวมกันด้วยความปรองดองและไมตรี และนี่คือผลงานของศิษย์ทั้งหก พวกเขานำบทเรียนที่ได้มาจากทไวไลท์และเพื่อนรวมเหล่าโพนี่และสายพันธุ์เป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อต้านความชั่วร้าย ทไวไลท์กับเพื่อนตื้นตันใจ ประสบการณ์และบทเรียนของพวกเขาสร้างแรงบันดาลใจแก่เหล่าต่างๆส่งผลให้สามารถช่วยชีิวิตพวกเขาเองได้รวมถึงการกอบกู้บ้านเกิดเมืองนอนอันเป็นที่รักของตัวเอง ทไวไลท์เผชิญหน้ากับสามปรปักษ์พร้อมมอบสุนทรพจน์ที่สรุปประสบการณ์และบทเรียนชีวิตที่เธอได้มาทั้งหมดส่งให้พวกมัน
- "พอได้แล้ว! เพราะพวกแกฉันเกือบหลงทาง แต่ทุกสายพันธุ์ที่นี่เตือนฉันถึงพลังที่แท้จริงของมิตรภาพ ในโลกนี้จะยังมีความมืดเสมอ แต่ก็จะมีผู้ที่ค้นพบแสงสว่างด้วยเช่นกัน เสาหลักรู้เรื่องนี้ พวกเขาถึงได้สร้างธาตุแห่งความปรองดอง ธาตุแสดงให้ฉันและเพื่อนๆเห็นว่ามิตรภาพแข็งแกร่งแค่ไหน เราช่วยกันนำความปรองดองมาสู่เอเควสเทรีย แต่มันย่อมมีงานให้ทำเพิ่มเสมอ ด้วยเหตุนี้เราจึงสอนผู้อื่นเรื่องเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ ผู้อื่นที่จะสานต่อภารกิจของเราหลังจากเราจากไปแล้ว ตอนนี้ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ธาตุเหล่านั้นเป็นแค่สัญลักษณ์ เวทย์มนตร์ที่แท้จริงอยู่ที่นี่เสมอ และยิ่งเข้าใจว่ามิตรภาพทรงพลังมากแค่ไหน เราจะแกร่งขึ้นแค่นั้น ไปด้วยกัน!"
- — ทไวไลท์กล่าวเคียงข้างทุกตัวและต่อหน้าสามปรปักษ์
พลังจากทไวไลท์กับเพื่อน และทุกๆตัวรวมกันเป็นลำแสงสายรุ้งทลายความทรงพลังของพวกมัน ดิสคอร์ด องค์หญิง กับเสาหลักรับเวทย์มนตร์คืน ก่อนจากนั้นพวกเขาจะร่วมกันใช้เวทย์มนตร์จองจำสามปรปักษ์ให้เป็นรูปปั้นในฐานะอาชญากรต่อแผ่นดินเอเควสเทรีย ทไวไลท์ได้รับคำชื่นชมจากองค์หญิงเซเลสเทียว่าเธอได้เอาชนะความยากลำบากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตัวเองและพร้อมปกครองเอเควสเทรียอย่างเป็นทางการแล้ว... แต่เธอขอเลื่อนวันรับตำแหน่งไปก่อนแล้วกัน รอให้ปราสาทที่พึ่งโดนถล่มจากสามปรปักษ์ซ่อมเสร็จก่อน
ณ ร้านโดนัทโจ ทไวไลท์กับผองเพื่อนทั้งห้าบวกสไปค์เป็นหกร่วมโต๊ะกันคล้ายตอนที่พบกันในเริ่มแรก เธอกับเพื่อนคุยกันเฮฮาตามประสาเพื่อนรัก ก่อนจะมาถึงหัวข้อหนึ่งที่เห็นด้วยพร้อมกัน นี่คือจุดจบของยุคยุคหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิม "ไม่ว่าอะไรก็ตามหลังจากนี้มันจะต้องเพอร์เฟ็คแน่นอน" ทไวไลท์พูดอย่างมีสุข "เธอรู้ได้ไง" สไปค์เพื่อนรักถาม "ด้วยพวกเธอทั้งหมดเคียงข้างฉัน มันจะไม่ได้ไงล่ะ" ทไวไลท์ตอบ ตามด้วยเสียงหัวเราะแห่งความสุขจากเธอและเพื่อนทั้งหมด
- ปัญหาอย่างสุดท้าย
ในที่สุดวันแห่งการราชาพิเษกของทไวไลท์ สปาร์คเคิลได้มาถึงเป็นที่เรียบร้อย เธอยังไม่อยากออกจากบ้านอย่างโพนี่วิลล์ ความกังวลที่ว่าอาจจะไม่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนดั่งเดิมด้วยภาระที่ใหญ่ยิ่งของการเป็นองค์หญิงท่วมท้นตัวเธอ เพื่อนรักทั้งห้าเข้ามาให้กำลังใจอย่างเช่นเคยซึ่งทลายความกังวลนี้ออกไปได้ เธอร่วมกอดกับเพื่อนพร้อมน้ำตาแห่งความผูกพัน หลังจากพิธีเสร็จสิ้นไปด้วยความปั่นป่วนที่ไม่ได้ตั้งใจ ทไวไลท์ซึ่งตอนนี้เป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียอย่างเป็นทางการแล้ว เข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนและหัวเราะถึงความหายนะของงานเมื่อครู่ ไม่ต่างจากเมื่อตอนผิดหวังในงานแกรนด์กาล็อปปิงกาล่าครั้งแรก จากนั้นสตาไลท์มาเยี่ยมและมอบสมุดแห่งความทรงจำที่บันทึกการเดินทางของพวกเขาตั้งแต่จุดเริ่มต้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจเธอถึงมิตรภาพระหว่างกัน ทไวไลท์นั้นจึงตัดสินใจก่อตั้งองคมนตรีแห่งมิตรภาพซึ่งประกอบด้วยเธอกับเพื่อนเอง เพื่อที่จะได้มีเวลาร่วมกันอีกครั้งเหมือนช่วงเวลาดีเดิมๆ
ช่วงเวลาแห่งสีสันและความหรรษาที่แสดงถึงความแสนวิเศษของมิตรภาพ
ณ ตั้งแต่นี้ไป ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียที่ได้รับการส่งอำนาจต่อจากสองพี่น้องอลิคอร์น เซเลสเทียอดีตครูของเธอ กับลูน่าองค์น้อง ที่ตัดสินใจวางกีบลงหลังจากปกครองมานานถึงสหัสวรรษเพื่อมาใช้ชีวิตธรรมดาๆหลังเกษียณ อีกทั้งยังเป็นผู้นำขององคมนตรีแห่งมิตรภาพที่ประกอบด้วยเพื่อนของเธอที่ตกลงหาเวลามาสนุกด้วยกันดัั่งเช่นในอดีต
- "นี่คือจุดจบของยุคยุคหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิม"
- — ทไวไลท์ สปาร์คเคิล จากโพนี่ผู้หลงใหลในเวทย์มนตร์สู่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย
ซีซั่นสิบ
- การเบิกตะวันขึ้นผันครั้งแรก
เช้าแรกของยุคใหม่มาถึงแล้ว ตอนนี้ทไวไลท์ สปาร์คเคิลหรือองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียองค์ใหม่ต้องทำหน้าที่เบิกตะวันขึ้นผันเป็นครั้งแรกแทนที่สองพี่น้องอลิคอร์น แต่ทว่าเธอไม่มีความมั่นใจว่าจะปกครองดีเทียบเท่าพวกเขาหรือไม่ อีกทั้งไร้ซึ่งคำแนะนำจากพวกเขาอีกต่อไป ความรู้สึกหลงและความกลัวในการถูกลืมเลือนเต็มหัวของเธอ สไปค์เพื่อนรักไม่ยอมให้เธอจมอยู่ในความทุกข์เช่นนี้เด็ดขาด สไปค์ให้กำลังใจและรับรองว่าเธอนั้นจะเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่และยากที่จะลืมเลือนพร้อมเพื่อนเคียงข้าง ทไวไลท์รู้สึกดีขึ้น ดำเนินงานฉลองตะวันขึ้นผันพร้อมยกตะวันเป็นครั้งแรกต่อหน้าประชาราษฏรด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง ทไวไลท์หันมาขอบใจสไปค์และดูเหมือนว่าเธอมีไอเดียบางอย่างสำหรับยุคการครองราชย์ของเธอ...
- ความผูกพันมิตรภาพแห่งใหม่
หลังงานฉลองการเบิกตะวันครั้งแรกของทไวไลท์เสร็จสิ้น เธอเรียกรวมพลไม่ใช่แค่เพื่อนทั้งห้าของเธอ แต่รวมถึงเพื่อนอีกหลายตัวที่ผูกมิตรตามๆกันมา เธออธิบายให้พวกเขาฟังว่าหลังจากการผจญภัยที่ผ่านมา เธอสังเกตเห็นว่าเอเควสเทรียขยายตัวอย่างกว้างขวางอย่างมหัศจรรย์และความกว้างขวางนี้อาจจะมีดินแดนต่างๆมากมายที่ไม่เคยสำรวจมาก่อน เธอต้องการให้เพื่อนๆแบ่งทีมออกไปสำรวจส่วนต่างๆรวมถึงเป็นการสร้างความผูกพันมิตรภาพไปในตัว เธอเองก็อยากออกไปผจญภัยเช่นกัน แต่ในฐานะองค์หญิงเธอมีภาระมากมายที่ต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นแล้วการมอบหมายหน้าที่แก่เพื่อนในการออกไปสร้างไมตรีแก่ดินแดนต่างๆจึงเหมาะสมที่สุด อย่างน้อยเพื่อนของเธอก็ได้ออกผจญภัยเหมือนช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมา
ในการออกไปสร้างมิตรภาพนี้ เธอแบ่งเป็น 4 ทีม แยกกันไป 4 ดินแดนดังนี้ ฟาราซี ดินแดนของพวกม้าลาย อบาดา และเคลปี้, คานิเนีย ดินแดนของพวกหมายืนสองขาไดม็อนด็อก, แพนเธร่า ดินแดนของพวกแมวยืนสองขา, และสุดท้ายออนิเธีย ดินแดนของพวกนกแก้ว แต่ละทีมออกไปสำรวจตามลำดับ
หลังจากมอบหมายภารกิจมิตรภาพนี้แล้ว ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ไปทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองในฐานะองค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย
แม้จะเป็นถึงขั้นผู้ปกครองแล้วแต่ความหรรษาก็ยังตามติดเธอเช่นเดิม...
หลายวันถัดมา เทศกาลสองพี่น้องซึ่งแทนที่เทศกาลตะวันขึ้นผันตัดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ไปไม่สวยซักเท่าไหร่ เมืออยู่ดีๆแคนเทอล็อตถูกรุกรานโดยมอสมัฟเฟลตตาที่ดูดกลืนเสียงทั้งเมือง โชคยังดีที่พิ้งค์กี้พายกับชีสแซนด์วิชรู้วิธีในการกำจัดมันด้วยเสียงขำขัน ทั้งเมืองส่งเสียงหัวเราะเท่าที่จะทำได้จนในที่สุดมอสมัฟเฟลตตาก็สลายหายไป เทศกาลสองพี่น้องดำเนินการต่ออย่างปกติ
และทไวไลท์ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองเอเควสเทรียต่อไป
- อัศวินแห่งความปรองดอง
หลายวันผ่านไป ทีมสำรวจที่จัดขึ้นก็ถูกส่งไปหมดเรียบร้อย ล่าสุดคือทีมของเรนโบว์แดชที่ไปสำรวจดินแดนออนิเทีย ทไวไลท์ดำเนินชีวิตต่อไปในฐานะตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ดีความรักในหนังสือก็ไม่เคยจางหายไป ระหว่างพักเธอก็อ่านหนังสือตำราต่างๆจนกระทั่งพบกับหัวข้อหนึ่ง พฤกษาแห่งความปรองดองไม่ได้มีแค่ที่เอเควสเทรียที่เดียว เธอหยิบยกเรื่องนี้มาสืบหาควบคู่กับคนอื่นๆเช่น สตาไลท์, สตาเสวิร์ลหนวดงาม, ซันเบิร์สท์, และสติเจียน เธอกับคนอื่นๆสืบค้นกันอย่างหนัก เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่ทันใดนั้นเรนโบว์แดชที่พึ่งออกไปสำรวจเมื่อเช้าพุ่งเข้ามาใส่พร้อมคำเตือนว่าอัศวินแห่งความปรองดองกำลังมา
เรนโบว์แดชอธิบายถึงภัยคุกคามนี้ อัศวินไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ทไวไลท์ที่รับทราบจึงรีบไปประกาศฉุกเฉินถึงภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่นี้และให้ประชาราษฏรรีบเข้าที่หลบภัย จากนั้นก็เรียกรวมพลเพื่อนพ้องพันธมิตรของเธอมาให้หมด ไม่ทันไรพวกมันก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร พวกอัศวินนำโดยกษัตริย์ดานุแห่งแดนคูนาบูล่าที่ประกาศกร้าวว่าผู้ที่มีเวทย์ของธาตุต้องถูกกำจัด ทไวไลท์พยายามเจรจากับเขาแต่ไม่เป็นผล เขากับอัศวินต่างโจมตีองครักษ์และพันธมิตรของเธอจนทำให้ต้องล่าถอยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทไวไลท์ตระหนักว่าผู้ที่มีธาตุไม่ใช่แค่เธอแต่เป็นตัวอื่นๆที่เป็นตัวแทนเพิ่มเติมด้วยรวมถึงศิษย์ทั้งหกของเธอที่จบการศึกษาเรียบร้อยและเธอก็มาช่วยพวกเขาจากการถูกจับตัวโดยพวกอัศวินไม่ทัน ทไวไลท์พยายามเจรจาอีกรอบด้วยมิตรภาพแต่ทว่า... ดิสคอร์ดคนดีคนเดิมปรากฏตัวข้างๆทไวไลท์ พวกอัศวินโมโหอย่างทันใดเมื่อเห็นดิสคอร์ด พวกเขาเล่าว่าดิสคอร์ดนี่แหละที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ธาตุต้องถูกกำจัดเพราะดิสคอร์ดไปสร้างความวุ่นวายของธาตุเมื่อสมัยบรรพบุรุษของพวกเขา อัศวินโจมตีต่อด้วยความเกรี้ยวกราด พวกเขาทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อพอๆกับสามปรปักษ์เมื่อคราวก่อน ทไวไลท์พลาดเข้าทำให้เธอโดนดานุขโมยเวทย์มนตร์ไปพร้อมกับสตาเสวิร์ล ด้วยพลังที่ขโมยมา ดานุทรงพลังอย่างเทียบเท่าไม่ได้และกำลังจะทำให้แคนเทอล็อตทลายอย่างราบคาบ แต่แล้ว... เหล่าสรรพชีวิตจากดินแดนต่างๆที่เพื่อนของเธอออกไปสร้างมิตรภาพมารวมตัวกันและหยุดการทำลายล้างครั้งใหญ่นี้ ทไวไลท์กลับมาได้เปรียบและร่วมต่อสู้กับดานุพร้อมอัศวินที่เหลือจนท้ายที่สุดพวกเขาก็พ่ายแพ้จนได้ ทไวไลท์กับสตาเสวิร์ลได้เวทย์มนตร์คืน แต่แม้ว่าจะพ่ายแพ้ดานุก็ยังขู่ประกาศกร้าวถึงความเกลียดชังต่อเธอและเอเควสเทรีย ทไวไลท์ เพื่อนของเธอ เสาหลัก ศิษย์ทั้งหก และสรรพชีวิตอื่นๆที่เป็นตัวแทนธาตุ ยืนประจัญบานต่อหน้าดานุ แสดงถึงความทรงพลังของเธอ เพื่อนและตัวอื่นๆทั้งเวทย์มนตร์ มิตรภาพ และความปรองดอง
- "บางทีสักวันพวกเราอาจจะสู้กัน บางทีแกอาจพูดถูก แต่เมื่อวันนั้นได้มาถึง พวกเราจะทำในสิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอด พวกเราจะปรนนิบัติแก่กันด้วยความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความภักดี ความเอื้อเฟื้อ และความขำขัน และพวกเราจะเชื่อว่าเวทย์มนตร์เล็กๆน้อยๆจะเกิดขึ้น และมิตรภาพของพวกเราจะนำมาสู่ชัยชนะ"
- — องค์หญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิลโต้กลับดานุ ผู้นำอัศวินแห่งความปรองดอง
อัศวินทั้งหกกลับดินแดนของตัวเองด้วยความคับแค้นใจ บางทีสักวันพวกมันอาจจะกลับมาหรืออาจจะไม่ก็ได้...
ท้ายที่สุดเป้าหมายของทไวไลท์ในฐานะผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียตัวใหม่ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์แก่ดินแดนต่างๆนอกบ้านเกิดเมืองนอนของเธอก็ประสบความสำเร็จ แม้อาจจะสร้างความบาดหมางในความไม่ตั้งใจ แต่กระนั้นมิตรภาพก็ถูกพิสูจน์แล้วว่ามันคือเวทย์มนตร์และสิ่งที่แสนวิเศษ ซึ่งถือว่าเหนือกว่าทุกๆสิ่ง ยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิมถือกำเนิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อย!
อนาคตอันใกล้
วันเวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน สไปค์เพื่อนรักเติบใหญ่เป็นมังกรที่ห้าวหาญ ส่วนตัวเธอเองนั้นก็เติบใหญ่มีรูปร่างคล้ายองค์หญิงเซเลสเทียผู้ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์ชีวิตแก่เธอ ตอนนี้เอเควสเทรียเป็นดินแดนแห่งความสงบสุขภายใต้ความปรองดองและมิตรภาพ ทไวไลท์และเพื่อนของเธอถูกจดจำในฐานะวีระอาชาผู้ยิ่งใหญ่ ทไวไลท์ขณะนี้ในห้องบัลลังก์กำลังเล่าถึงศิษย์เอกของเธอตัวหนึ่งในโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ที่เธอได้กลายเป็นเจ้าของต่อจากเซเลสเทียแก่สไปค์ เธอผู้นี้นามว่าลัสเตอร์ดอน ยูนิคอร์นผู้ไม่ค่อยจะคบค้าสมาคมมากเท่าไหร่ ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องมิตรภาพมากนักแม้จะมีความสามารถในด้านการเรียน ไม่ทันไร เธอผู้นี้เข้าพบเธอและบอกกลับว่ามิตรภาพเป็นสิ่งที่เสียเวลาและไม่คงอยู่ตลอดกาล ลัสเตอร์ดอนไม่ต่างกับกระจกของทไวไลท์ในสมัยที่เมินเฉยแก่มิตรภาพ ทไวไลท์เล่าถึงตัวเองในช่วงที่กำลังรับตำแหน่งเป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียให้ฟัง แต่ไม่ทันไรเพื่อนๆสหายมิตรของทไวไลท์เข้ามาหาและทักทายกันเหมือนช่วงเวลาวานๆ ทุกตัวดูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงเวลาที่ผ่านมา ลัสเตอร์ดอนเข้าใจมากขึ้น แม้ว่าทไวไลท์จะมีหน้าที่อันสูงศักดิ์แต่เธอก็ไม่มีวันลืมเพื่อนที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ ทไวไลท์กล่าวเพิ่มว่ามิตรภาพอาจจะยากในการรักษาแต่ชีวิตจะยากขึ้นถ้าไม่มีมัน ทไวไลท์กับเพื่อนพาลัสเตอร์ดอนมาโพนี่วิลล์เพื่อให้เธอเรียนรู้ในการสร้างมิตรภาพที่นั่นเช่นเดียวกับองค์หญิงเซเลสเทียที่เคยทำเช่นนี้กับทไวไลท์ ลัสเตอร์ดอนเจอเพื่อนใหม่ๆและออกไปเที่ยวกัน ทไวไลท์กับผองเพื่อนมองเธอด้วยความตื้นตันใจ ศิษย์ผู้นี้ในที่สุดก็เรียนรู้ถึงความสำคัญของมิตรภาพ...
ปิดจบการเดินทางของทไวไลท์ สปาร์คเคิล จากโพนี่ผู้หลงใหลในพลังเวทย์มนตร์ สู่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย ถ้าหากไม่ได้องค์หญิงและเพื่อนพ้องต่างๆที่ทำให้เธอเรียนรู้และเติบโตขึ้น เธอคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ เวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพของเธอเติบโตพร้อมกับเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่แสดงว่ามิตรภาพคือเวทย์มนตร์และสิ่งที่แสนวิเศษ
บทบาทในสื่ออื่นๆ
คอมมิคอื่นๆ

ทไวไลท์ในโลกตรงข้ามแห่งนี้
- ในจักรวาลคู่ขนานจากคอมมิค Reflections ทไวไลท์กับเพื่อนของเธอเป็นแก็งค์อาชญากรในโลกตรงข้ามแห่งนั้น และไม่มีการระบุถึงชะตาของพวกเขาหลังจากการเสียสละของราชาซอมบร้าของโลกแห่งนี้
- ในคอมมิค Siege of the Crystal Empire เธอช่วยจัดระเบียบงานคริสตัลแฟร์และหยุดกลุ่มตัวร้ายไม่ให้ขโมยหัวใจคริสตัลอย่างไรก็ตาม เธอและเพื่อนๆของเธอถูกบังคับให้ต้องต่อสู้กับ แรเดียนโฮปผู้จัดงานของพวกตัวร้าย และเป็นผู้ซึ่งได้คืนร่างของราชาซอมบร้าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
- ในคอมมิค Nightmare Knights Issue 3 ทไวไลท์จากอีกจักรวาลหนึ่งปรากฏตัวในเวทีของคลับตัวร้ายขององค์หญิงอีริส โดยเธอกลายเป็นนักมายากลผู้โอ้อวดเช่นเดียวกับทริกซี่ในอดีต อีกทั้งยังตั้งชื่อฉายาว่า "แสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทไวลี่"
- ในคอมมิค My Little Pony: Generations Issue 3 ทไวไลท์ถูกเรียกตัวไปที่โพนี่วิลล์โดยสตาร์ไลท์เพื่อช่วยจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นล่าสุดจากไวโอเล็ต ชิเวอร์, แบล็กเบลล์ และชาโดว์สตอร์ม และทำงานร่วมกับเซโคราเพื่อสืบหาแหล่งที่มาของเวทมนตร์ที่สร้างความเกลียดชัง ในฉบับที่ 4 เธอเดินทางกับเพื่อน ๆ ไปยังอีกโลกหนึ่งและคัดเลือกโพนี่จากหุบเขาแห่งความฝัน และในฉบับที่ 5 เธอเป็นผู้นำในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับสมูซ
การ์ดแลกเปลี่ยน
จากการแต่งงานของพี่ชายของเธอกับองค์หญิงเคเดนซ์ ทำให้ทไวไลท์ถูกระบุเป็นราชวงศ์ในการ์ดของเคเดนซ์และไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ก่อนการมาถึงของตอนจบของซีซั่นสาม [8]
คำอธิบาย Hasbro.com
'ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นเด็กที่ขยันและฉลาด เธอหมกมุ่นอยู่กับสิ่งหนึ่ง นั่นคือการเรียนรู้เวทมนตร์! ครั้งหนึ่งเธอเคยเรียนรู้มากจนไม่มีเวลาให้กับใครเลย จนกระทั่งองค์หญิงเซเลสเทียซึ่งเป็นอาจารย์ของเธอได้มอบหมายให้เธอเรียนรู้เวทมนตร์แบบพิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือ มิตรภาพ! เธอเพิ่งเปลี่ยนมาสนุกกับความสุขจากการมีเพื่อน เธอจึงใช้ความรู้และพรสวรรค์อันทรงพลังของเธอในเวทมนตร์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเธอในโพนี่วิลล์ แม้ว่าบางครั้งเธอจะ "อวดดี" เกี่ยวกับสิ่งที่ถูกหรือผิด แต่ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และช่วยเหลือเพื่อนทำให้เธอกลายเป็นเพื่อนใหม่ในโพนี่วิลล์ และเมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก สมองอันใหญ่โตและความรักที่มีต่อเพื่อนของเธอได้เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นผู้นำโดยกำเนิด!
คำอธิบายที่สองใน Hasbro.com
'พบกับเจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิล! องค์หญิงเซเลสเทียเคยสั่งให้ทไวไลท์เรียนรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพและรายงานสิ่งที่ค้นพบให้องค์หญิงทราบ เวทมนตร์ของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอมีปีกและกลายเป็นเจ้าหญิง! เหล่าโพนี่แห่งโพนี่วิลล์นับถือความฉลาดของทไวไลท์และชื่นชมภูมิหลังอันสูงส่งของเธอ ในฐานะผู้นำโดยกำเนิด ทไวไลท์ใช้ทักษะและพรสวรรค์ของเพื่อนๆ อย่างชาญฉลาดเพื่อบรรลุภารกิจ และมักจะค้นพบสิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเธอและเพื่อนๆที่น่าทึ่งของเธอ!
คำอธิบายเอเควสเทรียเกิร์ลใน Hasbro com
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เจ้าหญิงผู้ร่าเริงคนนี้ซึ่งเป็นสมองของโรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาขัดขวางเธอ แม้ว่าจะต้องเดินทางข้ามจักรวาลเพื่อรวบรวมเพื่อนเก่า เปิดเผยตัวร้ายที่น่ากลัวที่สุดของโรงเรียนแคนเทอร์ล็อตไฮสคูล และรวบรวมผู้คนก่อนถึงงานเต้นรำประจำฤดูใบไม้ร่วงเพื่อที่เธอจะได้นำมงกุฎกลับบ้าน แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงงานประจำวันของทไวไลท์ สปาร์คเคิล และเธอจะต้องใช้ทักษะทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่น เสน่ห์ และสติปัญญาของเธอ เพื่อให้ทำงานสำเร็จลุล่วง นั่นรวมถึงเวทมนตร์เล็กน้อยด้วย!
คำอธิบาย Rainbow Rocks
เมื่อเพื่อนๆ ต้องการเธอ ไม่มีใครเปล่งประกายได้เท่าทไวไลท์ สปาร์คเคิล ในฐานะนักร้องนำของวงเรนบูมส์ เธอพยายามทำให้ทุกคนเต้นตามจังหวะเดียวกัน เพื่อให้เสียงประสานนั้นครองความยิ่งใหญ่ในโรงเรียนแคนเทอร์ล็อตไฮสคูล
คำอธิบายอีกครั้ง Rainbow Rocks
สไตล์ซูเปอร์สตาร์ของทไวไลท์ สปาร์คเคิลทำให้เธอโดดเด่นในฐานะนักร้องนำของวงเดอะเรนบูมส์ ด้วยเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ เธอช่วยเพื่อนๆของเธอปราบวงเดอะแดซลิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มวายร้ายก่อนที่พวกเขาจะเข้ายึดโรงเรียนแคนเทอล็อตไฮสคูล
คำอธิบายใน HubNetwork com
เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์เคิลเป็นผู้ที่ขยันและฉลาดหลักแหลม เธอเรียนเก่งมากในเรื่องเวทมนตร์ แม้ว่าบางครั้งเธอจะใส่ใจในรายละเอียดมากเกินไป แต่ความกระตือรือร้นของทไวไลท์ที่จะช่วยเหลือกีบเท้าก็ทำให้เธอเป็นที่รักของเพื่อนๆ เธอไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญเรื่องมิตรภาพด้วย ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงอลิคอร์นผู้ทรงพลัง ยูนิคอร์นผู้มีปีก”
คำอธิบายใน Teacher For a Day
พบกับทไวไลท์ สปาร์คเคิล! เธอรักการอ่านและการเรียนรู้ องค์หญิงเซเลสเทียแห่งเอเควสเทรียได้มอบพลังให้กับทไวไลท์ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นั่นก็คือความหมายของมิตรภาพ! เธอมีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ที่ทรงพลังและใช้มันเพื่อนำทางเพื่อนใหม่ของเธอผ่านการผจญภัยในโพนี่วิลล์
ไม่มีปัญหาใดที่ทไวไลท์ สปาร์คเคิลจะแก้ไขไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความช่วยเหลือจากโพนี่ตัวอื่นๆ เวทมนตร์เล็กน้อย และคำแนะนำจากองค์หญิงเซเลสเทีย
คำอธิบายใน มายลิตเติลโพนี่ (เกมมือถือ)
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล นักเรียนที่ซื่อสัตย์ที่สุดขององค์หญิงเซเลสเทีย ชื่นชอบการเรียนและอยากเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ
บรีซซี่ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
โปรดจำไว้ว่า: ผู้ร่ายคาถาที่มีความรับผิดชอบจะทดสอบคาถาเปลี่ยนรูปร่างกับตัวเองก่อนเสมอในห้องทดลองที่มีการควบคุม!
เชนจ์ลิ่งทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ชีวิตนี้ต้องคลี่คลายข้อสงสัยที่น่าสงสัยที่สุดของเอเควสเตรีย ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจเป็นว่า “ทำไมเธอถึงเป็นเชนจ์ลิงในตอนนี้”
ทไวไลท์โกลาหล:
การรู้จักทไวไลท์ และการได้รับพลังเวทมนตร์แห่งความโกลาหลอาจหมายความว่าเธอจัดเรียงหนังสือของเธอตามสีปกแทนที่จะเป็นระบบทศนิยมโพนี่
คริสตัลทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอมีสำเนาปีศาจ-นุกรม ไว้ใกล้ตัวในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับการติดตามสัตว์ประหลาด!
เชนจ์ลิ่งมืดทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอดูดกินความรักอันบริสุทธิ์ที่สุดของทั้งหมดเท่านั้น: ความรักแห่งพีชคณิต
จักรพรรดินีแห่งโพนี่ิวิลล์ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
"สรรเสริญทไวไลท์ สปาร์คเคิล จักรพรรดินีองค์แรกของโพนี่วิลล์! ...หรือไม่ก็ไม่ควรทำเลย จริงๆ แล้วคุณไม่ควรทำ"
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลในอนาคต:
ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะคาดเดาอนาคตของทไวไลท์ สปาร์คเคิล แต่ดูเหมือนว่าการครองราชย์ที่ยาวนาน ยุติธรรม และมีเวทย์มนตร์จะเป็นไปได้ (นอกจากนี้ เธอยังสูงมาก!)
กิรินทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอสามารถใช้เขานั้นร่ายเวทย์มนตร์ได้หลายประเภทหรือไม่? ถ้าได้ เวทย์มนตร์ประเภทใดบ้าง? มีคำถามมากมายจริงๆ!!!
ขบวนพาเหรดวันปีใหม่ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ทุกๆ ปีที่คุณอายุมากขึ้น ความมหัศจรรย์ของมิตรภาพก็จะเพิ่มมากขึ้น
ไนท์แมร์ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ความฝันของความรู้ที่ไม่เพียงพอและเวทมนตร์ที่ไร้พลังให้กลายเป็นจริง
นิริกทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอจะทำการทดลองแบบควบคุมเกี่ยวกับสาเหตุที่เธออยู่ในไฟวิเศษตอนนี้ หากเธอไม่โกรธมากเกินไปจนไม่สามารถมีสมาธิได้
โจรสลัดทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ลองพูดว่า "เจ้าหญิงโจรสลัดผู้น่ารัก" เร็วๆ สามครั้งสิ เราท้าคุณ!
พลังสายรุ้งทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ขณะที่เธอเริ่มรับบทบาทเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอย่างแท้จริง
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลแบบย้อนยุค:
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลแบบย้อนยุคคือความสดใหม่ ทไวไลท์ สปาร์คเคิลแบบย้อนยุคมีชีวิตชีวาและเธออยู่ที่นี่เพื่อความสนุกเต็มที่!
ทไวไลท์ สเนก-ลี:
เดี๋ยวนะ... ที่นี่จะมีเจ้าหญิงร่ายคาถาพรางตัวอยู่เหรอ? เราไม่เห็นโพนี่ตัวไหนเลย...
ฮิปโปกริฟทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ฮิปโปกริฟผู้หิวกระหายความรู้ ถูกพบเห็นกำลังสำรวจยอดเขาปรองดองอย่างกระตือรือร้น
ซีโพนี่ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
หลงใหลในพัฒนาการของซีโพนี่ในช่วงแรกๆ ชอบสำรวจซีเควสเทรีย! แน่นอนว่าทำเพื่อการวิจัย
ทไวไลท์ สปาร์คกลิ้ง:
จนถึงตอนนี้ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เวอร์ชั่นแวมไพร์ปรากฏตัวเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น แต่เธอค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะเปล่งประกายสวยงามมากเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดด
สปาร์คเคิลอวกาศ:
นี่คือทไวไลท์ สปาร์คเคิล... บนอวกาศศศศศศ!!!
คาวบอยทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
สิ่งที่เธอสวมใส่เมื่อเธอต้องการแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพนั้นช่างมหัศจรรย์แม้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลในวัยเด็ก:
มหัศจรรย์พอๆกัน แต่ส่วนใหญ่ก็เล็กมาก!
นิตยสาร
ใน นิตยาสารซิกเนเจอร์ มายลิตเติลโพนี่ คอมมิคฉบับที่ 69 เรื่อง "เพื่อนที่กล้าหาญและเรื่องราวที่หายไป!" ทไวไลท์และสตาไลท์ กลิมเมอร์ ไปเยี่ยมเอเคเยียร์ลิ่ง และเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วเอเควสเทรีย เพื่อตามหาต้นฉบับ "แดริ่งดู" ที่สูญหายไปนานของเธอ[9]
คำอธิบายนิตยสาร มายลิตเติลโพนี่
- ฉลาด
- มีศิลปะ
- เป็นมิตร
- ขี้กังวล
- เอาใจใส่
เติบโตในราชสำนักของราชินีในแคนเทอล็อต ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นผู้นำโดยกำเนิด เธอรักการเรียนรู้และต้องการเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ
หนังสือคู่มือธาตุแห่งความปรองดอง
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล มีความรักในการเรียนรู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ในเอเควสเทรีย เธอเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ เพื่อนที่อดทน เป็นผู้จัดระเบียบที่คลั่งไคล้ และเป็นนักอ่านตัวยง บ้านของเธอในโพนี่วิลล์อยู่เหนือห้องสมุดโกลเด้นโอ๊ค ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ด้วย โดยมีสไปคฺ์และนกฮูกเลี้ยงของเธอชื่อโอลโลวิสเชียสคอยช่วยเหลือ จากธาตุทั้งหกแห่งความปรองดอง เธอเป็นตัวแทนของธาตุแห่งเวทมนตร์ เมื่อยังเป็นลูกโพนี่ตัวน้อยในแคนเทอล็อต องค์หญิงเซเลสเทียได้เลือกเธอให้ศึกษาเวทมนตร์รูปแบบสูงสุดในฐานะลูกศิษย์ขององค์หญิง เมื่อเห็นว่าทไวไลท์ให้ความสำคัญกับความรู้มากกว่าเพื่อน องค์หญิงจึงส่งทไวไลท์ไปที่โพนี่วิลล์เพื่อเรียนรู้คุณสมบัติเวทมนตร์ของมิตรภาพ เนื่องจากทไวไลท์ไม่เพียงเชี่ยวชาญเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังสร้างเวทมนตร์ของเธอเองผ่านมิตรภาพดังกล่าว เธอจึงได้รับปีกและตำแหน่ง เจ้าหญิงทไวไลท์
คู่มือฉบับที่ II
ตั้งแต่เธอเข้าเรียนในโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ของเซเลสเทีย ทไวไลท์ สปาร์คเคิลรู้ดีว่าเธอถูกกำหนดให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ จิตวิญญาณของเธอเต็มไปด้วยความกระหายความรู้ เธออ่านหนังสือทุกเล่มที่หาได้! การค้นคว้าของเธอประสบความสำเร็จเมื่อเจ้าหญิงเซเลสเทียมอบภารกิจที่สำคัญที่สุดในชีวิตให้กับม้าตัวน้อยตัวนี้ นั่นคือ ศึกษาเวทมนตร์แห่งมิตรภาพและซึมซับบทเรียนอันมีค่าของมัน ทไวไลท์ สปาร์คเคิลออกเดินทางผจญภัย เผชิญกับอันตรายและความท้าทายในทุก ๆ ทาง! โชคดีที่เธอมีเพื่อนโพนี่ตัวน้อยที่ทรงพลังคอยสนับสนุนเมื่อเธอต้องการมากที่สุด หลังจากค้นพบความจริงเบื้องหลังธาตุแห่งความปรองดองอันลึกลับ ทไวไลท์ สปาร์คเคิลก็ยกระดับจากโพนี่ตัวน้อยธรรมดาให้กลายเป็นอลิคอร์นและเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพที่สมบูรณ์แบบ จากปราสาทแห่งมิตรภาพ และร่วมกับเพื่อนซี้ทั้งห้าคนและสไปค์ ทไวไลท์ สปาร์คเคิลยังคงปกป้องเอเควสเทรียจากภัยคุกคามในขณะที่เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและส่งต่อความสุขไปตลอดทาง
สื่อโฆษณา
เพจ Meet the Ponies ของเว็บไซต์โปรโมตงานแต่งงานมายลิตเติลโพนี่ในประเทศออสเตรเลียใช้ผลงานแฟนอาร์ตของ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล[10][11]
บูธของฮาสโบรที่จัดแสดงในงาน Brand Licensing Europe 2012 มีโปสเตอร์ที่แสดงทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นอลิคอร์น[12] Jayson Thiessen was not involved with the creation of the poster.[13]
The Hub ได้ประกาศเมื่อวันที่ 29 และ 30 มกราคม 2013 ในบทความ EW.com โพสต์บน Twitter และ Facebook และข่าวเผยแพร่ เรื่องพิธีราชาภิเษกของทไวไลท์ สปาร์คเคิล ในฐานะเจ้าหญิงในตอนสุดท้ายของซีซั่น 3 Magical Mystery Cure เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2013[14] บทความและโพสต์ทั้งสองมาพร้อมกับรูปภาพของเธอที่สวมทั้งปีกและเขา ชุดเดรส รองเท้าสไตล์เจ้าหญิง และมงกุฎเวทย์มนตร์รุ่นใหม่[15][16] The Twitter post and the picture accompanying both posts each include the hashtag "#PonyPrincess".[17][18]
ภาพโปรโมต "My Little Pony La Magia de la Amistad" ที่โพสต์โดยเพจ Facebook อย่างเป็นทางการของ "My Little Pony" โดยทางสเปนยุโรป เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2015 ใช้ภาพแฟนอาร์ตของยูนิคอร์นทไวไลท์ และทริกซี่[19][20]
คำอธิบาย 4th Dimension Entertainment plush
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เป็นยูนิคอร์นที่รักการอ่านหนังสือและใฝ่เรียนรู้ เธอได้รับเลือกเป็นพิเศษจากเจ้าหญิงเซเลสเทียให้เป็นลูกศิษย์เมื่อทไวไลท์ สปาร์คเคิลยังเป็นลูกโพนี่ตัวน้อย ต่อมาองค์หญิงได้ส่งทไวไลท์ สปาร์เคิลไปที่โพนี่วิลล์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลอยู่เคียงข้างเพื่อนๆ ของเธอเสมอ คอยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาใดๆที่โพนี่ประสบอยู่ ด้วยความเป็นระเบียบและฉลาดจนเกินเหตุ นิสัยดื้อรั้นและเอาแต่ใจของเธอบางครั้งทำให้เธอต้องเจอกับปัญหา เธอมักจะใช้เหตุผลมากกว่าสัญชาตญาณ เชื่อในสิ่งที่เธอพิสูจน์ได้อย่างมีเหตุผลเท่านั้น ทำให้เธอมีความปรารถนาที่จะถามคำถามอย่างมีสุขภาพดี ความอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาตินี้ช่วยให้ทไวไลท์ สปาร์คเคิลผ่านการผจญภัยได้ดี เธอช่วยเธอแก้ปัญหาและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ ในแต่ละวันมีบทเรียนใหม่ๆ เกิดขึ้น และพลังวิเศษและกลุ่มเพื่อนของเธอก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กกับสไปค์ ผู้ช่วยมังกรตัวน้อยของเธอ และนกฮูกสัตว์เลี้ยงชื่อโอวโอวิเชียส
ร่วมกับเพื่อนสนิทของเธออย่าง พิ้งค์กี้พาย, แอปเปิลแจ็ค, เรนโบว์แดช, แรริตี้ และ ฟลัตเทอร์ชาย ทไวไลท์ สปาร์คเคิลได้เติมเต็มธาตุแห่งความปรองดอง ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่ทรงพลังที่สุดในเอเควสเทรียทั้งหมด
คำอธิบาย The Art of My Little Pony The Movie
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือผู้นำที่ไม่เป็นทางการของเพื่อนทั้ง 6 และเป็นวีรอาชาของ มายลิตเติลโพนี่ เดอะมูฟวี่ เธอเป็นผู้เรียนรู้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อนที่อดทน เป็นผู้วางแผนที่คลั่งไคล้ และเป็นนักอ่านตัวยง ในฐานะเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ เป็นหน้าที่ของทไวไลท์ที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าโพนี่ทุกตัวรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งด้วยการสร้างและรักษามิตรภาพทั่วทั้งเอเควสเทรีย เมื่อ ราชาสตอร์มขู่ว่าจะขโมยเวทมนตร์จากเหล่าโพนี่ ทักษะความเป็นผู้นำ ความมั่นใจ และแม้แต่มิตรภาพของทไวไลท์ สปาร์คเคิล จะถูกผลักดันจนถึงขีดสุด
'ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เป็นตัวแทนของธาตุเวทมนตร์!
My Little Pony: The Manga - A Day in the Life of Equestria
ใน มังงะฉบับที่ 1 ทไวไลท์มีบทในบทที่ 1, 2, 4 และ 8
คู่มือจำเป็นมายลิตเติลโพนี่
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ผ.อ.ของโรงเรียนมิตรภาพ และเพื่อนที่ดี ตอนแรก ทไวไลท์ เป็นโพนี่ตัวน้อยที่ขี้อายและชอบอ่านหนังสือ แต่เมื่อเธอได้ย้ายไปที่โพนี่วิลล์ เธอก็ได้ค้นพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่หนังสือไม่สามารถสอนได้
มายลิตเติลโพนี่ เปเปอร์คราฟท์
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เดิมทีเป็นโพนี่ยูนิคอร์น แต่กลับกลายร่างเป็นอลิคอร์นหลังจากแก้ไขคาถาที่ผิดพลาดและพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้นำ เธอเคยเป็นลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทีย และกลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพในโพนี่วิลล์ โดยได้รับมอบหมายให้แบ่งปันเวทมนตร์แห่งมิตรภาพกับผู้อื่น
บุคลิกนิสัย
มิตรภาพและการพัฒนาตัวเอง
ทไวไลท์เริ่มแรกนั้น เธอเป็นผู้ที่ไม่ชอบสังคมสักเท่าไหร่ ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใครเว้นแต่ครอบครัวโดยมักอ้างว่าไม่มีเวลาเพื่อที่จะได้ไปทำสิ่งที่สนใจเพียงอย่างเดียวเช่นการเรียนรู้และอ่านหนังสือ แม้ว่าเธอจะมีเพื่อนในตอนที่อยู่ในโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์แต่ก็เหมือนมีไปอย่างงั้นไม่ได้ให้คุณค่าใดๆกับเหล่าเพื่อนสาว โดยเฉพาะมูนเดอร์เซอร์ที่รู้สึกเจ็บใจมากที่สุดจากการที่โดนปฏิเสธคำชวนไปงานเลี้ยงโดยอ้างว่า "ไม่มีเวลากับเรื่องพวกนั้นหรอก" อย่างไรก็ดีแม้การปฏิเสธครั้งนี้จะทำให้ทไวไลท์สามารถพิทักษ์เอเควสเทรียกับเพื่อนใหม่ได้ในเวลาต่อมา แต่การโดนเมินเฉยจากเพื่อนที่คบมาตั้งแต่เด็กก็ถือว่าเป็นบาดแผลในใจที่เจ็บปวดสำหรับมูนเดอร์เซอร์อย่างยิ่ง ทไวไลท์ในมุมมองของเธอก็เป็นแค่พวกที่ชอบหยิ่งยะโส
หลังสร้างความเจ็บปวดแก่เพื่อนในวัยเด็กให้หนักกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว ทไวไลท์ถูกส่งไปตรวจสอบงานยกตะวันขึ้นผันที่โพนี่วิลล์ตามความมอบหมายขององค์หญิงเซเลสเทียโดยไม่เต็มใจ แต่ที่นั่นเองทำให้เธอพบกับการตระหนักรู้ครั้งใหญ่ แม้ว่าจะอยากจะเมินเฉยโพนี่ห้าตัวที่นั่นตั้งแต่แรกพบ แต่พวกเขาเองนี่แหละที่สามารถทำให้เธอผจญฝ่าฟันเข้าไปจนสามารถพิทักษ์เอเควสเทรียจากการกลับมาของไนท์แมร์มูนได้สำเร็จ โพนี่ทั้งห้านี้ทำให้เธอเรียนรู้และยอมรับในความสำคัญของมิตรภาพ และเธอต้องการเรียนรู้ให้มากขึ้นไปอีก จึงตัดสินใจดำเนินชีวิตบทใหม่ของเธอไปกับพวกเขา ทไวไลท์เรียนรู้บทเรียนชีวิตและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆกับเพื่อนใหม่ทั้งห้านี้ และอีกครั้งที่เป็นพวกเขาเองที่สามารถทำให้ทไวไลท์กลายเป็นเจ้าหญิงเเห่งมิตรภาพได้ในที่สุด แสดงถึงการเติบโตครั้งใหญ่ของทไวไลท์
อย่างไรก็ดีทไวไลท์เหมือนจะลืมเพื่อนเก่าของเธอแล้วถ้าหากไม่ได้แวะแคนเทอล็อตแล้วเจอพวกเขา ทไวไลท์ย้อนนึกคิดถึงการกระทำในอดีตจึงหันกลับมาขอโทษ เพื่อนเก่าทั้งหมดยอมรับยกเว้นมูนแดนเซอร์ผู้เจ็บใจที่สุดที่ปฏิเสธ แต่ท้ายที่สุดแล้วเหล่าเพื่อนเก่ากับเธอก็สามารถทำให้มูนแดนเซอร์ยอมรับในคำขอโทษนี้ได้ ก่อนที่จะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันตามที่เคยชวนเมื่อนานมาแล้ว
เห็นได้ว่าทไวไลท์เรียนรู้และเติบโตขึ้นเรื่อยๆหลังจากสนิทกับเพื่อนใหม่ทั้งห้า เธอยอมรับในมิตรภาพและลดความหยิ่งของตัวเองจนแทบจะไม่เห็นอีกเลย อีกทั้งก็ยังยอมรับในความผิดพลาดในอดีตแล้วไปขอโทษเหล่าเพื่อนเก่าที่โดนเธอเมิน ทไวไลท์มีมุมมองและบุคลิกที่เปลี่ยนไปในทางทีดีขึ้นจนสิ่งนี้เองทำให้เธอมีความเหมาะสมในการรับตำแหน่งองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียต่อจากสองพี่น้องอลิคอร์นในท้ายที่สุด
หนอนหนังสือ

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลอ่านหนังสือบนระเบียงห้องสมุด
ตั้งแต่ยังเด็ก ทไวไลท์รักในหนังสือเป็นอย่างมากซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความหลงใหลในเวทย์มนตร์ขององค์หญิงเซเลสเทียและความต้องการในสอบเข้าโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ผ่าน ความรักในการอ่านหนังสือติดตัวไปจนชั่วชีวิตของเธอ เธออ่านหนังสือได้ทุกเล่มทุกเรื่องต่อให้มันจะไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ อย่างเช่นในตอน Fall Weather Friend ที่เธออ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิ่งจนจบมาหลายเล่มเพื่อที่จะได้ลงแข่งวิ่งกระทบใบไม้ และในตอน Lunar Eclipsed และ Testing Testing 1, 2, 3 แสดงให้เห็นว่าทไวไลท์ก็ชอบอ่านในเรื่องประวัติศาสตร์เช่นกันเป็นต้น ทไวไลท์จะตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อได้อยู่ในสถานที่จำพวกห้องสมุดหรือคลังเก็บความรู้หรือแม้แต่การพบว่ามีห้องสมุดลับในสักสถานที่
ผู้รักในความมีเหตุผล

ทไวไลท์พยายามสืบหาความจริงในลางของพิ้งค์กี้
ทไวไลท์ชอบให้ความสำคัญกับความมีเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะบ้าบอเพียงใดแต่เธอก็ชอบที่จะค้นหาเหตุผลของมัน ยกตัวอย่างเช่นการหยุดให้พิ้งค์กี้ยกคำอ้างมั่วๆและให้เธอช่วยกันสืบหาคนทำลายเค้กบนรถไฟกับตัวเองในตอน MMMystery on the Friendship Express
อย่างไรก็ดี ภายใต้ความเครียดและความกดดันที่มากล้นสามารถทำให้เธอเสียสติและขาดความมีเหตุผลไปได้ ยกตัวอย่างเช่นตอน Swarm of the Century ทไวไลท์ยกคำแนะนำให้รีบสร้างโพนี่วิลล์แบบก็อปปี้อย่างไตร่ตรองเพื่อที่จะให้องค์หญิงเซเลสเทียมาที่นั่นโดยไม่ต้องเห็นการทำลายล้างของพวกแมลงพาราสไปรท์, ในตอน Lesson Zero ด้วยความกลัวที่องค์หญิงเซเลสเทียจะลงโทษเธอถ้าหากไม่ส่งรายงานมิตรภาพตามกำหนด ทไวไลท์จึงกลายเป็นบ้าและสร้างปัญหาขึ้นมาเอง, ในตอน The Crystal Empire - Part 1 เธอปรารถนาอย่างสิ้นหวังในการผ่านบททดสอบขององค์หญิงเซเลสเทีย, ในตอน The Beginning of the End - Part 1 เธอหายใจอย่างรวดเร็วด้วยความตระหนกหลังจากรู้ว่าต้องมารับตำแหน่งผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียต่อจากสองพี่น้องอลิคอร์น, และในตอน A Trivial Pursuit เธอมีความสิ้นหวังในการชนะการแข่งขันตอบคำถามเมื่อมีพิ้งค์กี้เป็นคู่หูในเกมซึ่งเป็นตัวถ่วง เป็นต้น
บางครั้งทไวไลท์ก็มีความช่างสงสัยในคำกล่าวอ้างที่ไม่ได้พิสูจน์ เช่นความสงสัยต่อความเขื่อที่อ้างว่าซีโกร่าเป็นนักเวทย์ช่วยร้ายในป่าเอฟเวอร์ฟรีในตอน Bridle Gossip และความสงสัยในเซนส์ของพิ้งค์กี้ในตอน Feeling Pinkie Keen
ทไวไลท์เองก็มีความกลัวต่อบางอย่างเช่นกัน เช่นความกลัวอาหารเควซาดิลลาอย่างไม่มีเหตุผลในตอน Party Pooped และความกลัวแมงเต่าทองที่มีมาตั้งแต่เด็กซึ่งแสดงในตอนสั้น Starlight the Hypnotist
ความมีเหตุผลของทไวไลท์ส่งผลต่อมุมมองของเธอด้วยเช่นกันดั่งใน มายลิตเติลโพนี่ เดอะมูฟวี่ ที่เธอมองว่าภายนอกเอเควสเทรีย ทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขด้วยมิตรภาพได้ จากการที่เธอกับเพื่อนเกือบโดนแมวนักต้มตุ๋นจับไปขายตัว และการเกือบโดนเตะออกจากเรือโจรสลัดนกแก้ว สิ่งนี้เองทำให้เธอมีแผนในการให้เพื่อนของเธอเบี่ยงเบนความสนใจขององค์หญิงสกายสตาร์เพื่อที่ไปแอบขโมยไข่มุกของซีเควสเทรียแล้วนำมากอบกู้เอเควสเทรีย อย่างไรก็ตามเธอล้มเหลวทำให้ทั้งเธอกับเพื่อนโดนขับไล่ และโดนเทมเปสท์ ชาโดว์จับตัวในเวลาต่อมา
ทักษะและความสามารถ
การจัดระเบียบ

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ผู้จัดระเบียบแห่งทุกฝ่าย
ทไวไลท์แสดงความสามารถในการจัดระเบียบของเธอในตอน Winter Wrap Up เป็นตอนแรก เมื่อในงานเก็บกวาดหน้าหนาวไม่เป็นไปตามแผนและเละตุ้มเป๊ะ ทไวไลท์จึงช่วยจัดระเบียบฝ่ายต่างๆให้มีระเบียบมากขึ้นและให้ทันกำหนดการเสร็จ สิ่งนี้ทำให้นายกแมร์สมญานามเธออย่างเป็นทางการว่า"ผู้จัดระเบียบทุกฝ่าย" ทไวไลท์ยังใช้ทักษะการจัดระเบียบนี้ในตอนอื่นๆเช่น Lesson Zero, Secret of My Excess และ It's About Time เป็นต้น การที่ทุกอย่างต้องเรียบร้อยของทไวไลท์ ตามหนังสือ The Art of Equestria และผู้กำกับดูแลเจสัน ธีสเซ่น กล่าวแบบคาดเดาว่าทไวไลท์"อาจจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ"
การสอน

ทไวไลท์สอนครูเซเดอร์ทั้งสาม
ทไวไลท์มีความสามารถในการเป็นครูเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการหรือบทเรียนชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทั้งมีความใฝ่รู้กับได้มาจากองค์หญิงเซเลสเทียในเวลาเดียวกัน สำหรับเรื่องวิชาการนั้นเช่นในตอน Twilight Time แสดงถึงทไวไลท์ใช้เวลาแต่ละสัปดาห์ในการสอนทักษะต่างๆแก่คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ เธอสอนเรื่องการใช้พลังลอยวัตถุให้สวีทตี้เบลล์ สอนแอปเปิลบลูมถึงวิธีทำน้ำยาเร่งโตพืชพรรณ และสอนสกูตาลูถึงวิธีถอดกับประกอบสกูทเตอร์และจักรยานประเภทต่างๆ ทไวไลท์มีความสุขมากๆเมื่อเธอคิดว่าเหล่ามีนักเรียนอยากเรียนเรื่องใหม่ๆกับเธอในตอนนั้น แต่ก็ผิดหวังเมื่อพบว่าเธอเป็นแค่คนดังสำหรับนักเรียนพวกนั้น
ความสามารถในการเป็นครูของทไวไลท์ที่สอนแก่ครูเซเดอร์ทั้งสามถูกพิสูจน์แล้วว่าสำเร็จ พวกเขาเหล่าสามต่างมีความสามารถขั้นสูงตามที่เธอตั้งใจสอนมาในท้ายที่สุด
แม้ว่าจะสอนเก่งแค่ไหน ทไวไลท์ก็ไม่สามารถทำให้เรนโบว์แดชสนใจในการติวสอบประวัติศาสตร์วอนเดอร์โบลท์อย่างตอน Testing Testing 1, 2, 3 เรนโบว์แดชเมินเฉยและทำตัวตลกแม้ว่าสิ่งที่กำลังติวเป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก๊ดีนี่ก็ไม่ได้แสดงว่าทไวไลท์มีความสามารถไม่พอ แต่เป็นเพราะวิธีการสอนของเธอไม่เหมาะกับโพนี่อย่างเรนโบว์แดช
สำหรับเรื่องบทเรียนชีวิตนั้น เธอสอนให้แก่สตาไลท์ กลิมเมอร์ผู้เคยหลงผิด หลังจากทำความเข้าใจกัน เธอพาสตาไลท์ไปยังอาณาจักรคริสตัลด้วย ซึ่งทำให้สตาไลท์พบกับเพื่อนเก่าอย่างซันเบิร์สท์ และอีกทั้งยังร่วมกับเธอช่วยปกป้องอาณาจักรคริสตัล ความสามารถในการเป็นครูชีวิตแก่สตาไลท์ก็สำเร็จเช่นกัน สตาไลท์กับเหล่าอดีตตัวร้ายอีกสามสามารถช่วยเธอกับคนอื่นๆจากคริสซาลิสได้ อีกทั้งทำให้เผ่าพันธุ์เชนจ์ลิ่งกลายเป็นมิตร พิสูจน์ถึงความสามารถในการเป็นครูชีวิตแก่ผู้เคยหลงผิดอย่างสตาไลท์ กลิมเมอร์
ความอยากเป็นครูของทไวไลท์แสดงออกมาอย่างมากที่สุดในช่วงซีซั่นแปด เธอเปิดโรงเรียนแห่งมิตรภาพโดยมีจุดประสงค์ในการสอนเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพแก่เผ่าพันธุ์ต่างๆและนำกระจายทั่วเอเควสเทรียและนอกเหนือ เธอทำหน้าที่เป็นผ.อ. โดยมีเพื่อนของเธอกับเธอเองด้วยเป็นครูสอน เมื่อมาถึงยุคที่เธอต้องรับช่วงต่อเป็นผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรีย ทไวไลท์จึงมอบตำแหน่งผ.อ.นี้แก่สตาไลท์
ในอนาคตอันใกล้หลังขึ้นมาปกครองเอเควสเทรีย ทไวไลท์กลายมาเป็นเจ้าของโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ และสอนลัสเตอร์ดอน ศิษย์เอกของเธอให้ตระหนักถึงความสำคัญของมิตรภาพ สิ่งนี้เป็นเหมือนภาพสะท้อนที่องค์หญิงเซเลสเทียเคยสอนทไวไลท์ในเรื่องเดียวกัน
เวทย์มนตร์
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลมีความสามารถอันโดดเด่นและพรสวรรค์ในเวทย์มนตร์ ถึงขั้นทำให้องค์หญิงเซเลสเทียประทับใจเลยทีเดียวตั้งแต่ตอนก่อนรับเข้ามาเป็นศิษย์ส่วนตัว พระองค์กล่าวว่าไม่เคยเห็นยูนิคอร์นที่มีความสามารถแบบนี้มาก่อน
เวทย์มนตร์โดดเด่นที่ทไวไลท์แสดง |
---|
|

ทไวไลท์ร่ายคาถาป้องกันความล้มเหลวของเธอ ซึ่งใช้ไม่ได้ผลกับเวทมนตร์ของดิสอคอร์ด
แม้ว่าทไวไลท์มีพรสวรรค์ในเวทย์มนตร์ แต่บางครั้งเธอก็ทำพลาดเช่นกัน
- เมื่อเธอร่ายมนตร์ใส่พาราสไปรท์ ในตอน Swarm of the Century เพื่อให้พวกมันไม่กิน อาหาร พวกมันก็เริ่มบริโภคสิ่งของที่ ไม่ใช่อาหาร และต่อมาก็ทำลายทั้งโพนี่วิลล์
- เมื่อเธอพยายามช่วยงานเก็บกวาดล้าง ด้วยการให้คันไถเคลื่อนไหวเองด้วยคาถา "มีชีวิตขึ้นมา" แต่เธอก็สูญเสียการควบคุมและก่อความวุ่นวาย
- ตอน The Return of Harmony Part 1 เธอพยายามย้อนกลับผลกระทบแปลกๆของดิสคอร์ดด้วย "คาถาป้องกันความล้มเหลว" แต่ก็ล้มเหลว
- ตอน Magic Duel เธอมีปัญหาในการร่ายมนตร์อายุ ซึ่งเธอบอกว่ามีไว้สำหรับ "ยูนิคอร์นระดับสูงสุดเท่านั้น"
- ตอน Make New Friends but Keep Discord ทไวไลท์ล้มเหลวในการหยุดสมูซด้วยเวทมนตร์ของเธอ
- ตอน The Cutie Re-Mark - Part 1 ทไวไลท์พยายามหยุดสตาไลท์ กลิมเมอร์ ไม่ให้ร่ายคาถาเดินทางข้ามเวลา แต่คาถาที่เธอร่ายกลับกระเด็นออกไป
- ตอน The Cutie Re-Mark - Part 2 ทไวไลท์พยายามร่ายเวทย์ป้องกันตัวต่อ หมาป่าทิมเบอร์วูฟ แต่มันก็ไม่ได้ผล
- ใน My Little Pony The Movie ทไวไลท์ร่ายเวทย์ใส่ทหารองครักษ์ของราชาสตอร์ม แต่มันกระเด้งออกมาจากเกราะป้องกันของพวกเขา และจบลงด้วยการทำลายส่วนของสะพานที่เธอและเพื่อนๆ ยืนอยู่

เขาของทไวไลท์เรืองแสงสีชมพูเข้ม
ในซีซันแรก เขาของทไวไลท์มักจะเรืองแสงสีขาวหรือสีเดียวกับขนของเธอ และสิ่งของที่เธอควบคุมจะเรืองแสงสีขาว ลาเวนเดอร์ หรือชมพู เมื่อเธอควบคุมสิ่งของหลายๆชิ้นในคราวเดียวจะใช้สีอื่นๆอีกหลายสีด้วยเช่น ในฉากค้นหาอัญมณีใน A Dog and Pony Show เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 3ของซีซันที่สอง เวทมนตร์ของทไวไลท์จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสม่ำเสมอโดยใช้แสงสีชมพู แม้ว่าในฉากย้อนอดีตใน The Point of No Return จะเป็นสีขาวก็ตาม
ครอบครัว
- ดูเพิ่มเติม: ตระกูลสปาร์คเคิล
พ่อกับแม่
- บทความหลัก: ทไวไลท์เวลเวท กับ ไนท์ไลท์

พ่อแม่ของทไวไลท์ ทไวไลท์เวลเวท กับ ไนท์ไลท์
พ่อแม่ของทไวไลท์ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน The Cutie Mark Chronicles ในฉากย้อนอดีต พวกเขาพยักหน้าอย่างตื่นเต้นเมื่อองค์หญิงเซเลสเทียเสนอที่จะให้ทไวไลท์เป็นลูกศิษย์ของพระองค์ ต่อมาพวกเขาก็ปรากฏตัวในตอน A Canterlot Wedding - Part 2, Magical Mystery Cure และ The Crystalling - Part 2 ในฐานะเชื้อสายตระกูลในเหตุการณ์สำคัญต่อตระกูลสปาร์คเคิล
แม่ของทไวไลท์ สปาร์เคิล มีลักษณะคล้ายกับโพนี่รุ่นที่ 1 ชื่อTwilight ใน My Little Pony Special โดยมีทรงผมที่คล้ายกับทไวไลท์ ส่วนพ่อของทไวไลท์ สปาร์เคิลมีลักษณะคล้ายกับม้าโพนี่ผู้หญิงรุ่นที่ 1 ชื่อไนท์ไลท์
ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์

ทไวไลท์กับพี่ชายของเธอ ไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ในวัยเด็กทั้งคู่
ทไวไลท์เผยว่าเธอมีพี่ชายชื่อไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ ในตอน A Canterlot Wedding - Part 1 เธอร้องเพลง B.B.B.F.F. (Big Brother Best Friend Forever/พ.ก.พ.ก.ต หรือ พี่กับน้องเพื่อนกันตลอดไป) ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับความผูกพันอันแน่นแฟ้นของพวกเขาและความรู้สึกคิดถึงเขาหลังจากที่ย้ายไปโพนี่วิลล์ ไชน์นิ่ง อาร์เมอร์แม้เขาจะยุ่งมากกับหน้าที่ต่างๆในอาณาจักรคริสตัล แต่เขาก็ยังมีเวลาให้กับน้องสาวของเขา ซึ่งเขาเรียกว่า "ทไวลี่" ในตอน Sparkle's Seven เผยว่าทั้งสองมีการแข่งขันกันอย่างเป็นมิตรในรูปแบบของการแข่งขัน "สูงสุดแห่งสายเลือด" ตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก
สไปค์

ทไวไลท์กอดสไปค์
ทไวไลท์รับเลี้ยงน้องชายบุญธรรมตัวนี้ตามที่กล่าวไว้ในตอน Sparkle's Seven ตลอดทั้งซีรีส์ สไปค์ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหมายเลขหนึ่งของทไวไลท์ โดยส่งจดหมายถึงองค์หญิงเซเลสเทียเพื่อส่งบทเรียนมิตรภาพของเธอ ในตอน Sparkle's Seven สไปค์รู้สึกว่าถูกละเลยในการแข่งขัน"สูงสุดแห่งสายเลือด" และบอกกับฟลัตเตอร์ชายว่าเขาเห็นทไวไลท์และไชน์นิ่งอาร์มเมอร์เป็นพี่น้องกันเสมอมา ในตอนจบของตอนนี้ ไชน์นิ่งอาร์มเมอร์และทไวไลท์มอบมงกุฎ"สูงสุดแห่งสายเลือด"ให้กับสไปค์ เนื่องจากทั้งคู่มองว่าสไปค์เป็น"น้องชายคนเล็กที่พวกเขามีมาโดยตลอด"
องค์หญิงเคเดนซ์

ทไวไลท์เข้ากอดเคเดนซ์
ทไวไลท์เปิดเผยว่าองค์หญิงเคแดนซ์เป็นพี่เลี้ยงของเธอตอนที่เธอยังเด็ก และทั้งสองก็ร้องเพลงเป็นการทักทายกันว่า "แสงแดด แสงแดด เต่าทองตื่นแสงแดด ตบกีบเท้า สะบัดก้นเราไปมา!" ในตอนจบของ A Canterlot Wedding - Part 2 ทไวไลท์กลายเป็นน้องสะใภ้ของเคแดนซ์เมื่อเคแดนซ์แต่งงานกับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ทไวไลท์สนุกกับการใช้เวลากับเคแดนซ์อย่างที่เห็นในตอน Three's A Crowd เมื่อเคแดนซ์มาเยี่ยมเธอ
เฟลอรี่ ฮาร์ท

ทไวไลท์กับหลานของเธอ เฟลอรี่ฮาร์ท
ในตอน The One Where Pinkie Pie Knows เคแดนซ์และไชน์นิ่งอาร์มเมอร์สร้างความประหลาดใจให้ทไวไลท์ด้วยการบอกว่าพวกเขากำลังจะมีลูกและเธอกำลังจะเป็นน้า เธอได้พบกับเฟลอรี่ ฮาร์ท หลานสาวคนใหม่ของเธอในตอนเริ่มต้นของซีซั่นที่ 6 และตกใจเมื่อพบว่าเธอเป็นอลิคอร์น อย่างไรก็ตามไม่นานนัก ทไวไลท์ก็หลงรักเฟลอรี่ ฮาร์ทมากในตอนจบของตอน The Crystalling - Part 2 และตั้งตารอที่จะเห็นเธอในตอน The Times They Are A Changeling
ในตอน A Flurry of Emotions ทไวไลท์พยายามใช้เวลาอยู่กับเฟลอรี่ ซึ่งทำให้ตารางงานที่ยุ่งวุ่นวายของเธอต้องยุ่งไปด้วย
บอลลูนลมร้อน
- บทความหลัก: บอลลูนทวิงกลิ้ง

ทไวไลท์กับสไปค์ในบอลลูนลมร้อน
ทไวไลท์นั่งบอลลูนลมร้อนสีม่วงในฉากเริ่มต้อนของบทเพลงเปิด และใช้บอลลูนเดียวกันบินไปกับเพื่อนๆที่คลาวส์เดลล์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันของเรนโบว์แดชในตอน Sonic Rainboom ในตอน The Return of Harmony Part 2 เหล่าโพนี่ใช้บอลลูนนี้บินไปกับฟลัตเทอร์ชาย เพื่อจับเรนโบว์แดชที่ถูกล้างสมอง บอลลูนนี้ยังถูกใช้ในโอกาสอื่นๆอีกด้วย
มงกุฏ
ในสามซีซั่นแรกของซีรีส์ ทไวไลท์มีมงกุฎที่บรรจุธาตุแห่งเวทย์มนตร์ เธอได้รับมงกุฎนี้ในตอน Friendship is Magic, part 2 เมื่อเธอเอาชนะไนท์แมร์มูนได้ มงกุฎประดับด้วยแร่ไพลินและอัญมณีรูปดาวสีแดงอมม่วงที่มีรูปร่างเหมือนคิวตี้มาร์คของทไวไลท์
หลังจากที่ทไวไลท์กลายเป็นเจ้าหญิงในตอน Magical Mystery Cure เธอสวมมงกุฎอีกอันที่มีองค์ประกอบของเวทมนตร์ฝังอยู่ มงกุฎนี้เป็นสีทองอ่อน ไม่มีไพลินอีกต่อไป และวางเป็นแนวนอนไม่ใช่แนวตั้งบนหัวของทไวไลท์ มงกุฎนี้ปรากฏอีกครั้งในตอน Shadow Play - Part 2 และตอน The Beginning of the End - Part 1
ทไวไลท์สละมงกุฎของเธอเมื่อเธอและเพื่อนๆคืนธาตุแห่งความปรองดองแก่พฤกษาแห่งความปรองดอง ในตอน Princess Twilight Sparkle - Part 2 ในงานยกตะวันขึ้นผัน เธอสวมมงกุฎใหม่ซึ่งมีสีทองเฉดเดียวกันแต่ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากมงกุฎธาตุแห่งเวทมนตร์ของเธอ มงกุฎนี้มีรูปร่างแบบ"ดั้งเดิม"มากขึ้น โดยแต่ละจุดประดับด้วยอัญมณีแมเจนต้าขนาดเล็ก มงกุฎนี้จะกลายเป็นมงกุฎประจำของเธอนับจากนั้นเป็นต้นมา ดังที่เห็นในตอน Trade Ya!, Equestria Games, Twilight's Kingdom - Part 1 และ Princess Spike
ในมายลิตเติลโพนี่เดอะมูฟวี่ ทไวไลท์ใส่มงกุฏที่ต่างจากเดิม และมันถูกทำลายด้วยการขย้ำทิ้งโดยเทมเปสท์ ชาโดว์
ในตอนThe Last Problem เมื่อทไวไลท์กลายเป็นผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียผู้ใหม่ เธอได้รับมงกุฏที่เป็นการผสมกันขององค์หญิงเซเลสเทียกับองค์หญิงลูน่า
ทไวลิเคนหรือไม้เท้าทไวไลท์ ไม่มีชื่อในซี่รี่ส์แต่มีใน เกมการ์ดสะสม ของ Enterplay เป็นไม้ที่ดิสคอร์ด มอบให้กับเธอในตอน Princess Twilight Sparkle - Part 2 เพื่อล้อเลียนสถานะ "เจ้าหญิง" ของเธอ ต่อมาทไวลิเคนปรากฏตัวในตอน Slice of Life เมื่อเลม่อนฮาร์ททิ้งมันไว้ในทางของสถานีดีเจเคลื่อนที่ของ DJ Pon-3 ตอน The Gift of the Maud Pie แรริตี้พิจารณามันเป็นตัวเลือกสำหรับของขวัญให้กับม็อด ตอน A Royal Problem เมื่อเดิร์บปี้ใช้มันในความฝันอีกทั้งใน มังงะ A Day in the Life of Equestria อีกด้วย
การปรากฏตัว
- ดูเพิ่มเติม: ตารางตัวละครที่ปรากฏ
Legend | |
---|---|
Y | ถูกโฟกัสเด่นๆอย่างน้อยในฉากใดฉากหนึ่ง |
S | ถูกโฟกัสเป็นฉากๆหนึ่ง โดยที่ไม่มีคำพูดหรือคำบรรยายจากตัวละครตัวนั้น |
B | ปรากฏเป็นตัวประกอบและไม่ได้ถูกโฟกัสมากนัก |
F | ปรากฏในรูปแบบของภาพแฟลชแบ็คหรือไม่ก็จินตนาการ |
P | ไม่ได้ปราฏเป็นตัวเป็นตน แต่มาเป็นรูปหรือรูปภาพ |
M | ไม่ปรากฏตัว แต่ถูกกล่าวถึงไม่ก็ชื่อหรือย่างอื่น |
N | ไม่ปรากฏตัวและไม่ถูกกล่าวถึง |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | S | Y | N | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | S | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | M | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | M | S | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | P | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | N | Y | N | P | N | N | Y | Y | N | B | Y | Y | P | M | N | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | Y | P | Y | Y | Y | Y | N | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | P | Y | M | M | B | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | Y | N | Y | M | Y | Y | Y |
บทพูด
- "โพนี่ทุกตัวในเมืองนี้เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว! รู้มัยว่ามันคือเวลาอะไร?!"
- — Friendship is Magic, part 1
- "เอาล่ะไนท์แมร์มูน เมื่อธาตุเหล่านั้นถูกจุดโดย...เหล่าประกาย ที่อยู่ในใจขอพวกเราทุกตัว มันจะกำเนิดธาตุที่หก:ธาตุแห่ง...เวทย์มนตร์!"
- — Friendship is Magic, part 2
- "ฮี่ฮี่!น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ เราจะทำตามทุกอย่างในหนังสือ และมันจะทำให้ปาร์ตี้ชุดนอนของฉันมีความสนุกอย่างเป็นทางการ"
- — Look Before You Sleep
- "ฉันกำลังวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ฉันกำลังสำรวจพิ้งค์กี้พายหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ "พิ้งค์กัส พายคัส" ในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ"
- — Feeling Pinkie Keen
- "โพนี่ทุกๆตัวจากทุกๆที่ย่อมมีจุดเชื่อมโยงแสนวิเศษและมหัศจรรย์กับเพื่อนของเธออยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้พบกันมาก่อนก็ตาม ถ้าเรายังรู้สึกเหงาและกำลังตามหาเพื่อนแท้ แค่ลองมองที่ท้องฟ้า ไม่แน่ บางทีเราและเพื่อนที่ดีที่สุดในอนาคตของเรากำลังมองสายรุ้งเส้นเดียวกันอยู่ก็ได้"
- — The Cutie Mark Chronicles
- "ไม่อยากเชื่อเลยว่าเรามาถึงแล้ว! เหมือนที่คิดไว้เลย สิ่งภายหน้าตรงนี้จะทำให้มันเป็นคืนที่ดีที่สุด!"
- — The Best Night Ever
- "ระวัง! ทอมเสด็จแล้ว!"
- — The Return of Harmony Part 2
- "พวกเราได้เรียนรู้ว่ามิตรภาพไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเสมอไป แต่ก็คุ้มค่าที่จะสู้เพื่อมัน!"
- — The Return of Harmony Part 2
- "ไม่เป็นไร ต้องไม่เป็นไร มันยังไม่หมดวันเลยนะ แต่มันใกล้หมดแล้ว! [คร่ำครวญ] มันจบสิ้นลงแล้ว! ความทรงจำที่โพนี่วิลล์! ทั้งหมดที่เรียนพิเศษ! ไม่ ไม่ นักเรียนดีเด่น เธอทำได้ โอ๊ย! แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ? ได้สิ เธอแค่ต้องหาเรื่องไง หาเรื่องเอง!"
- — Lesson Zero
- "ฉันต้องรายงานเรื่องนี้ต่อองค์หญิงให้เสร็จสิ้นเพื่อสรุปรายงานอื่นๆ ทั้งหมดของฉันต่ออวค์หญิง"
- — Baby Cakes
- "การอ่านเป็นสิ่งที่ใครๆสามารถสนุกได้ แค่เธอต้องลองมัน"
- — Read It and Weep
- "แหม บางทีเธอควรเปลี่ยนชื่อเป็น"เจ้าหญิงเจ้ากี้เจ้าการ""
- — A Canterlot Wedding - Part 1
- "มีบางอย่างบอกฉันว่ากำลังจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น"
- — Magical Mystery Cure
- "เมื่อไม่นานมานี้ อาจารย์และผู้ฝึกสอนของฉัน องค์หญิงเซเลสเทียส่งฉันให้มาอยู่ที่โพนี่วิลล์ ท่านส่งฉันให้มาเรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากสนใจสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้วันนี้ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าฉันคงไม่มายืนอยู่ ณ ตรงนี้หรอกหากไม่ใช่เพราะมิตรภาพที่สร้างมากับพวกเธอ พวกเธอแต่ละตัวสอนมิตรภาพบางอย่างให้แก่ฉัน และนี่้เองฉันจึงยินดีเสมอ วันนี้ฉันขอลงนามว่าฉันคือโพนี่ที่โชคดีที่สุดในเอเควสเทรีย ขอบคุณนะเพื่อนๆ ขอบคุณนะโพนี่ทุกตัว!"
- — Magical Mystery Cure
- "แค่เพราะว่าฉันมีมงกุฏกับปีกพวกนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่าฉันจะเป็นผู้นำที่ดีหรอกนะ!"
- — My Little Pony Equestria Girls
- "ใช่ แต่ฉันก็เห็นในสิ่งที่เธอทำที่นี้โดยไม่มีเวทย์มนตร์ เอเควสเทรียจะหาวิธีเอาตัวรอดได้แม้จะไม่มีธาตุแห่งความปรองดองจากฉัน แต่โลกแห่งนี้อาจจะไม่ถ้าฉันยอมให้มันตกอยู่ในกำมือของเธอ ฉะนั้นเอาเลย ทำลายกระจกนี่ซะ ยังไงเธอก็ไม่ได้มงกุฏนี้หรอก!"
- — My Little Pony Equestria Girls
- "มงกุฏชิ้นนี้อาจจะครอบอยู่บนหัวของเธอนะ ซันเเซ็ต ชิมเมอร์ แต่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้ เพราะว่าเธอไม่ได้ครอบครองเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังที่สุด: เวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ!"
- — My Little Pony Equestria Girls
- "บทบาทใหม่ของฉันในเอเควสเทรียแม้อาจจะหมายถึงฉันต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเดิม และมิตรภาพของพวกเราอาจจะถูกทดสอบมากขึ้น แต่มันจะไม่มีวัน "ไม่มีทาง" แตกหัก"
- — Princess Twilight Sparkle - Part 2
- "เอเคเยียร์ลิ่งและแดริ่งดูเป็นคนๆเดียวกันอย่างงั้นหรอ! หัวฉันระเบิดไปเลยนะเนี่ย!"
- — Daring Don't
- "รู้มั้ย เลือกโดยการไม่เลือกไม่ใช่การตัดสินใจเลย"
- — Rainbow Falls
- "เดี๋ยวก่อนนะ ฉันว่าฉันเข้าใจแล้ว เธอเอาแต่บอกว่าเธอทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่เราทุกคนกลับบอกว่าเธอไม่ รู้ไหมใครผิดหวังในตัวเธอสไปค์ เธอและมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถทำให้มันถูกต้องกับเธอได้อีกครั้ง จะทำยังไงล่ะ สไปค์”"
- — Equestria Games
- "ในฐานะเจ้าหญิง ฉันเชื่อว่าฉันมีอำนาจในการกระจายเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพทั่วเอเควสเทรีย! นั่นคือฐานะที่ฉันมีต่อโลกของเรา ฐานะที่ฉันเลือกที่จะมี! แต่ฉันไม่ได้เอาชนะทิเร็คด้วยตัวเองตัวเดียว มันใช้พวกเราทุกตัวในการปลดล็อกกล่องใบนั้น!"
- — Twilight's Kingdom - Part 2
- "เอาล่ะ สาวๆ มาลุยกัน! มิตรภาพคือเวทย์มนตร์!"
- — My Little Pony Equestria Girls: Rainbow Rocks
- "ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความตึงเครียดทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าฉัน และฉันก็ไม่เข้าใจเลย ฉันคงเป็นคนหนึ่งที่มีคำตอบทั้งหมด และทั้งหมดที่ฉันทำตั้งแต่ฉันมาถึงที่นี่ก็ทำให้พวกเธอผิดหวัง"
- — My Little Pony Equestria Girls: Rainbow Rocks
- "หา! ฉันคือแพนเค้ก... ไม่ใช่ ฉันตื่นแล้ว!"
- — Castle Sweet Castle
- "เตรียมตัวให้พร้อมโพนี่ทุกตัว! หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว!"
- — Tanks for the Memories
- "โอเค ไม่มีปัญกา แค่วางฟางในแอปเปิลและจากนั้นก็กินเทียน หึม"
- — Princess Spike
- "เอาล่ะ สไปค์ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เจ้าหญิงสามารถทำได้คือการตระหนักว่าตัวเองทำผิดพลาดและต้องแก้ไขมัน"
- — Princess Spike
- "นี่คือความฝันของพวกเธอ! อะไรก็ตามที่พวกเธอทำได้ในความฝัน ตอนนี้เธอทำได้เลย!"
- — Do Princesses Dream of Magic Sheep?
- "ทุกอย่างที่เราทำในอดีต - แม้แต่เรื่องเล็กที่สุด - สามารถสร้างก้อนหิมะที่ก่อให้เกิดความหายนะในอนาคตได้!"
- — The Cutie Re-Mark - Part 2
- "เด็กตัวนี้เป็นอลิคอร์นหรอ?!"
- — The Crystalling - Part 1
- "ช้อนซุป ส้อมสลัด ช้อนพาสต้า ไม้เก็บสตรอเบอร์รี่ ฉันเริ่มคิดว่ารองลงมาจากมิตรภาพแล้ว ความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการจัดวางเครื่องเงินอย่างเหมาะสม!"
- — No Second Prances
- "ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าฉันรู้จักใครบางคนที่ยินดีจะจัดการส่งสินค้านี้ให้กับคุณ ฉันกำลังพูดถึงตัวเอง อ้อ ขอฉันจัดการหน่อยนะ!"
- — The Saddle Row Review
- "ตอนนี้ฉันคือเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพแล้ว และโพนี่หลานตัวต่างกำลังมาหาฉันเพื่อช่วยแก้ปัญหาของพวกเขา แต่มันเรื่องโง่เขลาสำหรับฉันที่คิดว่าจะมีคำตอบให้ทั้งหมด สิ่งที่ฉันมีคือเพื่อนที่ดีที่คอยช่วยฉันตามหาพวกมัน"
- — My Little Pony Equestria Girls: Rainbow Rocks - The Mane Event
- "ฉันจะแค่หวังว่าสาวๆพวกนั้นทำให้ซันเซ็ต ชิมเมอร์ยุ่ง ยุ่งมาๆ"
- — Sunset Shimmer's Time to Shine
- "ฉันขอโทษที่ฉันมาที่นี่ช้าไป! ฉันไม่ได้ข้อความของเธอจนะกระทั่งตอนนี้ที่ฉันเพิ่งออกมาจากวังวนเวลา และเอาจริงๆนะ มันเป็นสิ่งที่แปลกที่สุดที่เคยเกิดขึ้นสำหรับฉันเลย!"
- — My Little Pony Equestria Girls: Friendship Games
- "ในฐานะเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ฉันพยายามเป็นตัวอย่างแก่ทั่วเอเวสเทรีย แต่วันนี้ สไปค์เองเป็นผู้ที่สอนฉันว่าเพื่อนใหม่สามารถมาได้ทุกที่ ฉันว่าโพนี่ทุกตัวยังคงมีเรื่องที่ให้เรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพ รวมถึงฉันด้วย! และเมื่อสไปค์กล่าวว่าธอแรกซ์เป็นเพื่อนฉันแล้ว ถ้าเช่นนั้นเขาก็เป็นเพื่อนของฉันด้วยเหมือนกัน!"
- — The Times They Are A Changeling
- "ฉันอาจไม่รู้ว่าอะไรจะรอคอยเธอต่อจากนี้ แต่ไม่ว่าจะอะไร ฉันสัญญาว่าฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อเธอเสมอ"
- — พูดต่อ สตาไลท์ กลิมเมอร์, Celestial Advice
- "ของขวัญที่เหมาะสำหรับพิ้งค์กี้พายต้องเป็น เอ - มีความพิเศษ, บี - เข้ากับนิสัยของเธอ, ซี - เป็นอาหาร แล้วอาหารที่พิเศษคืออะไรนะ คัพเค้กหรอ? ไม่ คุกกี้? ไม่ พาย? ขนมอบ? พุดดิ้ง? [หายใจลึก] เดี๋ยวก่อนนะ! พุดดิ้งงงงงงงงงงงงง! "
- — My Little Pony Best Gift Ever
- "พอได้แล้ว! เพราะพวกแกฉันเกือบหลงทาง แต่ทุกสายพันธุ์ที่นี่เตือนฉันถึงพลังที่แท้จริงของมิตรภาพ ในโลกนี้จะยังมีความมืดเสมอ แต่ก็จะมีผู้ที่ค้นพบแสงสว่างด้วยเช่นกัน เสาหลักรู้เรื่องนี้ พวกเขาถึงได้สร้างธาตุแห่งความปรองดอง ธาตุแสดงให้ฉันและเพื่อนๆเห็นว่ามิตรภาพแข็งแกร่งแค่ไหน เราช่วยกันนำความปรองดองมาสู่เอเควสเทรีย แต่มันย่อมมีงานให้ทำเพิ่มเสมอ ด้วยเหตุนี้เราจึงสอนผู้อื่นเรื่องเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ ผู้อื่นที่จะสานต่อภารกิจของเราหลังจากเราจากไปแล้ว ตอนนี้ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ธาตุเหล่านั้นเป็นแค่สัญลักษณ์ เวทย์มนตร์ที่แท้จริงอยู่ที่นี่เสมอ และยิ่งเข้าใจว่ามิตรภาพทรงพลังมากแค่ไหน เราจะแกร่งขึ้นแค่นั้น ไปด้วยกัน!"
- — The Ending of the End - Part 2
- "นี่คือจุดจบของยุคยุคหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิม"
- — ทไวไลท์กับเพื่อนเห็นพ้องต้องกัน The Ending of the End - Part 2
- "บางทีสักวันพวกเราอาจจะสู้กัน บางทีแกอาจพูดถูก แต่เมื่อวันนั้นมาถึง พวกเราจะทำในสิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอด พวกเราจะปรนนิบัติแก่กันด้วยความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความภักดี ความเอื้อเฟื้อ และความขำขัน และพวกเราจะเชื่อว่าเวทย์มนตร์เล็กๆน้อยๆจะเกิดขึ้น และมิตรภาพของพวกเราจะนำมาสู่ชัยชนะ"
- — โต้กลับดานุ Friendship is Magic Issue 102
- "บางครั้งมิตรภาพเป็นเรื่องที่ยาก และใช้ความทุ่มเทในการรักษามัน แต่เมื่อไม่มีเพื่อนมันจะยากลำบากกว่านี้อีก"
- — ทไวไลท์ สปาร์คเคิลในอนาคตอันใกล้กล่าวแก่ลัสเตอร์ดอน The Last Problem
แกลเลอรี่
- ภาพแกลเลอรี่ของ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล
ดูเพิ่มเติม
- ของเล่น และ สินค้า
- ทไวไลท์ สปาร์คเคิล (ไซ-ทไว)
- ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ใน Collectible Card Game Wiki
- ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ใน Fan Wiki
- ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ใน My Little Pony Gameloft Wiki
- หน้าคาดเดาของบทความนี้
- ตัวละครที่มีชื่อคล้ายกัน: ทไวไลท์ สปอร์คเคิล, ทไวไลท์เวลเลท, ทไวไลท์สกาย, และ ซาลิน่า สปาร์คเคิล
อ้างอิง
- ↑ My Little Pony Humanized Wallpaper. DeviantArt (2013-01-04). Retrieved on 2015 มิถุนายน 26.
- ↑ Timeline Photos. Facebook (2015-06-26). Retrieved on 2015 มิถุนายน 26.
- ↑ Lauren Faust (2013-11-29). Twilight became Twilight. Twitter. Retrieved on 2013 ธันวาคม 2.
- ↑ Lauren Faust via Twitter. Retrieved on 2013 มีนาคม 15.
- ↑ Interview with M.A. Larson. Midwestria 2012 (2012-09-22). Retrieved on 2012 ตุลาคม 1.
- ↑ Lauren Faust (2012-06-04). Comment on Help the Bronycon Documentary. Retrieved on 2012 พฤศจิกายน 11.
- ↑ Sabrina Alberghetti (2013-02-18). DeviantArt: Comment on *Sibsy's profile. Retrieved on 2013 ธันวาคม 13. “Yeah, she's a little taller.”
- ↑ A selection of trading cards including ones of Princess Cadance and Shining Armor. Retrieved on 2013 กุมภาพันธ์ 8.
- ↑ MLP Comic - English. Imgur (2017-03-23). Retrieved on 2017 พฤษภาคม 27.
- ↑ My Little Pony Wedding - Meet the Ponies. Retrieved on 2013 ธันวาคม 7.
- ↑ Twilight Sparkle (2011-04-10). Retrieved on 2013 ธันวาคม 7.
- ↑ Brand Licensing in Europe's Twilight Sparkle Derp?. Equestria Daily (2012-10-17). Retrieved on 2012 พฤศจิกายน 2.
- ↑ Jayson Thiessen (2012-12-19). Twitter / goldenrusset: @reversalmushroo I was not .... Retrieved on 2012 ธันวาคม 20.
- ↑ Twilight Sparkle Earns Her Wings and Becomes a Princess in Special February 16 Coronation Episode of ‘My Little Pony Friendship is Magic’ on The Hub TV Network. Discovery Press Web (2013-01-30). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
- ↑ Hold your horses, 'My Little Pony' fans: We've got a new 'Equestria Girls' trailer -- EXCLUSIVE. EW.com (2013-06-07). Retrieved on 2013 มิถุนายน 7.
- ↑ 'My Little Pony: Friendship Is Magic' exclusive: Twilight's becoming a princess!. EW.com (2013-01-29). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
- ↑ HubTVNetwork: RT to all of Equestria: .... Twitter (2013-01-29). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
- ↑ Timeline Photos. Facebook (2013-01-29). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
- ↑ Trixie and Twilight - The Magic of Friendship. DeviantArt (2012-12-02). Retrieved on 2015 มีนาคม 5.
- ↑ My Little Pony (2015-03-04). Timeline Photos. Facebook. Retrieved on 2015 มีนาคม 5.
|