My Little Pony : Friendship is Magic Wiki
Advertisement
My Little Pony : Friendship is Magic Wiki
สำหรับ ตอน ใน ซีซั่น 4 เข้า Princess Twilight Sparkle - Part 1 และ Part 2
สำหรับ ตัวละครนี้ในร่างมนุษย์ เข้า Twilight Sparkle (Sci-Twi)
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล
(เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเกิล)


เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเกิล – ธาตุแห่งมนตรา


ทไวไลท์ร่างยูนิคอร์นจากตอน A Canterlot Wedding - Part 1


ทไวไลท์ในตอนเด็กจากตอน A Canterlot Wedding - Part 1


ทไวไลท์ในร่างทารกที่เกิดจากความผิดพลากของคาถาในตอนสั้น Ali-icorn


ทไวไลท์ในร่างองค์หญิงจากตอน The Last Problem

ประเภท อลิคอร์น (ตั้งแต่ S3E13)
ยูนิคอร์น (ซีซั่น 1-3)
มนุษย์ (EG)
เพศ หญิง
ที่อยู่ แคนเทอล็อท (ก่อน S1E2, หลัง S9E25)
ปราสาทแห่งมิตรภาพ,
โพนี่วิลล์ (ซีซั่น 5-9)
ห้องสมุดโกลเด้นโอ๊ก,
โพนี่วิลล์ (ซีซั่น 1-4)
พระราชวังเจ้าหญิงคริสตัล (ของเล่น)
อาชีพ ผู้ปกครองเอเควสเทรีย (S9E26)
ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าขององคมนตรีแห่งมิตรภาพ (S9E26)
ผู้ปกครองปราสาทแห่งมิตรภาพ (S4E26-S9E26)
ผู้ก่อตั้งและผอ. โรงเรียนแห่งมิตรภาพ (S8E1-S9E20)
ครูของ สตาไลท์ กลิมเมอร์
(S5E26-S7E1)
บรรณารักษ์ห้องสมุดโกลเด้นโอ๊ก (ซีซั่น 1-4)
ลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทีย
(ซีซั่น 1-3)
อดีตลูกศิษย์โรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์
ลิ้งค์เพิ่มเติม
  • ภาพแกลเลอรี่ของ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล
ข้อมูลเพิ่มเติม
สีตา ไวโอเลตกลาง
สีแผงคอ ไพลินสีฟ้าเข้ม กับ
ไวโอเลตกลาง โดยมี
ราสเบอรี่เยี่ยมยอด เป็นลวดลาย (ปกติ)
พทาโล่สีฟ้าเข้ม กับ
ม่วงกลาง
โดยมี กุหลาบเยี่ยมยอด และ
มะกอกเทาอ่อนซีด เป็นลวดลาย (ร่างสายรุ้ง)
สีขน มัลเบอรี่เทาอ่อนซีด
กล้วยไม้เทาอ่อนซีด (ร่างมนุษย์)
แกมโบกีชเทาอ่อน (ร่างมนุษย์ที่ไม่ได้มาจากอนิมเชั่นเอเควสเทรีย[1] ภาพถูกโพสท์โดยเพจเฟสบุ๊ค My Little Ponyชองสเปนยุโรปที่เป็นออฟฟิเชียล )[2]
ออร่าเวทย์มนตร์ กล้วยไม้เทาอ่อนซีด (ซีซั่น 1, ในรูปภาพจาก S5E12 และ แฟลชแบ็คจาก S9E5)
ราสเบอรี่อ่อนหลักแหลม (ตั้งแต่ซีซั่น 2 )
ดำ ปนไปกับ
ไวโอเลตสดใสที่เป็นควัน กับ
เขียวอ่อนหลักแหลมที่เป็นขอบ (ตอนใช้ เวทย์มนตร์มืด)
โคบอลท์ฟ้าเทา (Friends Forever Issue #17 ปกเล่ม)
ชื่อเล่น ทไว, ทไวลี่/ทวินลี่/ทวิวลี่, ทไวไลท์ ฟลอปเปิล, น้องสาว, แมร์ ดู เวลล์, เจ้าหญิงทไวไลท์, แมสก์ แมทเทอร์-ฮอร์น, ทไวไลท์ ทวิงเกิล, ที-สปาร์คเกิล, ผ้าปิดตา, เจ้าหญิง-ทไวลี่-วิลลี่-พู, ทวิกกี้, แสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทไวลี่, กุหลาบสีม่วง, Tw (The Periodic Table of My Little Pony), ราชินีทไวไลท์ สปาร์คเกิล (เกมโทรศัพท์)
ครอบครัว ไนท์ไลท์ (บิดา)
ทไวไลท์ เวลเลท (มารดา)
ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ (พี่ชาย)
สไปค์ (น้องชายบุญธรรม)
องค์หญิงเคเดนซ์ (พี่สะใภ้)
องค์หญิงเซเลสเทีย (น้าสะใภ้)
องค์หญิงลูน่า (น้าสะใภ้)
ลุงนิรนาม
เฟลอรี่ ฮาร์ท (หลาน)
คิ้วตี้มาร์ค
ประกายหกแฉกสีชมพูที่ทับประกายหกแฉกสีขาวและถูกล้อมรอบด้วยประกายหกแฉกสีขาวหกดวง
เสียงพากย์ ทาร่า สตรอง (อังกฤษ)

สมิตา ไทยจำนง (ไทย, Boomerang)
นพวรรณ เหมะบุญ (ไทย, เดอะมูฟวี่)
ทิพย์ชนก พรหมจูฑะ (ไทย, season 1, TIGA)
ปัทมวลัย ซีแวร์ท (ไทย, season 2, TIGA)
ศันสนีย์ วัฒนานุกูล (ไทย, Mcot Family)

เสียงร้อง
รีเบคก้า ชอยเชต (อังกฤษ)

สมิตา ไทยจำนง (ไทย)

"เมื่อไม่นานมานี้ อาจารย์และผู้ฝึกสอนของฉัน องค์หญิงเซเลสเทียส่งฉันให้มาอยู่ที่โพนี่วิลล์ ท่านส่งฉันให้มาเรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากสนใจสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้วันนี้ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าฉันคงไม่มายืนอยู่ ณ ตรงนี้หรอกหากไม่ใช่เพราะมิตรภาพที่สร้างมากับพวกเธอ พวกเธอแต่ละตัวสอนมิตรภาพบางอย่างให้แก่ฉัน และนี่้เองฉันจึงยินดีเสมอ วันนี้ฉันขอลงนามว่าฉันคือโพนี่ที่โชคดีที่สุดในเอเควสเทรีย ขอบคุณนะเพื่อนๆ ขอบคุณนะโพนี่ทุกตัว!"
— สุนทรพจน์พิธีราชาภิเษกของเจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิล, Magical Mystery Cure

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือตัวละครศูนย์กลางดำเนินเรื่องหลักของมายลิตเติลโพนี่ มิตรภาพอันแสนวิเศษ เธอเป็นยูนิคอร์นเพศหญิงผู้ที่กลายเป็นอลิคอร์นและได้ตำแหน่งเจ้าหญิงในตอน Magical Mystery Cure เธอเป็นลูกสาวของทไวไลท์ เวลเลทกับไนท์ไลท์ น้องสาวของไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ น้องสะใภ้ขององค์หญิงเคเดนซ์ และน้าฝั่งพ่อของเฟลอรี่ฮาร์ท

ณ จุดเริ่มต้นของซีรี่ส์ เธอกับสไปค์เพื่อนรักและผู้ช่วยของเธอ ย้ายจากแคนเทอล็อทไปยังห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กที่โพนี่วิลล์เพื่อศึกษาเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ และในตอน Twilight's Kingdom - Part 2 เธอได้รับปราสาทเป็นของตัวเอง เป็นปราสาทแห่งมิตรภาพอีกทั้งได้รับตำแหน่งเป็น"เจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ" ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นตัวแทนธาตุแห่งมนตรา

ช่วงเวลาก่อนการเป็นเจ้าหญิง เธอมักจะส่งรายงานมิตรภาพแก่องค์หญิงเซเลสเทียเป็นประจำ และในตอน Owl's Well That Ends Well เธอก็ได้เลี้ยงนกฮูกชื่อโอนโอวิเชียสเพื่อให้เป็นผู้ช่วยยามราตรี ข้ามมายังตอน The Last Problemเธอก็ได้รับหน้าที่ให้กลายเป็นผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรีย

ร่างมนุษย์ของทไวไลท์ ไซ-ทไวปรากฏตัวครั้งแรกใน My Little Pony Equestria Girls: Friendship Games ในฐานะตัวร้ายชั่วคราว

พัฒนาการและการออกแบบ

Star Gazing Twilight Sketch

"ทไวไลท์จ้องมองดวงดาว" งานเสก็ตช์เริ่มแรกสำหรับรายการต้นฉบับ "show bible"

Lauren Faust G1 Twilight toy

ตุ๊กตาทไวไลท์ในวัยเด็กของลอเรน ฟาวส์

ลอเรน ฟาวส์ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบทไวไลท์ สปาร์คเคิล จากตุ๊กตาโพนี่รุ่นที่หนึ่งอย่างทไวไลท์[3] โดยการออกแบบเริ่มแรกของเธอนั้นมีความคล้ายคลึงทั้งในเรื่องของโทนสีและคิ้วตี้มาร์คกับตัวทไวไลท์ในรุ่นที่หนึ่งซึ่งปรากฏตัวในตอนทดลองออกอากาศ "Rescue at Midnight Castle" ต่อมาโทนสีของทไวไลท์นั้นเปลี่ยนให้มีความคล้ายคลึงกับม้าดินจากรุ่นที่สามที่ชื่อว่า ทไวไลท์ ทวิงเกิล ซึ่งมีแผงคอกับหางที่ต่างกันเล็กน้อย ลอเรน ฟาวส์กล่าวเพิ่มเติมว่าเดิมทีเเล้วทไวไลท์มีผมสีน้ำเงินเข้มพร้อมลายพาดสีน้ำเงินอ่อน[4]

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเคยมีชื่อว่า "ทไวไลท์ ทวิงเกิล" ในช่วงการเขียนบทเริ่มแรกของรายการนี้โดยตั้งตามโพนี่ที่เป็นแบบในรุ่นที่สามตามที่กล่าวมา[5] ชื่อนี้เองมูนแดนเซอร์เพื่อนในวัยเด็กของทไวไลท์ก็เรียกเธอแบบเดียวกันในตอน Amending Fences และในเกมโทรศัพท์ของเกมลอฟต์ก็เป็นหนึ่งในชื่อคอสตูมของเธอ เป็นการอ้างอิงถึงชื่อเก่านี้

ทไวไลท์จากรุ่นที่หนึ่งเทเลพอร์ตตัวเองโดยการอธิษฐานและยังชอบดูฝูงหิ่งห้อย สำหรับทไวไลท์ สปาร์คเกิลจากรุ่นที่สี่แล้ว โพนี่ทั้งสองตัวนี้มีสิ่งที่คล้ายๆกัน ต่างกันแค่สปาร์คเกิลมีความสามารถในการใช้เวทย์มนตร์เทเลพอร์ตและชอบดูกลุ่มดาวบนท้องฟ้าแทน แต่กระนั้นเธอมีความเป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในความสามารถทางเวทย์มนตร์มากกว่าเท่าตัว นอกจากนี้เธอยังมีนิสัยที่คล้ายกับเพกาซัสจากรุ่นที่หนึ่งอย่าง วินด์วิสเซอร์ เช่นการพิจารณาผ่านตรรกะมากกว่าสัญชาติญาณ และมีความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นต้น อีกทั้งเธอก็ยังมีนิสัยที่คล้ายกับโพนี่จากรุ่นที่หนึ่งอย่าง ไบรท์อายส์ เล็กน้อย

งานเสก็ตช์ปี 2008 สำหรับการออกแบบเริ่มแรกของซีรี่ส์ คิ้วตี้มาร์คของทไวไลท์มีความคล้ายคลีงของมูนเเดนเซอร์และมูนแดนเซอร์ตัวอื่นๆจากรุ่นก่อนหน้านี้ของมายลิตเติลโพนี่ ชื่อของเธอนั้นมีรูปแบบเดียวกันกับ ซันเซ็ต ชิมเมอร์, สตาไลท์ กลิมเมอร์ และสตาร์บีม ทวิงเกิล ซึ่งเป็นการใช้คำที่มีความหมายสอดคล้องหรือใกล้เคียงกันในตั้งชื่อกับนามสกุล

ลอเรน ฟาวส์เคยมีแผนให้ทไวไลท์มีพลังในการลอยตัว"ในบางจุด"[6] หลังจากการจากไปของฟาวส์ในการมีส่วนร่วมกับซีรี่ส์นี้ ทไวไลท์ใช้พลังนี้แค่สองตอนในซีซั่นสามได้แก่ The Crystal Empire - Part 2 และ Magical Mystery Cure

หนังสือเบื้องหลังอย่าง The Art of Equestria แสดงเพิ่มเติมว่าทไวไลท์ในตอนตั้งต้นเคยถูกออกแบบให้มีแผงคอกับหางเป็นเฉดสีน้ำเงินสองเฉดที่ต่างกัน อีกทั้งคิ้วตี้มาร์คในตอนแรกเป็นเสี้ยวพระจันทร์สีขาวพร้อมดาวดวงเล็กห้าดวง ซึ่งผู้ประพันธ์อย่าง แมรี่ เจน บีกิน กล่าวว่า"เป็นการแสดงทั้งในความภักดีและความรู้ในเวทย์มนตร์"

ในฐานะอลิคอร์น เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิลสูงขึ้นเล็กน้อย[7] คอของเธอโค้งเพิ่มไม่มาก และเขาของเธอก็ยาวขึ้นกว่าตอนเคยเป็นยูนิคอร์น ฉายากับชื่อของเธอนั้นยังสอดคล้องกับยูนิคอร์นจากรุ่นที่หนึ่งอย่าง เจ้าหญิงสปาร์คเคิล สุดท้ายในตอนอวสาน The Last Problem เธอสูงขึ้นอย่างเท่าตัวและมีแผงคอกับหางที่ปลิวสไวเฉกเช่นเดียวกับองค์หญิงเซเลสเทียและองค์หญิงลูน่า

การเดินทางและบทบาทในซีรี่ส์กับคอมมิค

ชีวิตในวัยเด็ก

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นลูกคนที่สองของคุณและคุณนายสปาร์คเคิล; ไนท์ไลท์ผู้เป็นพ่อและทไวไลท์เวลเลทผู้เป็นแม่ และน้องสาวสุดน่ารักของพี่ชาย; ไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ เธอเติบโตภายใต้ครอบครัวที่อบอุ่นในนครแคนเทอล็อท สนิทสนมกับพี่ชายเป็นอย่างมากถึงขั้นเรียกเขาว่า "พ.ก.พ.ก.ต" หรือ"พี่กับน้องเพื่อนกันตลอดไป" วันหนึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าร่วมเทศกาลฉลองตะวันขึ้นผันและช่วงนั้นเองที่ทำให้เธอได้พบกับองค์หญิงเซเลสเทียที่กำลังเบิกตะวันอยู่เบื้องหน้า สร้างความรู้สึกประทับใจในความทรงพลังเวทย์มนตร์ขององค์หญิงแก่เธอ ด้วยสิ่งนี้เอง ความสนใจในเวทย์มนตร์ของทไวไลท์จึงกำเนิดขึ้น เธอยึดเซเลสเทียเป็นแบบอย่างและหมั่นศึกษาฝึกฝนในเรื่องเวทย์มนตร์เป็นประจำ และในการศึกษานี้ทำให้เธอได้บุคคลในประวัติศาสตร์เข้าเป็นแบบอย่างเพิ่มมาอีกตัวนั่นคือ สตาเสวิร์ลหนวดงาม

ต่อมา พี่ชายของทไวไลท์พบรักกับเจ้าหญิงเคเดนซ์ และให้นางมาเป็นพี่เลี้ยงของเธอ ปรากฏว่าทไวไลท์นั้นสามารถเข้ากันได้ดีกับเคเดนซ์และถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญในชีวิตของเธอก็ว่าได้ ทั้งสองแต่งและร้องเพลงนี้ประจำเมื่อใดก็ตามที่ได้เจอกัน; "แสงแดด แสงแดด เต่าทองตื่นแสงแดด ตบกีบเท้า สะบัดก้นเราไปมา!"

เวลาแห่งการเข้าสู่การเล่าเรียนของทไวไลท์กำลังเข้ามา โดยเธอเลือกเข้าโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ของเซเลสเทีย โดยจะต้องผ่านการสอบด้วยการแสดงเวทย์มนตร์ไปก่อน เมื่อวันแห่งการทดสอบมาถึงหลังจากการฝึกฝนมาเป็นประจำ ทไวไลท์ได้โจทย์ให้ต้องฟักไข่ยักษ์ฟองหนึ่งด้วยเวทย์มนตร์น้อยๆของเธอ แต่ทว่าเธอกลับไม่สามารถทำได้ พลังของเธอดันอ่อนแอตอนนี้เสียอย่างนั้น สีหน้าเหล่ากรรมการต่างเคร่งขึงและผิดหวัง แต่ทันใดนั้น... ก็ได้บังเกิดระเบิดสายรุ้งหรือโซนิคเรนบูมผ่านโรงเรียนไป ระเบิดอันรุนแรงนี้กระตุ้นเวทย์มนตร์ของทไวไลท์ให้กลับมาทำงานอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงเวทย์มนตร์กระจายไปทั่ว ทำให้ไข่สามารถฟักมาได้ และคิ้วตี้มาร์คก็ปรากฏขึ้นบนตัวเธอ องค์หญิงเซเลสเทียรับรู้ถึงพลังเวทย์มนตร์ของเธอแม้จะอยู่นอกอาคาร หลังจากโซนิคเรนบูมรวมถึงทไวไลท์สงบลง องค์หญิงเซเลสเทียเข้ามาและยอมรับทไวไลท์เข้าโรงเรียนแห่งนี้ อีกทั้งยังตั้งให้เป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของพระองค์ พระองค์เห็นถึงความสามารถอันมหัศจรรย์ในเวทย์มนตร์ของทไวไลท์ ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ของเธอนั้น เธอได้รับหน้าที่อีกอย่างหนึ่งจากองค์หญิง สิ่งที่ฟักออกมาจากไข่คือมังกรทารกตัวน้อยสีม่วงไร้เดียงสาตัวหนึ่ง พระองค์มอบหน้าที่ให้ทไวไลท์ดูแลมันขณะเล่าเรียนไปด้วย ทไวลี่ยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก

ต่อมาในชีวิตวัยเรียนของเธอ ทไวไลท์ทำได้ดีเลยทีเดียวในเรื่องการเรียนแม้ตอนแรกการที่จะต้องดูแลมังกรน้อยไปด้วยจะเป็นอุปสรรคหลักสำหรับเธอ สร้างความรำคาญใจมากมาย แต่ท้ายที่สุดเธอก็เข้าใจว่ามันแค่ต้องการเพื่อนซึ่งนั่นก็คือเธอที่ต้องการด้วยเช่นกัน ทไวไลท์จึงตั้งชื่อมันว่า "สไปค์" ตามคำที่มันพยายามจะเรียกชื่อตุ๊กตาสมาร์ตตี้แพ้นท์ของเธอ สไปค์สำหรับทไวไลท์นั้นก็เหมือนกับสมาชิกครอบครัวอีกตัว โตมาด้วยกันและสนิทด้วยกัน ไม่ต่างจากพี่ชายของเธอ ชีวิตในเรียนของเธอดำเนินมาเรื่อยๆ มีกลุ่มเพื่อนสาวซึ่งได้แก่ เลม่อน ฮาร์ท, มินูเอท, ทวิงเกิลไชน์, และมูนแดนเซอร์ แต่อย่างไรก็ตามทไวไลท์ไม่ค่อยจะคบค้าสมาคมมากเท่าไหร่ ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องมิตรภาพมากนัก...

ซีซั่นหนึ่ง

เวลาผ่านมาเรื่อยๆจนเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเหมือนเหล่าเพื่อนๆกับเธอจะจบการศึกษาไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงทำแบบเดิม ไม่ใส่ใจเพื่อน สนใจแค่เวทย์มนตร์กับครอบครัว สไปค์เองก็โตขึ้นตามติดๆกันและกลายเป็นผู้ช่วยของเธอ ทไวไลท์ยังคงเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวขององค์หญิงเซเลสเทีย และแล้ววันหนึ่งทไวไลท์ค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับคำทำนายการกลับมาของไนท์แมร์มูน อดีตอลิคอร์นองค์น้อง ซึ่งปรากฏว่าเป็นคืนนี้พอดิบพอดี เธอตื่นตระหนกและพยายามไปเตือนองค์หญิงเซเลสเทียโดยปฏิเสธงานเลี้ยงที่เพื่อนชวน แต่พระองค์กลับส่งให้เธอไปตรวจสอบความเรียบร้อยในการจัดงานฉลองตะวันขึ้นผันซึ่งปีนี้จัดขึ้นในเมืองเล็กๆนามว่าโพนี่วิลล์ ทไวไลท์ต้องไปอย่างไม่เต็มใจนัก เธอบอกลาพี่ชายก่อนนั่งรถลากกับสไปค์มุ่งหน้าจากไป

เมื่อมาถึง ทไวไลท์ตรวจสอบความเรียบร้อยของงานตามรายการ และได้พบกับโพนี่แต่ละตัวที่รับผิดชอบในฝ่ายนั้นๆ แอปเปิ้ลแจ็คฝ่ายอาหารจัดเลี้ยง เรนโบว์แดชฝ่ายดูแลสภาพอากาศ แรริตี้ฝ่ายตกแต่งสถานที่จัด ฟลัตเทอร์ชายฝ่ายควบคุมวงนกร้องประสาน และสุดท้ายพิ้งค์กี้พาย...ฝ่ายจัดงานเลี้ยง! อย่างไรก็ตามการพบโพนี่ใหม่ๆไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับเธอ เธอระบายให้สไปค์ฟังว่าการพบเพื่อนใหม่รบกวนการศึกษาการต่อกรไนท์แมร์มูนด้วยธาตุแห่งความปรองดองของเธอ ไม่นานนักช่วงเวลาแห่งงานฉลองตะวันขึ้นผันกำลังจะจัดขึ้น เธอกับสไปค์จึงเข้าดูงานคิดว่าอย่างน้อยก็จะได้พบองค์หญิงเซเลสเทียอีกครั้ง แต่ทว่าอาชาที่ปรากฏตัวมานั้นคือไนท์แมร์มูนที่หวนกลับมาดั่งคำทำนายด้วยความต้องการเปลี่ยนเอเควสเทรียเป็นสถานที่แห่งราตรีนิรันด์ ทไวไลท์ตื่นตระหนกรีบกลับไปหาข้อมูลที่ห้องสมุดเรื่องธาตุที่ใช้ต่อกรไนท์แมร์มูน โดยมีโพนี่ห้าตัวที่ทำความรู้จักก่อนหน้าตามมาด้วยเพราะสังเกตว่าเหมือนเธอรู้อะไรบางอย่าง ซึ่งทไวไลท์ก็ตกใจแต่ก็ยอมอธิบายเรื่องราวทั้งหมดพร้อมบอกว่าธาตุแห่งความปรองดองที่ว่านั้นอยู่ในปราสาทสองพี่น้องยังป่าเอฟเวอร์ฟรี โดยโพนี่ทั้งห้านั้นจะขอตามไปด้วยร่วมกับทไวไลท์และสไปค์เพื่อร่วมปกป้องบ้านเมืองด้วยกัน

การตะลุยผ่านป่าเอฟเวอร์ฟรีของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดเสียวและอันตราย อีกทั้งยังรวมเข้ากับกลหลอกของไนท์แมร์มูนที่คอยเผ้ามองพวกเขาอยู่ แต่ละอุปสรรคล้วนเป็นบททดสอบของพวกเขาแต่ละตัว ซึ่งท้ายที่สุดก็ผ่านทั้งหมดมาได้ พวกเขาก้าวเข้าไปในซากปราสาท พบกับมณีไม่กี่ก้อนโดยเชื่อว่าเป็นตัวธาตุในช่วงโบราณ แต่แล้วไนท์แมร์มูนก็ปรากฏกายขึ้น ทำลายมณีพวกนั้นจนเป็นเศษซาก

ทไวไลท์ตระหนักได้ว่าอุปสรรคที่เธอกับเหล่าโพนี่ผ่านมาเป็นบททดสอบตัวแทนของธาตุ ทำให้เธอประกาศกร้าวว่าจิตวิญญาณของธาตุแห่งความปรองดองนั้นอยู่ในตัวเธอ... และเพื่อนของเธอ ในที่สุดทไวไลท์ สปาร์คเคิลก็ยอมรับให้มิตรภาพเข้าสู่ใจของเธอ...

หลังจากคำประกาศของเธอที่แสดงถึงมิตรภาพอย่างแท้จริง ทำให้เศษมณีรวมตัวกันเป็นสร้อยคอแขวนใส่โพนี่แต่ละตัวเป็นตัวแทนของธาตุ ทไวไลท์กลายเป็นตัวแทนของธาตุมนตรา ร่วมกันสร้างลำแสงรุ้งกำจัดไนท์แมร์มูน พลังแห่งความมืดหายไปเหลือเพียงแต่องค์หญิงลูน่าในสถาพอ่อนแอ องค์หญิงเซเลสเทียปรากฏกายและชื่นชมในทไวไลท์และเพื่อนใหม่ของเธอ พระองค์ได้องค์น้องกลับมาอีกครั้งหลังจากพลัดพรากไปราวพันปี ทไวไลท์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของมิตรภาพและตัดสินใจที่จะอยู่โพนี่วิลล์กับเพื่อนใหม่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมัน โดยได้มอบหมายให้ส่งรายงานมิตรภาพให้องค์หญิงเซเลสเทียเมื่อได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆเกี่ยวกับมิตรภาพ... ส่วนบ้าน... เซเลสเทียมอบห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กของเมืองเป็นที่อยู่อาศัยของทไวไลท์ในโพนี่วิลล์ให้ อีกทั้งยังแจกบัตรเข้าร่วมงานแกรนด์กาล็อปปิงกาล่าที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ให้เธอกับเพื่อนๆอีกด้วยเป็นคำขอบคุณ... แม้จะเผลอแจกแค่สามใบในตอนแรก จนเกิดการแก่งแย่งก็ตาม... แต่อย่างน้อยทไวไลท์ก็ได้บทเรียนมิตรภาพเรื่องที่สองในโพนี่วิลล์!

  • ช่วงเวลาในโพนี่ิวิลล์

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลดำเนินบทใหม่ของชีวิตไปได้ด้วยดี ทำความเข้าใจเพื่อนใหม่ทีละตัวและบันทึกบทเรียนมิตรภาพทุกๆครั้งที่ได้มา ชีวิตของเธอในโพนี่วิลล์เต็มไปด้วยสีสันและมิตรภาพ ผจญภัยไปกับเพื่อนใหม่กับสไปค์ เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆไปพร้อมกัน ตลอดช่วงเวลานี้ของเธอได้แก่...

เห็นความอุตสาหะของเพื่อนอย่างแอปเปิ้ลแจ็คพร้อมทั้งเข้าไปช่วยร่วมกับเพื่อนที่เหลือ, เห็นเพื่อนทั้งสองอย่างเรนโบว์แดชกับพิ้งค์กี้พายเริ่มสนิทกัน, ช่วยโพนี่วิลล์จากการโดนหมีดาวคุกคามแต่ทว่า...เธอสร้างความอับอายแก่นักมายากลสัญจรทริกซี่ที่โอ้อวดว่าสามารถกำจัดหมีดาวได้แต่ทำไม่ได้โดยไม่ตั้งใจ เธอเผลอสร้างศัตรูโดยบังเอิญ..., เห็นถึงความกล้าหาญของฟลัตเทอร์ชายในการเผชิญหน้ามังกร, เห็นแอปเปิลแจ็คกับแรริตี้เริ่มเข้ากันในปาร์ตี้ชุดนอน, เธอกับเพื่อนทำความรู้จักกับม้าลายนักปรุงยาซีโกร่า, เข้างานวิ่งสะเทือนใบไม้และเห็นเพื่อนอย่างแอปเปิ้ลแจ็คกับเรนโบว์แดชเรียนรู้บทเรียนมิตรภาพ, เห็นความน่าทึ่งในตัวพิ้งค์กี้พายที่สามารถไล่ฝูงพาราสไปรท์ออกจากเมืองได้แม้จะสบประมาทเธอในตอนแรก, จัดระเบียบงานเก็บหวาดล้างหน้าหนาวของเมืองให้มีประสิทธิภาพขึ้น, เห็นมิตรภาพของเหล่าเด็กบั้นท้ายสะอาดที่ร่วมตั้งทีมด้วยกันในนามว่า"คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์", เรียนรู้กับเพื่อนว่าไม่ควรเรื่องมากจนเกินไปในความเอื้อเฟื้อของแรริตี้ จนได้ชุดงานกาล่าอันงดงามที่จะได้ใส่ในเร็ววัน, สนิทสนมกับพิ้งค์กี้พายมากขึ้นจากความสนใจในพฤติกรรมประหลาดของเธอ, เห็นเรนโบว์แดชสร้างโซนิกเรนบูม, เห็นความเริ่มสนิทกันของฟลัตเทอร์ชายกับคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์, เห็นความทะเยอทะยานในการตามหาคิ้วตี้มาร์คของคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์, เห็นความฉลาดของแรริตี้ในการต่อกรกับหมาไดม็อนด็อก, เห็นในมิตรภาพความเข้าใจของฟลัตเทอร์ชายกับแรริตี้, ไปเมืองแอปเปิลลูซ่ากับเพื่อนตามแอปเปิลแจ็คและเห็นการคืนดีระหว่างกระทิงพื้นเมืองกับเหล่าโพนี่, เห็นนกฟินิกส์ชื่อฟิโลมินาสัตว์เลี้ยงขององค์หญิงเซเลสเทีย, ได้รู้ในท้ายที่สุดว่าระเบิดสายรุ้งในวัยเด็กเป็นฝีมือของเรนโบว์แดชในตอนนั้น ทำให้เธอเคลิ้มพรรณนาว่ามิตรภาพแท้มาก่อนกาล, ร่วมฉลองวันเกิดพิ้งค์กี้พายกับจระเข้กัมมี่สัตว์เลี้ยงของเธอ, และสุดท้าย...เข้าร่วมงานแกรนด์กาล็อปปิงกาล่ากับเพื่อนที่ใฝ่ฝันมานาน โดยเธอตั้งใจจะไปพบกับองค์หญิงอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเธอกับทุกคนผิดหวังในงานเหมือนกัน จนมาตัดพ้อร่วมกันในร้านโดนัท สร้างความเฮฮาแก่เธอกับเพื่อนมากกว่างานเสียอีก! มิตรภาพนี่แสนวิเศษจริงๆ เธออาจจะคิดก็ได้

ซีซั่นสอง

  • การหวนคืนแห่งความปรองดอง

เวลาผ่านไปและทุกอย่างเป็นปกติ จนกระทั่งมันไม่อีกครั้ง... เมื่ออยู่ดีๆตัวตนแห่งความโกลาหลนามว่าดิสคอร์ดฟื้นมาจากการจองจำเป็นรูปปั้นแล้วเริ่มก่อความหายะนะวุ่นวายรอบโพนี่วิลล์ คราวนี้องค์หญิงทั้งสองเรียกเธอกับเพื่อนๆเพื่อกอบกู้เอเควสเทรียอีกครั้ง โดยอธิบายว่าธาตุแห่งความปรองดองที่เธอกับเพื่อนถืออยู่ พระองค์ทั้งสองเคยใช้กำจัดดิสคอร์ดเมื่อนานมาแล้ว แต่ด้วยการที่ลูน่ากลายเป็นไนท์แมร์มูนทำให้สายสัมพันธ์ของธาตุอ่อนแอลงจนดิสคอร์ดค่อยๆกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง และตอนนี้มีแค่เธอกับเพื่อน ผู้ถือธาตุปัจจุบันที่สามารถเอาชนะดิสคอร์ดได้ เธอกับเพื่อนรับทราบและเปิดห้องเก็บธาตุแต่พบว่าธาตุหายไป ดิสคอร์ดปรากฏตัวขึ้นและหลอกล่อให้เธอกับเพื่อนเล่นเกมทดสอบมิตรภาพเพื่อคืนธาตุ เธอกับเพื่อนต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือกแต่นั่นเป็นกับดัก ดิสคอร์ดสร้างความแตกหักเพื่อนๆแต่ละตัวยกเว้นทไวไลท์ เธอสิ้นหวังและเห็นว่ามิตรภาพที่อุตส่าห์สร้างมาพังทลายโดยดิสคอร์ด แต่เมื่อเธอลองอ่านรายงานมิตรภาพที่เคยส่งไปหลายฉบับทำให้เธอนึกถึงมิตรภาพดีๆกับเพื่อน เธอกลับมาฮึกเหิม และค้นพบว่าแท้จริงแล้วธาตุเก็บไว้ที่ห้องสมุดของเธอเอง ทไวไลท์กลับไปฟื้นฟูมิตรภาพเพื่อนๆทีละตัวจนสำเร็จ และร่วมกันใช้พลังแห่งมิตรภาพจากธาตุแห่งความปรองดองคุมขังดิสคอร์ดเป็นรูปปั้นอีกครั้งในท้ายที่สุด แม้จะเจอเจ้าแห่งความวุ่นวายที่ปั่นหัวเธอ แต่ด้วยบทเรียนที่ได้มาทำให้ทไวไลท์สามารถผ่านบททดสอบมิตรภาพครั้งนี้ไปได้ เธอกับเพื่อนได้รับคำชื่นชมจากองค์หญิงและเหล่าโพนี่

  • ช่วงเวลาในโพนี่วิลล์กับเพื่อน

ชีวิตกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ทไวไลท์ดำเนินชีวิตในโพนี่วิลล์ร่วมกับเพื่อนต่อ และดูเหมือนว่ามีความผูกพันมากขึ้น แต่แล้ว... มันปกติมากเกินไป ทไวไลท์ไม่มีรายงานมิตรภาพส่งให้องค์หญิงตามที่กำหนด เธอตื่นตระหนกและกลัวว่าองค์หญิงจะลงโทษเธอ เธอจึงสร้างความปั่นป่วนขึ้นมาโดยยอมเสียตุ๊กตาในวัยเด็กของเธอย่างสมาร์ทตี้แพ้นท์ สร้างเวทย์มนตร์หว่านเสน่ห์ใส่มันจนเผลอทำให้เหล่าโพนี่ต่างรุมตุ๊กตาของเธอ สไปค์เป็นห่วงเธออย่างมากเลยเรียกองค์หญิงเซเลสเทียให้มาคุยกับเธอ จนท้ายที่สุดทไวไลท์ก็ใจเย็นลง องค์หญิงเซเลสเทียเห็นว่านอกจากทไวไลท์แล้ว เพื่อนของเธอเองก็สมควรได้รับการเรียนรู้บทเรียนมิตรภาพเช่นกัน ฉะนั้นพระองค์จึงมอบหมายให้เพื่อนของเธอสามารถส่งบทเรียนมิตรภาพได้ แต่เฉพาะเมื่อใดก็ตามที่พบเท่านั้น องค์หญิงจากไปฝากบทเรียนแก่ทไวไลท์และเพื่อนๆรวมถึงสไปค์ที่ทไวไลท์ก็เห็นในความเป็นห่วงของเขา...

ทไวไลท์ดำเนินชีวิตต่อไปในโพนี่วิลล์ร่วมกับเพื่อนกับสไปค์ เจอบทเรียนบ้าง เจอเรื่องแปลกประหลาดบ้าง ซึ่งได้แก่... ทำให้องค์หญิงลูน่าอดีตไนท์แมร์มูนเป็นที่ยอมรับแก่ราษฏรในคืนแห่งฝันร้าย, ร่วมกันสั่งสอนเรนโบว์แดชให้ถ่อมตัวลงบ้างกับเพื่อนที่เหลือโดยการปลอมเป็น"อาชาผู้แสนดี" ที่ถึงแม้ปฏิบัติการนี้อาจจะ...เหลวไหลก็ตาม เพราะเธอก็พูดชมตัวเองว่า"อาชาแสนดีใช้เวทย์มนตร์เก่งจัง" , ฉลองวันเกิดตัวเองในงานเลี้ยงที่แคนเทอล็อต และดูเหมือนว่าเธอเริ่มติดนิสัยจากเพื่อนแล้ว, เห็นสไปค์ที่อยู่ดีๆกลายร่างเป็นมังกรยักษ์, แสดงละครเวทีประวัติศาสตร์การสถาปนาเอเควสเทรียโดยเล่นเป็นโคลเวอร์ผู้ชาญฉลาด, ให้กำลังใจแอปเปิลแจ็คร่วมกับเพื่อนว่าไม่เป็นไรที่แม้จะไม่ได้ที่หนึ่งในการแข่งโรดิโอ, ป้ายยานิยายแดริ่งดูให้เรนโบว์แดชโดยไม่ตั้งใจแล้วสำเร็จเกินคาด, ย้อนเวลาเพื่อมาเตือนตัวเองในอดีตว่าไม่มีอะไรต้องน่ากังวล แต่พูดไม่จบจนเธอในอดีตต้องมาย้อนเตือนเธอในอดีตอีกทีแต่ก็พูดไม่จบ และก็วนไปเรื่อยๆ, เธอกับแรริตี้ตามสไปค์ไปสำรวจแดนมังกร, สืบคดีการแอบกินเค้กที่ไว้ส่งประกวดบนรถไฟ, และเธอกับเพื่อนช่วยแรริตี้จากเหล่าพลังงานแห่งฝันร้ายที่มาทวงคืนคำสัญญาของไนท์แมร์มูน พร้อมทำให้เหล่าพลังงานกลายเป็นพลังงานแห่งฝันดี

  • วิวาห์แคนเทอล็อท

วันหนึ่งเธอได้รับจดหมายเชิญชวน ทำให้ทราบว่าไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ พี่ชายแสนดีของเธอกำลังจะแต่งงานกับเจ้าหญิงเคเดนซ์พี่เลี้ยงของเธอในวัยเด็ก ช่วงเวลาดีๆกับพี่ชายเล่นย้อนใส่หัวของทไวไลท์มาไม่หยุด เธอคิดถึงพี่ชายผู้แสนดี ครั้งล่าสุดที่เจอกันคือตอนจากลาไปโพนี่วิลล์ เธออยากกลับไปพบเขาอีกครั้ง ทไวไลท์กับเพื่อนที่ได้รับการเชิญชวนด้วยเดินทางไปแคนเทอล็อต และทไวไลท์ก็ได้พบกับพี่ชายอีกครั้ง ทั้งสองยังคงสนิทสนมกันอย่างเช่นเคย แต่ทว่าเจ้าหญิงเคเดนซ์พี่เลี้ยงในวัยเด็กนั้นเปลี่ยนไป เฉี่อยชากับทไวไลท์ ร้องเพลงแสงแดดก็ไม่มี จนกระทั่งได้พบความจริงว่าเคเดนซ์ตัวนี้เป็นราชินีคริสซาลิส ราชินีแห่งเหล่าเชนจ์ลิ่ง ที่ปลอมตัวมาเพื่อดูดกลืนความรักจากการแต่งงานครั้งนี้ ทไวไลท์สามารถช่วยเคเดนซ์ตัวจริงที่ถูกจับตัวไว้ได้และกอบกู้เมืองแคนเทอล็อตร่วมกับเพื่อนๆจากการโจมตีของเหล่าเชนจ์ลิ่ง ท้ายที่สุดด้วยพลังแห่งความรักจากเคเดนซ์กับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ทำให้คริสซาลิสกับเหล่าเชนจ์ลิ่งกระจายลอยออกจากแคนเทอล็อต ทไวไลท์กับเพื่อนกอบกู้เอเควสเทรียรอบที่ 3 สำเร็จ และคราวนี้เธอเป็นสักขีพยานการแต่งงานของพี่ชายผู้แสนดีกับพี่เลี้ยงในวัยเด็กของเธอ

และต่อมา... ราชินีคริสซาลิสก็กลับมาโดยการจับเด็กๆคิ้วตี้มาร์คเป็นตัวประกัน และทำให้ทไวไลท์กับสไปค์กับเพื่อนต้องร่วมออกเดินทางไปยังฐานทัพใหม่ของเหล่าเชนจ์ลิ่งทางตอนใต้ของเอเควสเทรีย แม้จะลำบาก โดนล่อลวง และความเล่ห์แหลมของคริสซาลิส ในที่สุดเธอกับเพื่อนๆก็สามารถเอาขนะเหล่าเชนจ์ลิ่งได้ และเปลี่ยนจากฐานทัพใหม่ของพวกมันเป็นคุกแทน

ซีซั่นสาม

  • อาณาจักรคริสตัล

ณ แถบภูมิภาคทางเหนือของเอเควสเทรีย อาณาจักรคริสตัลปรากฏกลับมาหลังจากหายวับไปเมื่อพันปีที่แล้วรวมถึงราชาซอมบร้าผู้ต้องการพิชิตด้วย... ซึ่งนั่นหมายถึงทไวไลท์กับเพื่อนถูกส่งเรียกไปกอบกู้เอเควสเทรียอีกครั้ง อีกทั้งพี่ชายกับ(อดีต)พี่เลี้ยงของทไวไลท์ก็ถูกส่งให้ไปช่วยหยุดการรุกรานของซอมบร้า และครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นบททดสอบจากองค์หญิงเซเลสเทียเสียด้วย พลังของซอมบร้าทรงพลังจนทำให้พี่ชายกับพี่เลี้ยงเหนื่อยล้า ทไวไลท์กับเพื่อนพบหัวใจคริสตัลในใต้ดินซึ่งมันสามารถกำจัดซอมบร้าได้ สไปค์รับหน้าที่เอาและสามารถวางบนแท่นได้ ทำให้อาณาจักรกลับมามีพลังคริสตัลอีกครั้งจนซอมบร้าถูกกำจัด สไปค์ได้รับเชิดชูเกียรติ ส่วนพี่ชายกับพี่เลี้ยงของทไวไลท์ก็กลายเป็นผู้ครองราชย์แห่งอาณาจักรคริสตัล ทไวไลท์กับเพื่อนผ่านบททดสอบมิตรภาพอีกครั้ง

  • ช่วงเวลาต่างๆอีกเช่นเคย

ชีวิตของทไลไลท์ดำเนินต่อมาอย่างปกติเหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเวลาสนุกกับเพื่อนๆหรือการเรียนรู้มิตรภาพ และดูเหมือนว่าทไวไลท์มีความเข้าใจในมิตรภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนสามารถมอบมันให้แก่โพนี่ตัวอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนได้ ชีวิตในบทนี้ของเธอได้แก่...

การได้รับมอบหมายจากองค์หญิงเซเลสเทียให้เป็นผู้ช่วยโพนี่อดีตนักจัดเก็บเอกสารราชวงศ์ชื่อเจดซิงเกอร์ที่กำลังกีบหัก ซึ่งเจดก็เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ทไวไลท์ชื่นชอบทำให้เธอสามารถสานความสัมพันธ์เจดกับองค์หญิงได้อีกครั้ง, พบกับแสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทริกซี่ ศัตรูที่เธอสร้างโดยบังเอิญที่กลับมาโพนี่วิลล์พร้อมอำนาจเครื่องรางอลิคอร์นเพื่อมาแก้แค้นเธอโดยเฉพาะ ทริกซี่แสดงอำนาจถึงเครื่องรางต่อเธอและโพนี่ตัวอื่นอีกทั้งยังต้องการยึดเมืองอีก แต่ท้ายที่สุดทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นสามารถนำทริกซี่ออกจากการครอบงำของเครื่องรางได้จนกลับมาเป็นปกติพร้อมสำนึกผิด ทไวไลท์ให้อภัยทริกซี่ก่อนนักมายากลสัญจรตัวนี้จะจากไป อย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่ไว้ใจทริกซี่มากนักเห็นจากความอาคาตของทริกซี่ในตอนแรก, ร่วมยินดีเรนโบว์แดชที่ได้เข้าทีมวอนเดอร์โบลท์ตามฝัน, รับรู้ถึงถึงความเมตตาของฟลัตเทอร์ชายที่สามารถทำให้ดิสคอร์ด จ้าวแห่งความวุ่นวายที่สร้างความปั่นป่วนเมื่อคราวก่อนกลับตัวกลับใจได้ตามความมอบหมายขององค์หญิงที่เห็นว่าดิสคอร์ดสามารถกลับตัวได้, เข้าชมงานเอเควสเทรียเกมที่อาณาจักรคริสตัลกับเพื่อน

  • การรักษาปริศนาทางเวทย์มนตร์

ทไวไลท์ทำการศึกษาเวทย์มตร์ในยามราตรีอย่างเช่นเคย ในคืนนี้เธอดูตำราเวทย์มนตร์ชิ้นโบว์แดงที่ยังไม่เสร็จของสตาเสวิร์ลหนวดงามที่องค์หญิงเซเลสเทียมอบหมายให้ต่อยอดคาถาหน้าสุดท้ายนั้นให้เสร็จ ที่ต้องเป็นเธอเพราะองค์หญิงเชื่อว่ามีแค่ทไวไลท์ที่ทำได้ ทไวไลท์อ่านคาถาพวกนั้นก่อนที่จะเข้านอนพักเตรียมเข้าสู่พรุ่งนี้ที่สดใส แต่...คงไม่ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อวันต่อมาทั้งเมืองโพนี่วิลล์ตกอยู่ในความวุ่นวายจากการที่เพื่อนของทไวไลท์ทั้งห้าที่อยู่ๆ คิ้วตี้มาร์คของพวกเขาสลับกันทำให้ต้องทำตามจุดประสงค์ของคิ้วตี้มาร์คนั้นอย่างไม่ได้เรื่อง ทไวไลท์ตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่เธอไปอ่านคาถาเวทย์มนตร์เมื่อคืน แต่เธอไม่สามารถหาวิธีแก้ไขอะไรได้เลย เธอระทมทุกข์มองภาพเธอกับเหล่าเพื่อน สไปค์ก็คอยให้กำลังใจเธอจนทำให้ทไวไลท์คิดออก เธอต้องใข้ตัวแทนมนตราของเธอเองในการเตือนความจำเพื่อนๆถึงจุดประสงค์ของพวกเขาเอง ท้ายที่สุดทไวไลท์ก็ทำสำเร็จในการฟื้นฟูเพื่อนๆของเธออีกทั้งเป็นการสำเร็จคาถาของสตาเสวิร์ลอีกด้วย จากนั้นทไวไลท์ถูกองค์หญิงพาไปยังมิติที่มีฉากหลังเป็นเนบิวลาอันสวยงาม แสดงความยินดีต่อลูกศิษย์ที่สามารถเสร็จสิ้นคาถาของสตาเสวิร์ลได้ เนื่องจากคาถานั้นต้องใช้ความรู้ในมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่สตาเสวิร์ลยังมีไม่พอ เซเลสเทียรู้สึกประทับใจและยินดีที่ได้ทไวไลท์มาเป็นลูกศิษย์ของพระองค์ ทไวไลท์เรียนรู้มาเรื่อยๆจนในที่สุดก็สำเร็จการเป็นลูกศิษย์ขององค์หญิงและพร้อมที่จะเติมเต็มโชคชะตาของตัวเอง องค์หญิงเซเลสเทียมอบปีกเพกาซัสแก่ทไวไลท์จนกลายร่างเป็นอลิคอร์นดั่งพระองค์ ันั่นคือประกาศนียบัตรของทไวไลท์ เพื่อนๆต่างมุงดูความมหัศจรรย์ตรงหน้า ทไวไลท์ซาบซึ้งพวกเขาที่ทำให้สามารถมาถึงจุดนี้ได้อีกทั้งยังสอนบทเรียนชีวิตให้ ถ้าไม่มีพวกเขาเธอคงไม่มีชีวิตที่ดีแบบนี้ อีกทั้งทำให้เธอได้กลายเป็น...เจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอย่างเป็นทางการพร้อมทั้งมีการจัดพิธีราชาพิเษกยังแคนเทอล็อต ทุกๆคนรวมถึงพี่ชายที่แสนดีของเธอต่างแสดงความยินดีและซาบซึ้ง

  • ก๊วนสาวแห่งเอเควสเทรีย

หลังจากการได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ทไวไลท์ต้องเข้าร่วมการประชุมองค์หญิงครั้งแรกของเธอ ณ อาณาจักรคริสตัลโดยมีเพื่อนๆตามมาด้วย แต่ทว่าในคืนนั้นที่เธอกำลังพักผ่อนก็ได้มียูนิคอร์นสีส้มมาขโมยมงกุฏของเธอและกระเข้ากระจกไป เธอทราบในวันรุ่งขึ้นว่านั่นคือซันเซ็ตชิมเมอร์ อดีตลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทียที่หันไปสู่ความอยากมีอำนาจตามคำกล่าวของพระองค์ และการขโมยมงกุฏไปคือหนึ่งในแผนการการครอบครองเวทย์มนตร์ของเธอ ทไวไลท์ต้องข้ามกระจกตามไปโดยมีสไปค์ขอตามมาด้วยจนได้เข้ามาสู่...โลกมนุษย์ โลกแห่งนี้มีเหล่าเพื่อนของเธอและเหล่าโพนี่ที่คุ้นหน้าคุ้นตาที่อยู่ในวัยมัธยม เพียงแค่พวกเขาไม่ใช่อาชาแต่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ และอีกทั้งที่นี่วิทยาการก้าวล้ำไปกว่าเอเควสเทรียหลายเท่าแต่ไม่มีเวทย์มนตร์ ทไวไลท์กลายเป็นมนุษย์วัยมัธยมส่วนสไปค์กลายเป็นหมา(เนื่องจากที่นี่มังกรเป็นแค่สัตว์ในเทพนิยาย)เมื่อเข้ามา แม้จะปรับตัวได้ยากแต่ทไวไลท์กับสไปค์ก็สามารถเรียนรู้วิถีชีวิตมนุษย์ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทไวไลท์พบกับเพื่อนของเธอในร่างมนุษย์กับซันเซ็ต ชิมเมอร์ผู้ซึ่งเป็นนักเลงในโรงเรียน เธอพบว่าเพื่อนๆในโลกนี้ไม่ลงรอยกันทั้งๆที่เมื่อก่อนก็สนิทกันไม่ต่างจากที่เอเควสเทรียพร้อมกับสาเหตุที่เกิดจากซันเซ็ตค่อยๆใส่สีตีแต่งพวกเขาแต่ละคนจนเกลียดหน้ากัน ด้วยบทเรียนแห่งมิตรภาพที่ได้มาหลายครั้งพร้อมกับประกาศนียบัตรที่พึ่งได้มา ทไวไลท์สามารถสร้างความปรองดองแก่เพื่อนๆของเธอของโลกแห่งนี้จนพวกเขากลับมาดีกันได้อีกครั้ง ก่อนที่จะร่วมกันหยุดแผนการหายนะของซันเซ็ต ชิมเมอร์ในงานพร็อมได้สำเร็จ ซันเซ็ตตระหนักในความผิดของตัวเองและคืนมงกุฏแก่ทไวไลท์ ซันเซ็ตปฏิเสธที่จะกลับเอเควสเทรีย เธอตัดสินใจจะอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไปร่วมกับเพื่อนทไวไลท์ของโลกนี้เพราะต้องการเรียนรู้ในเรื่องมิตรภาพเช่นเดียวกับที่ทไวไลท์เคยทำ ทไวไลท์เห็นในความสำนึกผิดของซันเซ็ตจึงยอมรับคำขอโทษนี้และผูกมิตรกับเธอกลายเป็นเพื่อน ก่อนข้ามกระจกกลับเอเควสเทรียกับสไปค์พร้อมความตื้นตั้นใจ เมื่อข้ามกลับถึงเอเควสเทรีย ทไวไลท์บอกเล่าเรื่องราวของซันเซ็ต ชิมเมอร์ที่สำนึกผิดแก่องค์หญิงเซเลสเทียให้ทราบว่าอดีตลูกศิษย์ตัวนี้ของพระองค์กลับสู่หนทางที่ดีแล้ว นอกจากนี้การผจญภัยในโลกมนุษย์ทำให้เธอมีคนที่แอบชอบด้วย ชื่อของเขาคือ "แฟลชเซ็นทรี" ซึ่งเขาก็มีตัวตนในโลกโพนี่เช่นกันในฐานะองครักษ์แถมยังได้พบกันอีก แต่นั่นก็เป็นแค่ความแอบชอบของทไวไลท์เท่านั้นไม่ได้หลงรักแบบโรแมนติก

ซีซั่นสี่

  • เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิล

การเป็นอลิคอร์นก็ไม่ได้สบายนัก ทไวไลท์ต้องฝึกบินเพื่อให้คุ้นชินกับปีกของตัวเองโดยมีเพื่อนๆเป็นกำลังใจ แต่ไม่นานนักงานก็เข้าอีกครั้งเมื่อองค์หญิงสองพี่น้องหายตัวไปอีกทั้งยังมีเถาวัลย์ประหลาดจากป่าเอฟเวอร์ฟรีรุกรานเมือง ทไวไลท์กับเพื่อนพบสาเหตุว่าเกิดจากดิสคอร์ดเมื่อพันปีที่แล้ว เขาได้หว่านเมล็ดพลันเดอร์ซีดก่อนจะโดนจองจำกลายเป็นรูปปั้นเพื่อให้ไปหยุดการทำงานของ...พฤกษาแห่งความปรองดองที่อยู่ใกล้อดีตปราสาทของสองพี่น้องอลิคอร์น ทไวไลท์กับเพื่อนต้องเดินทางผ่านป่าเอฟเวอร์อีกครั้งเพื่อไปยังพฤกษาแห่งความปรองดองพร้อมธาตุแห่งความปรองดองเนื่องจากพบมาว่าธาตุมาจากพฤกษา เมื่อเธอกับเพื่อนมาถึงก็พบกับตัวพฤกษาแล้วคืนธาตุแก่มัน พฤกษาฟื้นฟูพลัง ทำลายเถาวัลย์จนสิ้นซากและองค์หญิงทั้งสองเป็นอิสระจากมัน อีกทั้งยังงอกดอกไม้กลายเป็นหีบแห่งความปรอดองที่มีรูกุญแจหกดอกเป็นปริศนาไว้ ทไวไลท์กับเพื่อนผ่านบททดสอบมิตรภาพมาได้ดั่งเช่นเคยทั้งนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากดิสคอร์ดเองกับซีโกร่าด้วย และองค์หญิงทั้งสองก็กลับไปจัดงานฉลองตะวันขึ้นผันต่อ

  • บทใหม่ของการเป็นอลิคอร์น

ชีวิตของทไวไลท์ก็ดำเนินไปอย่างเช่นเคย แต่คราวนี้ในฐานะเจ้าหญิงมิตรภาพกับอลิคอร์น แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เธอก็รู้จักการถ่อมตน ปรนนิบัติต่อตัวเองและโพนี่ตัวอื่นไม่ต่างจากสมัยที่เป็นโพนี่สามัญชนธรรมดา และโพนี่ตัวอื่นก็ทำแบบนี้ต่อเธอเช่นกัน ชีวิตในบทนี้ของทไวไลท์ก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับคราวก่อนมากนัก ซึ่งได้แก่...

สำรวจอดีตปราสาทสองพี่น้องกับเพื่อนและพบกับบันทึกของสองพระองค์ จึงลองบันทึกตาม, ออกเดินทางข้ามทะเลกับเพื่อนโดยมีกัปตันฮูฟเบียร์ดนำทาง และมอบเวทย์มนตร์หายใจใต้น้ำแก่เขาเพื่อที่จะได้อยู่กับเงือกที่หลงรัก, พบว่าแดริ่งดูมีตัวตนอยู่จริงในฐานะเจ้าของเรื่องของตัวเองพร้อมกับเพือน, โดนดูดเข้าไปอยู่ในโลกของคอมมิคพาวเวอร์โพนี่ที่สไปค์ซื้อมาจากร้านเวทย์มนตร์พร้อมกับเพื่อน และเอาชนะตัวร้ายในนั้นจนออกมาได้, ร่วมหยุดหนอนกินหนังสือในห้องสมุดที่ทำให้วายร้ายจากหนังสือต่างๆหลุดมาในโลกแห่งความจริงกับเพื่อน โดยชุกจูงให้มันทำหน้าที่ฟื้นฟูหนังสือแทน, เผลอทำให้ฟลัตเทอร์ชายมีเชื้อโพนี่ค้างคาวจากการเปลี่ยนจิตใจพวกค้างคาวไม่ให้กินแอปเปิลในไร่, เตือนสติเรนโบว์แดชในการเลือกข้างทีมในเอเควสเทรีย, โดนดิสคอร์ดที่แกล้งป่วยรบกวนขณะแคเดนซ์มาเยี่ยม แต่อย่างน้อยก็ได้ผจญภัยหรรษากับอดีตพี่เลี้ยง, เยี่ยมพี่ชายในอณาจักรคริสตัลและพบกับคริสตัลบาร์ดเชลยของซอมบร้า จึงให้มันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ในพระราชวัง, ผจญภัยข้ามมิติกับเพื่อนเพื่อต้องไปช่วยซอมบร้าผู้เมตตาในมิตินี้ที่เซเลสเทียหลงรัก แต่ท้ายที่สุดซอมบร้าในมิตินี้ก็เป็นผู้ที่จบทุกอย่างลงด้วยการเสียสละเพื่อไม่ให้มิติเกิดรอยร้าว, กลายเป็นขวัญใจเหล่าเด็กๆโดยบังเอิญจากฝีกีบคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ แต่เธอก็เตือนสติพวกเขาว่าไม่ควรทำแบบนี้, ทำความรู้จักกับม็อดพาย พี่สาวของพิ้งค์กี้พาย, โดนพวกเคลปี้สะกดจิตเช่นเดียวกับเพื่อนและชาวเมืองเพื่อทำลายเขื่อนท่วมโพนี่วิลล์ แต่ได้เหล่าสัตว์เลี้ยงมาช่วยไว้, ติวข้อสอบวอนเดอร์โบลท์ให้เรนโบว์แดชด้วยวิธีที่เรนโบว์แดชถนัด, ไปงานแลกซื้อของที่นำตกสายรุ้งกับเพื่อน, เดินทางไปยังแคนเทอร์ครีกกับเพื่อนนำโดยแอปเปิลแจ็ค และทำหน้าที่จับแก็งค์กระทิงเลวเข้าคุก, ปวดหัวกับวีรกรรมของสไปค์ที่มอบตำราเวทย์มนตร์แก่แรริตี้ที่เผลอทำให้ทั้งเมืองวุ่นวาย, ช่วยหยุดการบ้าขนมของพิ้งค์กี้พาย

  • อาณาจักรของทไวไลท์

ชีวิตอันสงบสุขต้องลาพักอีกครั้งเมื่อมีภัยคุกคามเอเควสเทรียที่รอบนี้คือลอร์ดทีเร็ค ผู้ที่เคยจะยึดครองและดูดกลืนเวทย์มนตร์ทั่วเอเควสเทรียเมื่อพันปีที่แล้ว สามารถหนีออกจากคุกทาทารัสได้ ทไวไลท์กับเพื่อนได้รับข้อมูลนี้จากองค์หญิงและเตรียมการรับมือพร้อมแจ้งประกาศให้ชาวเมืองหาที่หลบซ่อน ทีเร็คดูดกลืนเวทย์มนตร์เหล่าโพนี่ตามภูมิภาคต่างๆมาเรื่อยๆจนทำให้เขาฟื้นฟูพลังพร้อมความช่วยเหลือจากดิสคอร์ดที่โดนชักจูงโดยเขา ทีเร็คมาถึงแคนเทอล็อตและโพนี่วิลล์ เพื่อนของเธอกับองค์หญิงไม่อาจต้านทานเขาได้ เหลือเพียงแค่ทไวไลท์ ทำให้ดิสคอร์ดตระหนักและสำนึกผิดแต่ก็สายเกินไป เกิดการต่อสู้อย่างหนักระหว่างเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพกับลอร์ดทีเร็ค ห้องสมุดที่เหมือนบ้านของเธอโดนทำลายจนเหลือแต่ซาก แต่ความหวังก็ยังมีอยู่นั่นคือหีบแห่งความปรองดอง เธอกับเพื่อนต่างได้กุญแจที่ใช้ไขมันมาแล้วและทำการปลดล็อค หีบมอบพลังสายรุ้งแก่เธอกับเพื่อนทำให้เอาชนะทีเร็คได้อย่างราบคาบ จนพลังของเขาเสื่อมสลายและเตะส่งเข้าจองจำคุกทาทารัสได้อีกครั้ง เวทย์มนตร์ที่เขาขโมยมาก็กลับคืนสู่เอเควสเทรีย ส่วนหีบก็ยังสร้างปราสาทแห่งมิตรภาพซึ่งเป็นบ้านใหม่ของทไวไลท์กับสไปค์ให้ซึ่งมีความหรูหรามากขึ้น ทไวไลท์กับเพื่อนผ่านบททดสอบแห่งมิตรภาพได้เหมือนเช่นเคย แถมได้บ้านขนาดใหญ่ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องเสียห้องสมุดในความทรงจำไป...

  • เรนโบว์ร็อค

หลังจากทุกอย่างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทไวไลท์กำลังย้ายของเข้าไปในบ้านใหม่หรือปราสาทมิตรภาพกับสไปค์ซึ่งมีประตูกระจกคริสตัลเป็นหนึ่งในนั้น กระจกที่เคยนำพาเธอไปพบซันเซ็ต ชิมเมอร์ ขณะนั้นก็มีโพนี่ส่งของมาส่งหนังสือบันทึกขององค์หญิงเซเลสเทียที่สั่นและส่องสว่างในทันใด ทไวไลท์เปิดดูกับเพื่อนเและพบว่ามันคือหนังสือที่ซันเซ็ตกับองค์หญิงใช้ส่งข้อความกัน และตอนนี้ซันเซ็ตกำลังเรียกหาเธอเพื่อมาช่วยจัดการกับพวกแดซลิ่งหรืออดีตไซเรนที่กำลังจะยึดโลกมนุษย์ ทไวไลท์อยากเข้าไปช่วยแต่กระจกนั้นไม่สามารถเปิดติดได้ ด้วยคำแนะนำจากพิ้งค์กี้พายและมันส์สมองของเธอเอง ทไวไลท์เปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของกระจกใหม่โดยใช้บันทึกเป็นพลังงานเปิดประตู ทไวไลท์ก้าวสู่ต่างโลกกับสไปค์อีกครั้งเพื่อมาช่วยผองเพื่อน เมื่อข้ามมา ทไวไลท์โดนรุมกอดจากเหล่าเพื่อนๆด้วยความคิดถึง หลังจากช่วงเวลาแห่งการระลึก ทไวไลท์ร่วมวางแผนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเอาชนะสามอดีตไซเรนนี้ในวันแสดงดนตรีของโรงเรียนกับซันเซ็ตและเพื่อนที่เหลือ และในท้ายที่สุดเธอกับเพื่อนๆทั้งหมดก็สามารถเอาชนะพวกแดซลิ่งไปได้ แม้จะต้องทะเลาะกันในตอนแรกซึ่งโดนอิทธิพลจากเวทย์มนตร์ของแดซลิ่ง พร้อมรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากดีเจของโรงเรียน ไวนิ่ล แสครช ทำให้พวกมันสูญเสียพลังกลายเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา พลังมิตรภาพทำให้เธอกับเพื่อนสามารถเอาชนะได้อีกเช่นเคย ก่อนจากกัน ทไวไลท์บอกซันเซ็ตว่าเธอปรับปรุงประตูให้สามารถเปิดเมื่อใดก็ได้แล้ว และเธอหรือซันเซ็ตก็แวะมาหาได้เช่นกัน ทไวไลท์กับสไปค์กลับเอเควสเทรียพร้อมเรื่องราวเล่าต่อเพื่อนฝูงเดิมแต่ต่างจักรวาล

ซีซั่นห้า

  • แผนที่คิ้วตี้

หลังจากจัดบ้านใหม่เสร็จเรียบร้อย ทไวไลท์กับผองเพื่อนจึงเริ่มสร้างความคุ้นชินแก่มันแทนที่ห้องสมุดในอดีต แต่เมื่อนั้นเองเธอกับเพื่อนบังเอิญไปเปิดการทำงานของโต๊ะแผนที่เอเควสเทรีย แผนที่นี้มีความคล้ายโฮโลแกรมดาวเทียมที่แสดงถึงทั่วทั้งดินแดนนี้ และตอนนี้เหมือนกำลังเรียกเธอกับเพื่อนไปยังตำแหน่งหมู่บ้านแห่งหนึ่งโดยใช้คิ้วตี้มาร์คเป็นตัวแทน การเรียกร้องของแผนที่กระตุ้นทไวไลท์กับผองเพื่อนถึงความสำคัญบางอย่างซึ่งอดไม่ได้ที่ต้องไปตามดู เสมือนเป็นภารกิจมิตรภาพบางอย่าง เมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ ทไวไลท์กับเพื่อนทำความรู้จักกับ สตาไลท์ กลิมเมอร์ ผู้นำของที่นี่ที่แนะนำว่าหมู่บ้านของเธอคือสถานที่แห่งความเท่าเทียมที่โพนี่ทุกตัวจะไม่มีคิ้วตี้มาร์คสื่อถึงความพิเศษ ทไวไลท์กับเพื่อนมีลางสังหรณ์ไม่ดีกับที่นี่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาอีกทั้งยังเห็นท่าทีของผู้นำหมู่บ้านอีก และนั่นเองที่เธอกับเพื่อนต่างคิดถูก สตาไลท์ใช้โอกาสในที่ลับตาดึงคิ้วตี้มาร์คของเธอกับเพื่อนออกไปจากนั้นเก็บไว้ในโหลที่สะสมคิ้วตี้มาร์คของโพนี่ผู้โชคร้ายก่อนหน้า พลังของยูนิคอร์นพร้อมคฑาตัวนี้ช่างเหนือกว่าเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ทไวไลท์กับเพื่อนตอนนี้ต่างไม่มีคิ้วตี้มาร์ค ความสามารถหายไป อีกทั้งยังโดนการล้างสมองด้วยแนวคิดอุดมการณ์ของสตาไลท์อีก... จนกระทั่งได้พบความจริงว่าสตาไลท์เองก็มีคิ้วตี้มาร์คอยู่โดยไม่รู้ว่าที่ทำตามอุดมการณ์ไร้สาระเช่นนี้เพราะเหตุใด ในวันรุ่งขึ้นทไวไลท์กับเพื่อนสามารถเปิดโปงความจริงของผู้นำอุดมการณ์ตัวนี้ได้อีกทั้งยังสามารถนำคิ้วตี้มาร์คคืนสู่โพนี่ทุกตัวพร้อมเธอกับเพื่อนๆ ส่วนสตาไลท์นั้นหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ในที่สุดทไวไลท์กับเพื่อนก็สามารถคืนความสงบสุขแก่โพนี่ผู้โชคร้ายเหล่านี้ได้ เช่นนี้เองก็เป็นการสำเร็จภารกิจมิตรภาพที่แผนที่มอบให้มาเมื่อกลับปราสาท ทไวไลท์กับเพื่อนเชื่อว่าภารกิจมิตรภาพมีมาอีกอย่างแน่นอน

  • เจ้าหญิงแห่งมิตรภาพแห่งปราสาทมิตรภาพ

บ้านอันแสนสุขแห่งใหม่ก็เทียบไม่ได้เท่าห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กที่มีความผูกพันตั้งแต่อาศัยในโพนี่วิลล์ เพื่อนของทไวไลท์เข้าใจดีจึงเห็นพ้องต้องกันในการนำความทรงจำเหล่านั้นสานต่อในปราสาทแห่งนี้ ฉะนั้นพวกเขาจึงถอนรากถอนโคนซากที่เหลืออยู่ของห้องสมุดมาประดับเป็นโคมไฟห้อยในห้องโถงหลักของปราสาท ทไวไลท์ตื้นตันและซึ้งใจในเพื่อนที่แสนดีอย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก อย่างน้อยห้องสมุดในความทรงจำก็จะไม่มีวันถูกลืมเลือน

ทไวไลท์ สปาร์คเกิลดำเนินชีวิตต่อไปร่วมกับสไปค์กับเพื่อนของเธออย่างเช่นเคย โดยคราวนี้อาศัยอยู่ในปราสาทมิตรภาพอันมโหฬาร และมีลูกเล่นใหม่เพิ่มเข้ามานั่นคือแผนที่คิ้วตี้ที่จะมอบภารกิจมิตรภาพส่งให้เธอหรือเพื่อนไปแก้ไขปัญหาของเหล่าโพนี่เกือบทั่วเอเควสเทรีย ภารกิจเหล่านี้นอกจากเป็นการสอนมิตรภาพแก่โพนี่ตัวนั้นๆแล้ว ยังคงเป็นบทเรียนมิตรภาพชีวิตแก่ผู้ที่ถูกส่งไปด้วย ความหรรษาในชีวิตของทไวไลท์ยังคงเกิดขึ้นเช่นเคย ไม่ว่าเรื่องเล็กๆ หรือความปั่นป่วนระดับใหญ่ ได้แก่...

พบกับเหล่ากวางแห่งป่าเอฟเวอร์ฟรีพร้อมหยุดมิโนทอร์ชื่อเวล-ทู-ดูถางป่าของพวกเขาร่วมกับเพื่อน, พาเชียริ่ลลี่พบแฝดของเธอร่วมกับเพื่อน, ไปงานแกรนด์กาล็อปปิ้งกาล่าอีกครั้งร่วมกับเพื่อน แม้ตอนแรกจะดูราบรื่นกว่าครั้งที่แล้วแต่สุดท้ายดิสคอร์ดเข้ามาเกือบทำล่ม, ไล่บั๊กแบร์ที่บุกโพนี่วิลล์ร่วมกับเพื่อนทำให้พลาดชมการแต่งงานของลาคู่รัก, หยุดสงครามกลางเมืองโพนี่วิลล์ในวันครบรอบวันก่อตั้งเมืองนี้ เหตุเกิดจากการทะเลาะไร้สาระ, ฝากสไปค์เป็นต้วแทนในการประชุมเอเควสเทรีย ซึ่งไม่คิดว่าเขาจะเกือบทำพัง, เป็นหนึ่งในสักขีพยานในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเอเควสเทรียกับยักยากิสถาน, พบกับเพื่อนในวัยเด็กทั้งหมดอีกครั้งรวมถึงมูนแดนเซอร์ระหว่างอยู่แคนเทอล็อต ซึ่งมูนแดนเซอร์เองเป็นผู้ที่ชวนทไวไลท์เข้างานเลี้ยง ณ จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เมื่อรู้ว่าโดนปฏิเสธจึงหงุดหงิดในทไวไลท์ที่เหมือนหยิ่งมาโดยตลอดตั้งแต่นั้นมา สุดท้ายแล้วทไวไลท์จึงขอโทษและเข้างานเลี้ยงร่วมกับเพื่อนเก่าทั้งหมดเพื่อชดเชยในครั้งนั้น มูนแดนเซอร์เองให้อภัย ซ่อมรอยร้าวความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่า, ช่วยองค์หญิงลูน่าเอาชนะปีศาจทันทาบัส ตัวแทนความรู้สึกผิดของพระองค์สมัยเป็นไนท์แมร์มูนในฝันร่วมกับเพื่อนและชาวเมืองสำเร็จ, กำจัดพวกแอปเปิลจากเวทย์มนตร์อุกบาตที่รุกรานเมืองกับเพื่อนสำเร็จ โดยการเปลี่ยนให้ตัวเองกับเพื่อนเป็นโพนี่ค้างคาวจากเชื้อค้างคาวในตัวฟลัตเทอร์ชาย, เรียนรู้ในการบริหารงานโดยการเข้าไปในหัวของบิ๊กแม็คอินทัชเพื่อศึกษาตาม, ช่วยจัดงานวันเกิดขององค์หญิงลูน่าตามคำร้องของพระองค์กับพิ้งค์กี้พาย, เข้า"บ้านผีสิง"ที่ฟลัตเทอร์ชายจัดได้อย่างดีกับเพื่อนที่เหลือในคืนแห่งฝันร้าย, บังเอิญสร้างความหายนะแก่โพนี่วิลล์กับเพื่อนที่เหลือจากการแช่น้ำพุร้อนอำนาจมืดที่เปลี่ยนให้เธอกับเพื่อนกลับตาลปัตรกลายเป็นวายร้าย แต่สุดท้ายสไปค์ คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ และองค์หญิงลูน่าฟื้นฟูเธอกับเพื่อนสำเร็จ, เห็นว่าเพื่อนๆสนิทกับดิสคอร์ดมากขึ้น, หยุดการทะเลาะอย่างรุนแรงที่มีมานานระหว่างตระกูลฮูฟฟิลด์กับตระกูลแม็คโคลท์กับฟลัตเทอร์ชายตามภารกิจของแผนที่ิคิ้วตี้สำเร็จ

  • คิ้วตี้ทำใหม่

หลังจากทไวไลท์ สปาร์คเกิลบรรยายถึงเริ่องราวและการเดินทางแห่งมิตรภาพของเธอกับเพื่อนๆในงานประชุมแห่งหนึ่ง เธอกลับปราสาทของเธอเคียงข้างสไปค์ แต่เมื่อเปิดประตูก็พบกลับศัตรูตัวดีตัวเดิม สตาไลท์ กลิมเมอร์ที่กำลังยิ้มเย้ยพร้อมวัตถุเวทย์มนตร์บางอย่างก่อนใช้มันเข้าสู่เส้นทางเวลาเพื่อนย้อนอดีตต่อหน้าเธอกับสไปค์ ทไวไลท์กับสไปค์จึงรีบตามเข้าไปทำให้ย้อนกลับมาในอดีตตอนที่เรนโบว์แดชในวัยเด็กกำลังจะได้คิ้วตี้มาร์ค แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น สตาไลท์เข้าไปรบกวนเส้นเวลาต่อหน้าทั้งสอง ทำให้เรนโบว์แดชน้อยไม่ได้รับคิ้วตี้มาร์คอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อกาลเวลาถูกรบกวน ทไวไลท์กับสไปค์โดนส่งคืนไปในช่วงเวลาปัจจุบันที่จากมา แต่กลายเป็นว่านี่ไม่ใช่เอเควสเทรียที่พวกเขารู้จัก นี่คือเอเควสเทรียภายใต้สงครามและความหายนะ ทไวไลท์กับสไปค์ทราบได้ทันทีว่านี่คือผลที่ตามมาจากการรบกวนเส้นเวลาของสตาไลท์ การที่เรนโบว์แดชไม่สร้างโซนิคเรนบูมและกำเนิดคิ้วตี้มาร์คแก่เธอและผองเพื่อนในตอนนั้น ทำให้วีรสตรีทั้งหก(กับสไปค์)แห่งเอเควสเทรียไม่มีตัวตน ภัยคุกคามที่เคยผจญจึงสามารถเอาชนะดินแดนแห่งนี้ได้สำเร็จ โชคยังดีที่เธอกับสไปค์สามารถย้อนกลับไปในช่วงเรนโบว์แดชในวัยเด็กได้อีกครั้งจากซากแผนที่คิ้วตี้ในเส้นเวลานี้ ทไวไลท์พยายามหยุดสตาไลท์ ซึ่งท้ายที่สุดหลังจากความล้มเหลวหลายครั้งเธอก็ทำสำเร็จ สตาไลท์ที่จนมุมจึงยอมเปิดเผยสาเหตุของตัวเอง ทำให้ทไวไลท์ทราบและเริ่มเห็นอกเห็นใจสตาไลท์ ที่ทำไปทั้งหมดในตอนแรกเพราะเพื่อนในวัยเด็กของสตาไลท์ได้คิ้วตี้มาร์คและโดนแยกจากกันเพราะต้องไปเรียนต่อ สตาไลท์เลยเหงาและเกลียดคิ้วตี้มาร์คตั้งแต่นั้นมา ส่วนรอบนี้ที่ย้อนเวลาเปลี่ยนอดีตเพราะสตาไลท์เกลียดทไวไลท์กับผองเพื่อนที่มาทำลายชีวิตในอุดมคติของตัวเอง ทไวไลท์เห็นว่าสตาไลท์ตระหนักในความผิดและมีโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตของตัวเองได้ เธอจึงให้สตาไลท์ กลิมเมอร์กลายเป็นศิษย์ที่คอยเรียนรู้มิตรภาพจากเธอและเพื่อนๆที่มีประสบการณ์จากการเดินทางที่ผ่านมา ทไวไลท์กับสไปค์และสตาไลท์กลับมาปัจจุบันพร้อมแนะนำตัวสตาไลท์ที่กลับใจแก่เพื่อนๆ

ในคราวนี้ทไวไลท์มีหน้าที่เป็นครูผู้มอบความรู้และประสบการณ์ที่มีมามากมายจากการที่เคยเป็นลูกศิษย์แก่ลูกศิษย์ของเธอ สตาไลท์ กลิมเมอร์

ต่อมาไม่นานนัก ทไวไลท์พาศิษย์ของเธอไปปราสาทสองพี่น้องเพื่อจัดระเบียบหนังสือโบราณในนั้นด้วยกัน แต่สไปค์ก็บังเอิญอัญเชิญปีศาจเถาวัลย์จากหนังสือเล่มหนึ่ง แม้ความปั่นป่วนจะมาเยือนครูกับลูกศิษย์คู่นี้ แต่นี่ก็เป็นเหมือนบททดสอบแรกของศิษย์อย่างสตาไลท์ซึ่งท้ายที่สุดก็ผ่าน และถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันและกัน

  • การพบกับตัวเองและความพลั้งพลาดของเธอ

มันก็นานแล้วที่เจอหน้าเพื่อนต่างโลกอย่างซันเซ็ต ชิมเมอร์ในครั้งล่าสุด ทไวไลท์จึงเข้าไปเยี่ยมส่วนหนึ่งเพราะเห็นข้อความที่ส่งมาในสมุด เมื่อมาถึงเธอก็พบกับซันเซ็ตกับเพื่อนร่างมนุษย์ และ...ตัวเองในร่างมนุษย์? บรรยากาศเงียบขรึมในทันทีด้วยความอืดอัด เพราะนี่เป็นเหตุการณ์หลังจากทไวไลท์ของโลกนี้เกือบสร้างหายนะแก่โรงเรียนแต่สุดท้ายก็กลับตัวแล้วร่วมกลุ่มฝูงเพื่อน (Friendship Game) ทไวไลท์ทำความรู้จักกับตัวเองก่อนกลับเอเควสเทรีย เพื่อนต่างโลกของเธอคงไม่เหงาแล้วกระมั้ง...

ต่อมาทไวไลท์กับเพื่อนมาเยี่ยมราชินีคริสซาลิสยังปราสาทจองจำของนาง แต่พบว่านางดูท่าไม่ค่อยดี ทไวไลท์จึงเข้าไปดูแต่มันคือกับดัก ราชินีคริสซาลิสกับเหล่าเชนจ์ลิ่งหนีออกจากที่จองจำของพวกมันได้อีกครั้งด้วยการหลงกลของทไวไลท์ เธอทำพลาดซะแล้ว...

ซีซั่นหก

  • พิธีคริสตัล

หลังจากการได้รับศิษย์ไม่นานนักพร้อมจัดสรรที่อยู่ในปราสาทให้ ทไวไลท์ สปาร์คเกิลได้ข่าวว่าพี่ชายกับพี่เลี้ยงของเธอประสูติองค์หลานชื่อเฟลอรี่ฮาร์ท และกำลังมีการจัดพิธีคริสตัล แน่นอนเหตุการณ์สำคัญแบบนี้พลาดไม่ได้ ทไวไลท์เดินทางไปอาณาจักรคริสตัลอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนโดยพาศิษย์ของตัวเองไปด้วย ทไวไลท์กลับสู่อ้อมกอดของพี่ชายและเพลงของพี่เลี้ยงเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งสองเปิดเผยว่าลูกของพวกเขานั้นเป็นอลิคอร์นแต่กำเนิดซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในเอเควสเทรีย ทไวไลท์เองทั้งประหลาดและอัศจรรย์ใจไม่ต่างกับเพื่อน ส่วนสตาไลท์ศิษย์ของเธอก็พบกับเพื่อนในวัยเด็กที่เคยเป็นต้นเหตุความชั่วร้ายในครั้งก่อนอย่างไม่คาดคิด เขาชื่อว่าซันเบิร์สท์ เขามาศึกษาเวทย์มนตร์ที่นี่ ไม่นานนักพิธีคริสตัลก็ได้เริ่มขึ้น บุตรสาวอลิคอร์นแห่งตระกูลสปาร์คเกิลตัวใหม่อยู่เบื้องหน้าน้าทไวไลท์กับประชาราษฏรแห่งอาณาจักรคริสตัล แต่ทว่า... พลังของอลิคอร์นน้องใหม่ตัวนี้ไม่สามารถควบคุมได้จนเผลอไปทำลายหัวใจคริสตัลที่ปกป้องอาณาจักรแห่งนี้จากซอมบร้า อำนาจมืดของเขาพร้อมพายุหิมะอันโหดร้ายกำลังบุกมาอีกครั้ง ทไวไลท์ร่วมวางแผนการกับเพื่อนและศิษย์พร้อมได้ซันเบิร์สท์เข้ามาช่วย ท้ายที่สุดก็ทำสำเร็จอย่างเช่นเคย ฟื้นฟูหัวใจคริสตัลขับไล่พายุหิมะกับอำนาจมืด ซึ่งก็ไม่แปลกอย่างใด ทไวไลท์กับผองเพื่อนมีประสบการณ์ในการกู้ดินแดนหลายต่อหลายรอบ แต่ครั้งนี้ได้ศิษย์มาช่วยเป็นครั้งแรก ทำให้เห็นศักยภาพในตัวสตาไลท์นอกจากการสามารถกลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเพื่อนในวัยเด็กสำเร็จ อาณาจักรกลับมาเป็นปกติ พิธีดำเนินต่อจนเสร็จสิ้น ทไวไลท์กับเพื่อนบอกลาสองผู้ครองราชย์ตระกูลสปาร์คเคิลพร้อมสตาไลท์ที่บอกลาซันเบิร์สท์เช่นกัน

  • จากศิษย์สู่ครู

จากการกอบกู้อาณาจักรคริสตัลร่วมกัน ทไวไลท์เห็นศักยภาพในสตาไลท์มากขึ้นไม่ต่างกับตอนที่องค์หญิงเซเลสเทียเห็นศักยภาพในตัวทไวไลท์เมื่อเข้าใจถึงมิตรภาพเป็นครั้งแรก ทไวไลท์ดำเนินชีวิตต่อไปในเอเควสเทรียร่วมกับเพื่อนเช่นเคยพร้อมกับการเป็นครูไปด้วย สิ่งนี้เองเป็นการทบทวนเรื่องที่เคยเรียนมาแล้วส่งต่อให้สตาไลท์เรียนรู้ในเรื่องมิตรภาพกับบทเรียนชีวิตตาม ความหรรษาทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ยังคงวนเวียนตัวเธออย่างเช่นเคย ได้แก่...

คืนปีกเรนโบว์แดชจากยูนิคอร์นเลวสามตัวที่ใช้เวทย์มนตร์ดึงออกเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พร้อมลงโทษพวกมันโดยการไม่ให้สามารถใช้เวทย์มนตร์ของตัวเองได้ชั่วคราว, พบกับอดีตศัตรูเก่าอย่างแสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทริกซี่อีกครั้ง เธอยังคงไม่ไว้ใจเช่นเดิมโดยเฉพาะเมื่อสตาไลท์เริ่มเข้าไปสนิทกับทริกซี่ เธอเตือนสตาไลท์แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ เธอไม่ยอมให้ศิษย์ตัวเองเป็นเพื่อนกับศัตรูเก่าอย่างเด็ดขาด แต่หารู้ไม่เธอนั่นเองที่คิดผิด ทั้งศิษย์และศัตรูเก่ามีอดีตที่เหมือนกันคือเคยเป็นศัตรูของเธอและกลับตัวกลับใจแล้ว ทั้งสองสนิทและเข้ากันได้ดี ท้ายที่สุดทไวไลท์ยอมรับในมิตรภาพของทั้งสอง แม้จะเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพกับครู เธอเองก็ไม่ได้ถูกไปหมดทุกเรื่อง ต่อให้จะจบการเป็นศิษย์แล้วก็ยังต้องคอยเรียนรู้เรื่อยๆ, ร่วมฉลองวันอุ่นใจประจำปีนี้กับเพื่อนเช่นเคยพร้อมพาสตาไลท์เข้าร่วมเป็นครั้งแรกจากนิทานวันอุ่นใจ ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นรู้สึกไม่พอใจในตัวฟลิมกับแฟลมที่มาขายของวันอุ่นใจแบบวัตถุนิยมในโพนี่วิลล์ ซึ่งแอปเปิลแจ็คก็เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ปล่อยวางไปเพราะรู้สึกว่าเป็นการยัดเยียดความคิดตัวเองแก่ผู้อื่น, เตือนใจเเคเดนซ์ว่ายังมีค่าเมื่อเข้าตลาดสินค้าเจ้าหญิงแล้วไม่เจอพระองค์, ร่วมวางแผนและลงมือกับชาวเมืองแกล้งเรนโบว์แดชกลับจากการที่สร้างความวุ่นวายไปทั่ว, สั่งสอนตักเตือนสตาไลท์ที่ใช้เวทย์มนตร์ควบคุมเพื่อนของเธอให้มาทำกิจกรรมพร้อมๆกันซึ่งตรงข้ามกับจุดประสงค์ในความมอบหมายที่ให้, ร่วมหยุดแอคคอร์ดร่างตรงข้ามของดิสคอร์ดสร้างอิทธิพลควบคุมจิตใจสำเร็จกับผองเพื่อน, ไกล่เกลี่ยการทะเลาะกันของแรริตี้ พิ้งค์กี้พาย กับแอปเปิลแจ็คหลังจากไปล่องเรือแล้วล่ม, ถูกเรียกจากแผนที่คิ้วตี้ไปทำภารกิจกับกับเรนโบว์แดชในการไปช่วยสองเพกาซัสเพื่อนซี้เชื่อในตัวเองเพื่อผ่านเข้าวอนเดอร์โบลท์ ซึ่งก็ทำสำเร็จ

  • หวนคืนและกลับมาอีกครั้ง

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลลืมตาขึ้นมาดั่งการตื่นนอนในยามเช้าหลังจากการหลับใหลในยามราตรี แต่นี่ไม่ใช่ยามเช้าและที่ที่นอนอยู่ไม่ใช่เตียงแต่เป็นเมือก เธอพึ่งตระหนักได้ว่าตัวเอง เพื่อน กับเหล่าองค์หญิงโดนลักพาตัวจากเหล่าเชนจ์ลิ่ง เธอกับตัวอื่นๆได้รับความช่วยเหลือจากศิษย์ของเธอ สตาไลท์ กลิมเมอร์, อดีตศัตรูทริกซี่, ดิสคอร์ด, และเชนจ์ลิ่งตระหนักรู้นามธอแรกซ์เมื่อสักครู่ รอบๆ ตัวมีเหล่าเชนจ์ลิ่งที่ไร้พิษสงดุร้ายไร้ความกระหายดูดกลืนความรักพร้อมมีสีสันเต็มไปทั่วรังของพวกมัน ต่างจากที่ทไวไลท์กับตัวอื่นๆเคยเผชิญมา เธอเห็นสตาไลท์กำลังเจรจากับราชินีคริสซาลิสแห่งเชนจ์ลิ่งแต่มันไม่เป็นผล คริสซาลิสปฏิเสธการตระหนักรู้แห่งความรักใหม่แล้วหนีไปพร้อมความเดือดดาล อย่างไรก็ตามนี่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อแล้ว ศิษย์ของทไวไลท์สามารถช่วยชีวิตเธอกับตัวอื่นๆพร้อมทั้งดินแดนเอเควสเทรีย อีกทั้งยังสามารถทำให้เชนจ์ลิ่งกลับตัวได้ ทไวไลท์ประสบความสำเร็จในการเป็นครูของลูกศิษย์ตัวนี้ หลังจากการพูดคุยกันเล็กน้อยของตัวอื่นๆและการก่อตั้งอาณาจักรเชนจ์ลิ่งใหม่ ทไวไลท์และเหล่าผองเพื่อนเดินทางกลับปราสาทเพื่อจัดพิธีชื่นชมวีรอาชาทั้งสี่นี้

ซีซั่นเจ็ด

พิธีมอบรางวัลขื่นชมจัดอย่างเรียบง่ายในปราสาทมิตรภาพ แต่เต็มไปด้วยความน่ายินดี อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความสามารถในการเป็นครูของทไวไลท์ สปาร์คเคิล ผู้เต็มไปด้วยประสบการณ์จากบทเรียนชีวิตและการผจญภัยร่วมกับสหายมิตรที่มีมา ศิษย์ของเธอกอบกู้เอเควสเทรียร่วมกับพันธมิตรสำเร็จ และนี่คือการผ่านบททดสอบจบการเป็นศิษย์ของเธอ สตาไลท์ กลิมเมอร์สามารถไปใช้ชีวิตของตัวเองได้แต่ก็ยังสามารถอาศัยต่อในปราสาทได้เช่นกัน หลังจากพิธีจบไปทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติอย่างสงบสุข ทไวไลท์ สปาร์คเคิลดำเนินชีวิตบทนี้ต่อไปร่วมกับผองเพื่อนสหายมิตรและเพื่อนตัวอื่นๆอย่างเช่นเคย แน่นอนความปั่นป่วนและความหรรษายังคงวนรอบชีวิตทไวไลท์เช่นเดิม ได้แก่...

พบโพนี่ชื่อชาโดว์ล็อคและร่วมมือกับเพื่อนหยุดเขาในการลบเวลาในประวัติศาสตร์เนื่องจากต้องการหยุดบรรพบุรุษผู้ชั่วร้ายของเขาที่อาจจะกลับมา, ยอมเป็นพี่เลี้ยงของเฟลอรี่ฮาร์ทชั่วคราวแม้จะยุ่งทั้งวันอยู่ก็ตาม เพราะพี่ทั้งสองขอไปใช้เวลาส่วนตัว, ร่วมมือกับเพื่อนและดิสคอร์ดหยุดพิ้งค์กี้พายในการครอบครองมิติของเขาจากการที่ติดใจในความโกลาหล, ตีพิมพ์และวางจำหน่ายบันทึกมิตรภาพที่จดไว้กับเพื่อนตั้งแต่พบบันทึกสองพี่น้องอลิคอร์น ซึ่งบันทึกนี้บรรจุเรื่องราวชีวิตของเธอกับเพื่อน แต่ในตอนแรกโดนรุมล้อมจาก"แฟนคลับ"และพวกขี้สงสัย, ช่วยองค์หญิงเซเลสเทียคืนเครื่องรางปลอมตัวของพระองค์ที่โดนขโมย, เห็นสไปค์สามารถหยุดความขัดแย้งที่เกิดจากการเข้าใจผิดของพวกจามรีกับมังกร, เดินทางไปยังบึงเฮย์ซีดกับฟลัตเทอร์ชายเพื่อรักษาโรคไข้หนองน้ำของซีโกร่า โดยที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของหนึ่งในตำนานวีรอาชา เมจเมโดวบรูค ผู้ที่สามารถรักษาโรคภัยให้หายขาดได้จากคำบอกเล่าของลูกหลานของเธอ แคทเทล และที่นี่ก็มียารักษาโรคไข้หนองน้ำ ความสนใจในวีรอาชาตัวนี้เกิดขึ้นในตัวทไวไลท์กับฟลัตเทอร์ชายที่ต่อมาก็พบเรื่องราวต่างๆจนค้นพบดอกมาเจนต้าบลูมที่รักษาโรคภัยหลายอย่างได้ตามเรื่องเล่า, ไปพักผ่อนล่องเรือเหาะกับครอบครัวแต่ทว่าโดนฝูงชนแย่งเวลาของเธอ แม้จะพลาดชมดวงดาวแต่อย่างน้อยครอบครัวก็ยังเป็นสิ่งสร้างความอุ่นใจแก่เธอเช่นเคย, เผชิญหน้าและหยุดป้าโพนี่ผู้ต่อต้านน้ำตาลที่สร้างความวุ่นวายในเมือง

  • การเล่นเงา

การต่อสู้ของเสาหลักแห่งเอเควสเทรียกับโพนี่แห่งเงามืดนั้นเป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์จริงๆ ทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นๆฟังซันเบิร์สท์เล่าจากคัมภีร์ อีกทั้งพบหลักฐานวัตถุโบราณเพิ่มเติมในภายหลัง ในการขังโพนี่เงามืดผู้ชั่วร้ายนั้นเสาหลักต้องขังตัวเองพร้อมๆกับมันในลิมโบ้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หลุดออกมา พวกเขายอมเสียสละตัวเองและหนึ่งในเสาหลักคือสตาเสวิร์ลหนวดงาม นักเวทย์ผู้เป็นไอดอลของทไวไลท์ตั้งแต่ยังเด็ก ความต้องการในการปลดปล่อยพวกเขาจากลิมโบ้นิรันด์เป็นความปรารถนาของทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นๆ ดังนั้นแล้วทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นต่างแยกกันไปศึกษาเสาหลักแต่ละตัวพร้อมวิธีนำพาพวกเขากลับมา เมื่อได้สิ่งที่ต้องการและสถานที่ในการเรียกตัวพวกเขา ทไวไลท์กับโพนี่ตัวอื่นๆทำพิธีกรรมปลดปล่อยเสาหลักแห่งเอเควสเทรียออกมาซึ่งก็ทำสำเร็จ แต่เสาหลักไม่ใช่สิ่งเดียวที่ออกมา โพนี่แห่งเงามืดถูกปลดปล่อยเช่นกันและมันหนีไป หลังจากความหลาดใจของเสาหลักเมื่อเผชิญเอเควสเทรียยุคใหม่ ทั้งหมดร่วมประชุมกันในปราสาทมิตรภาพ หาข้อมูลจากตำราต่างๆ ทไวไลท์เองก็รู้สึกผิดที่กำลังจะทำให้เอเควสเทรียพินาศเพียงแค่ต้องการอยากพบไอดอลของตัวเอง เธอมีไอเดียในการใช้ธาตุแห่งความปรองดองเปลี่ยนจิตใจของโพนี่ภายในเงาและเนรเทศแค่เงาอย่างเดียวจากตำราหนึ่งที่พบ แม้สตาเสวิร์ลจะไม่เห็นด้วย แต่ท้ายที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับโพนี่แห่งเงามืด ทไวไลท์เข้าไปในก้นบึ้งของมัน พบความเศร้าหมองของสติเจียนโพนี่ภายในนั้นที่ต้องการแค่อยากดีเด่นเหมือนเสาหลักบ้างเพราะเขาเป็นผู้ที่พาเสาหลักมารวมกันช่วยเอเควสเทรีย ทไวไลท์เตือนใจและสามารถนำเขาออกมาได้ ก่อนเนรเทศเงามืดกลับลิมโบ้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือทั้งเสาหลักและโพนี่ตัวอื่น ทไวไลท์พิสูจน์ให้ไอดอลตัวเองเห็นว่าเขาก็ไม่ได้ถูกเสมอไป สตาเสวิร์ลยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองรวมทั้งเสาหลักที่เหลือ ท้ายที่สุดทไวไลท์กับผองเพื่อนนอกจากปลดปล่อยตำนานเสาหลักจากการกักขังนิรันด์แล้ว ยังสามารถเตือนใจโพนี่ผู้หลงผิดภายในเงามืดได้ ความสามารถของเธอกับผองเพื่อน เสาหลักยอมรับในสิ่งนั้น

  • มิตรภาพที่ถูกลืมเลือนของซันเซ็ต ชิมเมอร์

ความสงบสุขกลับสู่เอเควสเทรียดั่งเดิม แต่ไม่สำหรับเพื่อนต่างมิติของเธออย่างซันเซ็ต ชิมเมอร์ ทไวไลท์รับรู้ถึงความหายนะของซันเซ็ตจากข้อความที่ส่งมา เพื่อนในมิติของเธออยู่ดีๆก็ลืมเธอราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนเสียอย่างนั้น ทไวไลท์ยินดีมอบความช่วยเหลือแก่ซันเซ็ตเมื่อก้าวออกจากกระจก เธอพาซันเซ็ตมายังห้องสมุดแคนเทอล็อตเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับศิลาความทรงจำที่ถูกส่งมายังโลกมนุษย์ ซึ่งมีตำราข้อมูลที่สามารถช่วยชีวิตซันเซ็ตได้ เมื่อทราบวิธีเอาชนะหายนะนี้ ซันเซ็ตกลับโลกมนุษย์ของเธอ ทไวไลท์เองรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยและเชื่อว่าซันเซ็ตทำได้ซึ่งก็สำเร็จจริงๆ

  • การรุกรานของราชาสตอร์ม

ความรื่นรมย์ผาสุขยังคงมีเช่นเคย พร้อมกับเทศกาลมิตรภาพครั้งแรกที่กำลังจัดขึ้นในกรุงแคนเทอล็อตโดยมีเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอย่างทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นผู้กำกับดูแล เทศกาลนี้เต็มไปด้วยความครื้นเครงมากมาย ทั้งการตกแต่ง อาหาร-เครื่องดื่ม ดนตรีบรรเลง หรือแม้แต่กิจกรรมสนุกสนานอื่นๆ องค์หญิงที่เหลือก็ต่างมารับชมงานนี้ด้วย อาชาราษฏรโพนี่ทั้งหลายกำลังมีความสุข ทไวไลท์เองก็เช่นกันจนกระทั้่ง... การรุกรานจากกองทัพของราชาสตอร์มผู้ต้องการพิชิตโลก ราชาสตอร์มนำทัพทำลายความสุขของเหล่าโพนี่ ขังประชาชนจองจำองค์หญิงเป็นรูปปั้นยกเว้นทไวไลท์ที่เธอสามารถหลบหนีมาได้กับเหล่าเพื่อนสหายมิตรผ่านลำธาร ราชาสตอร์มทรงพลังยิ่งนักถึงขั้นสามารถเอาชนะองค์หญิงอลิคอร์นได้ นั่นเพราะส่วนหนึ่งเขามีโพนี่ผู้ช่วยอย่างเทมเปสท์ ชาโดว์... ลำธารพัดพาทไวไลท์กับผองเพื่อนมายังทางตอนใต้ของแผ่นดินเอเควสเทรีย พวกเขาต้องหาวิธีเอาชนะราชาพายุนั่นรวมทั้งโพนี่ที่หักหลังเผ่าตัวเอง แต่ทว่าตอนนี้ต้องหาที่หลบซ่อนชั่วคราวก่อน ทไวไลท์กับตัวที่เหลือเดินทางอย่างเหนื่อยล้าลงใต้มาเรื่อยๆ จนทำให้พบเมืองคลูดจ์ทาวน์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธ์ุที่ไม่ใช่โพนี่อย่างเธอ อีกทั้งพบกับแมวยืนสองขาชื่อแคปเปอร์ผู้ที่เต็มใจช่วยเพราะเคยโดนราชาสตอร์มโจมตีบ้านเกิดตัวเองเช่นกัน ต่อมาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเรือบินของนกแก้วนำโดยกัปตันซาเลาโน่ที่ช่วยเธอกับเพื่อนจากการตามล่าของสตอร์ม ฝั่งพวกเขาเองก็มีความบาดหมางกับสตอร์มเช่นกัน ต่อมาก็โดนโจมตีทำให้เธอกับเพื่อนร่วงไปในดินแดนใต้ทะเลนามว่าซีเควสเทรียของเหล่าซีโพนี่และอดีตฮิปโปกริฟที่ดินแดนของตัวเองโดนราชาสตอร์มยึดครอง หลังจากการทะเลาะกันระหว่างเธอกับเพื่อนในวิธีการช่วยเอเควสเทรียโดยการขโมยไข่มุกของพวกซีโพนี่แต่ล้มเหลว ทไวไลท์โดนเทมเปสท์ ชาโดว์จับตัว เทมเปสท์เล่าประวัติอันน่าสงสารที่เป็นเหตุในการต้องมารับใช้ราชาสตอร์มเพื่อคำสัญญาจากเขา เทมเปสท์พาเธอกลับแคนเทอล็อทเพื่อที่ราชาสตอร์มจะได้ใช้เวทย์มนตร์จากอลิคอร์นทั้งสี่เพิ่มความทรงพลังแก่คฑาของเขา เมื่อได้ตามต้องการ ราชาสตอร์มไม่ทำตามสัญญาของเทมเปสท์ในการซ่อมแซมเขายูนิคอร์นของเธอ แต่ทันใดนั้นผองเพื่อนของทไวไลท์ แคปเปอร์ เรือบินนกแก้ว และฮิปโปกริฟ มายังแคนเทอล็อทและโจมตีทัพของราชาสตอร์มกลับซึ่งทัพของเขาแพ้อย่างราบคาบ ที่กลับมาได้นั้นเพราะสไปค์เตือนเพื่อนของเธอรวมทั้งตัวที่เหลือก็พร้อมตามมาช่วย ในความวุ่นวายนั้น ทไวไลท์ช่วยชีวิตเทมเปสท์เอาไว้โดยกล่าวว่านี่คือสิ่งที่เพื่อนต้องทำ ส่วนราชาสตอร์มนั้นตายไปอย่างราบคาบจากคฑาเขาเอง... แคนเทอล็อทกลับมาสงบสุขอีกครั้ง องค์หญิงกับประชาชนถูกปลดปล่อย เทศกาลแห่งมิตรภาพดำเนินต่อไปด้วยความสุขเช่นเคย ราชาสตอร์มจอมพิชิตที่มอบความน่าสะพรึงกลัวแก่หลากเผ่าพันธุ์ถูกโค่นล้มไป การผจญภัยครั้งนี้ ทไวไลท์ได้เปลี่ยนจิตใจของโพนี่ผู้หลงผิดอีกคน เทมเปสท์ ชาโดว์ รวมทั้งได้ผูกมิตรกับเธอ อีกทั้งยังค้นพบร่วมกับเพื่อนอีกว่ายังมีดินแดนที่กว้างขวางและใหญ่นอกเอเควสเทรีย รวมถึงเหล่าสายพันธุ์ต่างๆที่สมควรเรียนรู้ถึงมิตรภาพ...

  • (ไม่)พักผ่อนฤดูใบไม้ผลิของซันเซ็ต

หลังจากการผจญภัยอันสุดเหวี่ยงและการค้นพบดินแดนต่างถิ่น ทไวไลท์กลับมาพักผ่อนและศึกษาหนังสือเพิ่มเติมในปราสาทมิตรภาพกับผู้ช่วยสไปค์จนกระทั่ง... ซันเซ็ตโผล่มาแต่จากหน้าประตูพร้อมเรนโบว์แดชกับตัวเธอที่ไม่มีปีกและใส่แว่น นั่นคือเธอกับเรนโบว์แดชจากโลกมนุษย์ ทไวไลท์กับสไปค์ต่างประหลาดใจ ซันเซ็ตอธิบายเรื่องราวก่อนหน้านั้นว่าระหว่างการนั่งเรือสำราญ มีเวทย์มนตร์บางส่วนของราชาสตอร์มที่พึ่งตายไปล่าสุดหลุดมายังโลกของเธอ และกำลังสร้างหายนะแก่เรือสำราญของเธอ ทไวไลท์ยินดีช่วยเหลือเช่นเคย ทำให้ซันเซ็ตกับสองมนุษย์กลับไปช่วยชีวิตผู้โดยสารเรือสำราญได้ทั้งหมด แต่จะกลับบ้านตัวเองอย่างไรในเมื่ออยู่บนเกาะร้างที่มีประตูสู่เอเควสเทรียอีกแห่ง... ทไวไลท์เปิดประตูปราสาทจากเสียงเคาะก่อนพบกับซันเซ็ตและมนุษย์ในร่างโพนี่ที่จะกลับสู่โลกตัวเองผ่านกระจกในปราสาท เธอยินดีช่วยเหลือในความอึ้ง

ซีซั่นแปด

  • งุนงงโรงเรียน

จากการผจญภัยเพื่อกอบกู้เอเควสเทรียเมื่อครั้งล่าสุด ทไวไลท์เห็นดินแดนต่างๆมากมายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะนอกจากจะมีดินแดนของพวกจามรี, มังกร, หรือกริฟฟอนแล้ว... มันยังมีมากกว่านี้อีก และมันน่าจะมีมากกว่าที่ไปเจออีก แต่พวกเขายังดูไม่เป็นหนึ่งเดียวกันแบบเหล่าโพนี่นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า... "มิตรภาพ" เพราะฉะนั้นทไวไลท์จึงตกลงกับเพื่อนพร้อมได้รับอนุมติจากองค์หญิงเซเลสเทียในการจัดตั้งโรงเรียนที่ไม่ได้มีแค่โพนี่ที่เรียนได้ แต่เผ่าพันธุ์ไหนก็เรียนได้ นี่คือโรงเรียนแห่งมิตรภาพโดยมีหลักสูตรชี้วัดสำคัญคือมิตรภาพ โดยให้ตัวเธอเองเป็นผอ.ของที่นี่ ส่วนผองเพื่อนที่เหลือก็เป็นอาจารย์มิตรภาพด้านต่างๆ และตั้งในโพนี่วิลล์ไม่ไกลจากปราสาทของเธอ ไม่นานนักโรงเรียนแห่งนี้ก็ก่อสร้างสำเร็จและพร้อมเปิดภาคเรียนเป็นครั้งแรก ผลตอบรับออกมาดี มีพวกกริฟฟอน มังกร จามรี เชนจ์ลิ่ง และฮิปโปกริฟ มาสมัครเรียนเคียงคู่เหล่าโพนี่ จนกระทั่ง... รัฐมนตรีเนกเซแห่งกระทรวงการศึกษาแห่งเอเควสเทรีย หรือ E.E.A เข้ามายุ่งเกี่ยวในความไม่พอใจ เขามองว่าพวกพันธุ์อื่นคือภัยคุกคามของโพนี่และบงการโรงเรียนแห่งนี้ด้วยอำนาจของตัวเอง อีกทั้งยังทำให้เผ่าพันธุ์อื่นไม่พอใจ อย่างไรก็ตามทไวไลท์ร่วมกับผองเพื่อนและเผ่าพันธุ์ต่างๆก็พิสูจน์ให้รัฐมนตรีเนกเซเห็นว่าโพนี่กับเผ่าพันธุ์อื่นๆสามารถเป็นมิตรสหายกันได้ ทำให้เนกเซกลับไปอย่างไม่พอใจ ท้ายที่สุดความต้องการของทไวไลท์ในการเปิดโรงเรียนสอนมิตรภาพแก่เผ่าพันธุ์ต่างๆก็ประสบความสำเร็จ และดูเหมือนว่าจะมีลูกศิษย์หกตัวที่สะดุดตาเธอกับเพื่อน...

  • ผอ.แห่งโรงเรียนมิตรภาพ

การกลายเป็นอาจารย์คงเป็นสิ่งที่ทไวไลท์ สปาร์คเคิลสนุกไปกับมันแล้วหลังจากเคยมีลูกศิษย์อย่างสตาไลท์ กลิมเมอร์ เธอต้องการสอนบทเรียนชีวิตกับมิตรภาพแก่ใครก็ตามที่สมคววรเรียนรู้มันเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันทร์แก่กันและกันจากประสบการณ์ที่เคยเดินทางและผจญภัยกับเพื่อนสหายมิตรมามากมาย แม้นี่อาจจะสร้างภาระแก่ตัวเธอกับเพื่อนมากขึ้น อย่างไรก็ดีเธอกับเพื่อนเองก็รู้สึกภูมิใจและยินดีที่มีโอกาสได้สอนประสบการณ์แก่ใครต่างๆ และดูเหมือนว่ามีหกในเหล่านักเรียนโรงเรียนนี้ที่โดดเด่นในสายตาเธอกับเพื่อน พวกเขาประกอบไปด้วย โพนี่ชื่อแซนด์บาร์, กริฟฟอนนามแกลลัส, จามรีชื่อโยน่า, มังกรนามสโมลเดอร์, เชนจ์ลิ่งชื่อโอเซลลัส, และฮิฟโปกริฟนามซิลเวอร์สตรีม พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนสหายมิตรที่ไม่ต่างจากทไวไลท์กับเพื่อน แน่นอนความหรรษายังมีอยู่ในชีวิตบทนี้ของทไวไลท์เช่นเคย ได้แก่...

เข้าร่วมงานประชุมแห่งสรรพชีวิตกับองค์หญิงเซเลสเทียและฝ่ายเอกสารพระคลังชื่อเรเวน อิงค์เวลล์, ดูแลคิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ที่ถูกเรียกไปทำภารกิจมิตรภาพจากแผนที่คิ้วตี้ที่ภูเขาแอริสแห่งพวกฮิปโปกริฟ รวมทั้งเป็นการไปเยี่ยมพ่อแม่ของซิลเวอร์สตรีมเพื่อเซ็นใบตอบรับไปทัศนศึกษา, กำกับดูแลละครเวทีการฉลองการครบรอบการเบิกตะวันครั้งแรกขององค์หญิงเซเลสเทียเมื่อหนึ่งพัน หนึ่งร้อย สิบเอ็ดปีที่แล้ว, เห็นสไปค์น้องรักเติบโตมีปีกงอกออกมา, ปวดหัวกับความป่วนของพิ้งค์กี้อีกรอบที่ตอนนี้เผลอทำให้โพนี่วิลล์ตกอยู่ในหายนะเมื่อขอพรกับแอปเปิลทองคำ, รับโคซี่โกลว์เข้ามาเป็นนักเรียนในโรงเรียนของเธอ นอกจากนี้ยังแต่งตั้งให้คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์เป็นติวเตอร์มิตรภาพของที่นี้, ไปเดินป่าเอฟเวอร์ฟรีกับเพื่อนแต่เพื่อนทำตัวทรามๆใส่ ซึ่งในความเป็นจริงนั่นคือร่างก็อปปี้ที่คริสซาลิสเสกมา อย่างไรก็ดีเธอกับเพื่อนไม่ได้คิดบาดหมางกันในตอนท้าย, โดนดิสคอร์ดหลอกให้ไปทำภารกิจมิตรภาพปลอมๆเพื่อที่เขาจะได้มาเป็นรองผอ. ชั่วคราว, ร่วมกิจกรรมผู้ช่วยอุ่นใจสำหรับวันอุ่นใจปีนี้กับเพื่อน และเรียนรู้ว่าของขวัญวันอุ่นหัวใจที่แท้จริงคือมิตรภาพระหว่างกัน จากนั้นก็ไปฉลองต่อที่โรงเรียน, เปิดโปงกับแรริตี้ในการแอบหาผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยมิตรภาพของฟลิมกับแฟลมซึ่งมีรัฐมนตรีเนกเซอยู่เบื้องหลัง, ตกแต่งปราสาทสองพี่น้องให้เป็นบ้านผีสิงกับเพื่อนให้ศิษย์ทั้งหกเข้ามาชมในคืนแห่งฝันร้าย, จัดฉากภารกิจปลอมๆเพื่อทดสอบมิตรภาพระหว่างแรริตี้กับเรนโบว์แดช เพื่อสอนถึงนักเรียนว่าแม้จะความชอบต่างกันก็สามารถเป็นเพื่อนได้, ยอมทนพิ้งค์กี้พายเล่นเครื่อง"โยวิดาโฟน"เพื่อความสุขของพิ้งค์กี้เอง, มอบหน้าที่ให้ร็อคฮูฟ หนึ่งในเสาหลัก กลายเป็นผู้ดูแลเรื่องราวตำนานจากการที่สร้างแรงบันดาลใจแก่เหล่านักเรียน, ร่วมกันไล่สลัดจ์ผู้ที่เสแสร้งว่าเป็นพ่อของสไปค์ออกไปกับสไปค์และสโมลเดอร์, โดนส่งย้อนเวลาไปช่วงที่เธอกับเพื่อนพึ่งได้รับคิ้วตี้มาร์ค ก่อนที่องค์หญิงเซเลสเทียส่งกลับไปเพื่อรักษาเส้นเวลา

  • เผาผลาญโรงเรียน

ชีวิตกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีในฐานะผอ.แห่งโรงเรียนมิตรภาพ ร่วมกับผองเพื่อนที่มาเป็นอาจารย์ อีกทั้งยังมีศิษย์ทั้งหกที่โดดเด่น พวกเขาคล้ายกับเธอและเพื่อนอย่างไม่มีผิดยกเว้นสายพันธุ์ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่ามิตรภาพคือสิ่งที่วิเศษ จนกระทั่ง... เวทย์มนตร์จากเขายูนิคอร์นของเธอกับตัวอื่นๆหายไป อยู่ดีๆก็หายไปทั่วทั้งเอเควสเทรีย นี่คือสัญญาณที่เลวร้ายอย่างไม่ต้องบอก และต้องรีบแก้วิกฤตนี้ให้ทันไม่เช่นนั้นอาจจะเลวร้ายขึ้นจนทำอะไรไม่ได้ ต้นตอที่เป็นไปได้ในหัวของทไวไลท์กับเพื่อนคือลอร์ดทิเร็คที่เคยสร้างความหายนะในการดูดเวทย์มนตร์ครั้งก่อน มันต้องเป็นเขาแน่ๆ เขาต้องแอบทำอะไรบางอย่างแม้ถูกจองจำ เธอกับเพื่อนรวมสไปค์ตัดสินใจเดินทางไปหาทิเร็คที่คุกทาทารัส โดยฝากให้สตาไลท์เป็นผอ.ของโรงเรียนชั่วคราว หลังการเดินทางผ่านอุปสรรคโดยที่ไม่มีเวทย์มนตร์ช่วย เธอกับเพื่อนก็มาถึงและใช้กุญแจเวทย์มนตร์ที่เปิดได้ทุกประตูที่เหมือนมีใครทิ้งไว้เปิดออก ก่อนที่มันจะแตกเป็นเสี่ยงๆหลังจากเข้าไป ทไวไลท์กับที่เหลือเผชิญหน้ากับทิเร็คในกรงขัง ซึ่งดูแล้วเหมือนเขาไม่น่าเป็นต้นตอด้วยความอ่อนแอในขณะนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากถามไถ่ ทิเร็คก็ยอมรับว่าเขาได้ช่วยเหลือโพนี่ตัวหนึ่ง ผู้เป็นหนึ่งในนักเรียนโรงเรียนของทไวไลท์และทำตัวจอมปลอมมาโดยตลอด โคซี่โกลว์ เด็กนี่ต้องการใช้อำนาจยึดครองเอเควสเทรียโดยการให้เขาพร้อมวัตถุมนตราต่างๆลบเวทย์มนตร์ออกไป และถ้าไม่แก้ไขให้ทัน เวทย์มนตร์จะหายไปอย่างถาวร ทไวไลท์กับผองเพื่อนช็อคและรีบไปหยุดโคซี่โกลว์ แม้ประตูทาทารัสจะสามารถเปิดด้วยเวทย์มนตร์เท่านั้น แต่เธอกับเพื่อนรวมเวทย์มนตร์จากสรรพชีวิตต่างๆในทาทารัสเพื่อเปิดออกไปจนสำเร็จ ไม่นานนักเวทย์มนตร์ก็กลับมาใช้ได้ทำให้สามารถเทเลพอร์ตเธอกับเพื่อนกลับมาที่โรงเรียนได้ก่อนพบว่าศิษย์ทั้งหกนั้นสามารถหยุดหายนะของโคซี่โกลว์ได้สำเร็จ มันจบแล้วสำหรับเด็กนี่ ศิษย์ทั้งหกขอบคุณบทเรียนจากเธอกับเพื่อนทำให้สามารถกอบกู้เอเควสเทรียได้ ส่วนโคซี่โกลว์ด้วยอาชญากรรมต่อทั่วเอเควสเทรีย โดนส่งจองจำในคุกทาทารัส
ความสำเร็จของทไวไลท์และผองเพื่อนในฐานะอาจารย์ผู้มากประสบกาณ์พึ่งพิสูจน์โดยศิษย์ทั้งหกของพวกเธอ และทุกอย่างกลับมาด้วยความสงบสุขเช่นเคย

ซีซั่นเก้า

  • จุดเริ่มต้นของจุดจบ

ความสงบสุขกับความหายนะของเอเควสเทรียอยู่ควบคู่เหมือนเป็นวัฏจักรตั้งแต่ทไวไลท์กับเพื่อนกลายเป็นสหายมิตรกัน คราวนี้ก็เช่นเคย ทไวไลท์กับผองเพื่อนรีบมุ่งหน้าไปปราสาทแคนเทอล็อทเมื่อได้ยินการเรียกฉุกเฉินจากองค์หญิงทั้งสอง แต่ทว่า... องค์หญิงทั้งสองยังสบายดีและไม่มีภัยร้ายใดๆทั้งสิ้น พระองค์อธิบายอธิบายว่าพวกเขาปกครองเอเควสเทรียมานานแสนนานเป็นสหัสวรรษ และต้องการวางกีบลง โดยส่งต่อให้ทไวไลท์กับเพื่อนๆรับหน้าที่ปกครองเอเควสเทรียต่อ ไม่มีใครเหมาะนอกจากวีรอาชาที่เคยปกป้องบ้านเกิดตัวเองมานับไม่ถ้วนแล้ว ทไวไลท์ช็อคหนักที่สุดเพราะต้องรับหน้าที่สูงสุดในฐานะว่าที่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย อย่างไรก็ดีในความวิตกกังวลว้าวุ่นของเธอ เพื่อนๆนั้นต่างให้กำลังใจและเชื่อมั่นในตัวเธอว่าทำได้พิสูจน์จากประสบการณ์ในการกอบกู้เอเควสเทรียมานับไม่ถ้วนตั้งแต่พบกัน แต่ความกังวลใจของเธอนั้นยังไม่หาย ไม่นานนักเธอกับเพื่อนได้สัญญาณเตือนถึงการหวนคืนของราชาซอมบร้าในอาณาจักรคริสตัลจากแคเดนซ์ ไม่ได้การแล้ว เธอกับเพื่อนรีบมุ่งหน้าไปอาณาจักรคริสตัลพร้อมธาตุแห่งความปรองดองจากพฤกษา โดยไม่ขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงทั้งสองหรือเชื่อใจดิสคอร์ดเพื่อพิสูจน์ว่าเธอกับเพื่อนสามารถรับกีบด้วยตัวเองได้ และกลายเป็นว่าทไวไลท์กับผองเพื่อนสามารถเอาชนะซอมบร้าอีกหนได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่กำลังไปคืนธาตุแก่พฤกษาแต่ทว่า...

ซอมบร้าเสแสร้งว่าเขาพ่ายแพ้และปรากฏตัวต่อหน้าทำลายทั้งธาตุและพฤกษาจนเหลือแต่เศษซาก ก่อนหายตัวไปเพื่อเริ่มยึดครองเอเควสเทรีย แม้ความสิ้นหวังจะอยู่ต่อหน้าเธอกับเพื่อน แต่ทไวไลท์ก็ไม่ยอมแพ้ เธอมุ่งมั่นเพื่อที่จะปกป้องเอเควสเทรียให้ได้ เช่นนี้เอง ทั้งเธอกับเพื่อนกลับไปโพนี่วิลล์ที่โดนซอมบร้าควบคุมจิตใจชาวเมืองและครอบครัวไปแล้ว ก่อนมุ่งต่อไปแคนเทอล็อทโดยมีเสาหลักแห่งเอเควสเทรียช่วยหยุดพงไพรจากป่าเอฟเวอร์ฟรีที่กำลังยึดเมือง ทไวไลท์กับเพื่อนสามารถมาถึงในปราสาทจนได้และเผชิญหน้ากับซอมบร้า ดิสคอร์ดเข้ามาช่วยแต่ก็โดนกำจัดจนอ่อนแอ เขาให้กำลังใจทไวไลท์กับเพื่อนว่าไม่จำเป็นต้องมีเขา องค์หญิง หรือธาตุแห่งความปรองดอง โพนี่ทั้งหกนี้คือตัวแทนคุณธรรมของความปรองดองโดยเสมอ ตราบใดที่ยืนหยัดด้วยกันจะมีแต่ชัยชนะ ซึ่งกลายเป็นว่าท้ายที่สุด ทไวไลท์ สปาร์คเคิลและเพื่อนๆทั้งห้าสามารถเอาชนะราชาซอมบร้าได้โดยไม่มีธาตุ พร้อมคำประกาศเกล้าว่า "มิตรภาพคือเวทย์มนตร์!" ซอมบร้าสลายเป็นผุยผงอีกรอบและคงไม่น่ากลับมาได้อีกแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ชาวเมืองหลุดจากการควบคุม องค์หญิงทั้งสองเข้ามาชื่นชมทไวไลท์กับเพื่อนและยอมรับว่าพระองค์ควรให้เวลาทไวไลท์เตรียมตัวมากกว่านี้และไม่ควรกดดันเธอ ท้ายที่สุดแล้วทไวไลท์กับเพื่อนได้พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งได้ตราบได้ที่ยืนหยัดด้วยกัน ส่วนดิสคอร์ด... เมื่อสักครู่เขาเสแสร้งว่าอ่อนแอ เขาแค่อยากให้ทไวไลท์มีกำลังใจแต่ก็ผิดหวังเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้จะเป็นองค์หญิงในตอนนี้

  • ว่าที่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย

จากโพนี่สามัญชนทั่วไปสู่การเป็นว่าที่ผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียนับได้ว่าเป็นการเดินทางชีวิตที่มหัศจรรย์มากของทไวไลท์ สปาร์คเคิล เพราะในสายตาองค์หญิงทั้งสองแล้วเธอคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการรับช่วงต่อในฐานะผู้ปกครอง พระองค์เห็นถึงความวิเศษในตัวเธอที่พิสูจน์จากการกอบกู้เอเควสเทรียและการผจญภัยกับผองเพื่อนมามากมาย เธอโดนสังเกตและพิจารณาตั้งแต่กลายมาเป็นศิษย์ส่วนตัวขององค์หญิงเซเลสเทียแล้ว เธอสมควรได้รับตำแหน่งนี้เพื่อที่พระองค์ทั้งสองจะได้ไปวางกีบและเกษียณหลังจากปกครองมาเนิ่นนาน เพราะฉะนั้นในบทชีวิตของทไวไลท์ช่วงนี้คือการเตรียมตัวรับหน้าที่เป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย และสะสางภาระต่างๆให้หมดสิ้นเพื่อความพร้อม อย่างไรก็ตามความหรรษาก็ยังวนเวียนรอบเธอเช่นเดิม ได้แก่...

สำรวจพฤกษาแห่งความปรองดองที่กลายเป็นวิมานแห่งความปรองดองจากการที่ศิษย์ทั้งหกฟื้นฟูธาตุ, โดนคอสมอสเพื่อนเก่าของดิสคอร์ดควบคุมจากการรับสร้อยคอประหลาดที่แรริตี้ซื้อมา และเกือบทำให้เอเควสเทรียพินาศย่อยยับถ้าหากดิสคอร์ดกับเพื่อนๆไม่สามารถเอาชนะคอสมอสได้, แข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่ง "สูงสุดแห่งสายเลือด" กับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ โดยมีเพื่อนของเธอกับองค์หญิงร่วมเล่นด้วย, เป็นส่วนหนึ่งในการจัดและฉลองวันครบรอบวันก่อตั้งโพนี่วิลล์ โดยได้ซันเซ็ต ชิมเมอร์ที่กลับเอเควสเทรียชั่วคราวมาแสดงดนตรี, ตามหาบรรณาลักษณ์ตัวเก่าเพื่อคืนหนังสือที่ลืมคืนมายาวนาน แต่สุดท้ายเก็บไว้เพื่อระลึกว่ามันโอเคที่จะไม่เพอร์เฟค, จัดงาน "Amity Ball" หรือลูกไมตรีในโรงเรียนแห่งมิตรภาพ อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูประเพณีงานเต้น The Fetlock Fete อันเก่าแก่ของโพนี่วิลล์, เล่นเกมกระดานสวมบทบาทแบบสมจริงกับเพื่อน และยังพาบัคไบเซ็ปมาร่วมเกมอีก, ถูกเชิญไปยังเมืองโฮปฮอลโลว์กับเพื่อนและพบว่าเมืองนี้ไร้สีสันและเทศกาลที่เชิญมา เธอกับเพื่อนช่วยกันฟื้นฟูสีสันของเมืองนี้สำเร็จในตอนท้าย, อาสาดูแลบ้านเมืองกับเพื่อนเพื่อที่สององค์หญิงจะได้ไปพักร้อนหนึ่งวัน โดยลืมนึกว่ามันจะเหนื่อยกว่าที่คิด, ให้เรนโบว์แดชเป็นโค้ชทีมเชียลีดเดอร์กีฬาบัคบอลประจำโรงเรียน แม้จะไม่ยินยอมในตอนแรก แต่ก็ทำออกมาได้ดีในท้ายที่สุด, จัดงานกีฬาทีมเจ็ดตัว"ความสำเร็จแห่งมิตรภาพ"ในโรงเรียนของเธอ, พาเต่าของเรนโบว์แดชไปเข้าการแข่งเต่าที่เมืองทรอทแลนด์ตามคำฝาก และเธอก็ต้องมาสืบคดีหาหนึ่งในเต่าคู่แข่งที่หายไป, เข้าแข่งเกมคอบคำถามไทรเวียทรอทโดยคิดว่าจะชนะเหมือนทุกครั้งที่เข้า แต่เมื่อต้องคู่กับพิ้งค์กี้พายเลยกลัวว่าแพ้ แต่สุดท้ายก็เรียนรู้ว่าความสนุกสำคัญกว่าชัยชนะ, ฉลองเทศกาลตะวันขึ้นผันครั้งสุดท้ายโดยหลังจากนี้จะกลายเป็นเทศกาลสองพี่น้องเพื่อระลึกถึงสององค์หญิงอลิคอร์นเมื่อเธอขึ้นปกครอง, ออกจากตำแหน่งผอ.โรงเรียนมิตรภาพโดยส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของสตาไลท์ กลิมเมอร์ เพราะเธอจะกลายเป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียเร็วๆนี้เเล้ว

  • จุดจบของจุดจบ

อีกแค่ไม่กี่วัน การเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองเอเควสเทรียกำลังจะมาถึง มีการเตรียมพร้อมสำหรับวันอาชาพิเษกครั้งใหญ่นี้ในนครแคนเทอล็อต เพื่อนๆของทไวไลท์หรือว่าที่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรียต่างมีหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของงานที่ยิ่งใหญ่นี้ ส่วนตัวเธอแล้ว เธอทำใจร่มๆเพื่อเตรียมรับหน้าที่สูงศักดิ์นี้พร้อมกล่าวชื่นชมสไปค์สำหรับทุกสิ่งที่เขาเคยทำเพื่อเธอมาโดยตลอดพร้อมแแต่งตั้งให้เป็นว่าที่ผู้ปรึกษาหลวง แต่ทว่าไม่นานนักดิสคอร์ดปรากฏตัวต่อหน้าเธอกับเพื่อนด้วยความตื่นตระหนกพร้อมสารภาพว่าเขาเผลอทำให้วายร้ายที่ทไวไลท์กับเพื่อนเคยเอาชนะที่ยังเหลือรอดอยู่กำลังเตรียมตัวโจมตีเอเควสเทรีย ซึ่งพวกมันประกอบด้วย ราชินิคริสซาลิส, ลอร์ดทิเร็ค, และโคซี่โกลว์ พวกมันแอบไปเอากระดิ่งบีวิทชิ่งของโกรากราในตำนานแล้วดูดพลังของเขาไว้เพิ่มพลังพวกมันเอง ซึ่งที่เป็นเช่นนี้เพราะดิสคอร์ดปลอมตัวเป็นโกรกราในตำนานแล้วปลุกปลั่นวายร้ายสามตัวนี่เพื่อที่จะให้พวกมันโจมตีเอเควสเทรียแล้วสร้างความฮึกเหิมแก่ทไวไลท์ที่กำลังจะกลายเป็นองค์หญิง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือราชาซอมบร้าเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตอนนี้แผนผิดพลาดพวกมันมีพลังมากเกินควบคุมกว่าดิสคอร์ด เมื่อได้ยินเช่นนี้ทั้งทไวไลท์ เพื่อนเธอ และองค์หญิงอารมณ์เสียอย่างที่สุด การกระทำของดิสคอร์ดแม้อาจจะฟังดูดีแต่การวางแผนนั้นไม่มีเลย อย่างไรก็ตามทไวไลท์กับผองเพื่อนยืนหยัดที่จะเอาชนะสามวายร้ายไปให้ได้ให้มันจบๆ เธอกับเพื่อนส่งจดหมายไปหาพันธมิตรพวกเขาทั้งหมดทั้วเอเควสเทรีย ไม่ว่าจะเสาหลักทั้งหก, ไชน์น่ิง อาร์มเมอร์ องค์หญิงแคเดนซ์, หริือสตาไลท์กับทริกซี่ เพื่อเตรียมและเผชิญกับสมรภูมิครั้งยิ่งใหญ่ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อขะตาแห่งเอเควสเทรียกำลังเกิดขึ้น ทไวไลท์กล่าว

สามปรปักษ์นี้เริ่มทำการโจมตี พวกมันแยกตัวไปหาคู่แค้นของพวกมัน แต่เรื่องมันแย่อีกเมื่อก่อนหน้านี้พวกมันได้ไปปั่นข่าวปลอมให้โพนี่แต่ละประเภทเกลียดชังกันและกันสำเร็จเสียด้วย แต่ละเมืองแยกประเภทประชากรโพนี่ ขับไล่พวกที่ไม่ใช่พันธุ์ของตัวเอง ไม่ต่างกับช่วงโบราณกาลสมัยการสถาปนาเอเควสเทรีย และอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ไม่ต่างกันคือ... วินดีโก้ สรรพชีวิตที่ตามสูบกินความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธุ์พร้อมนำพาพายุหิมะหนาวเหน็บเพื่อฝังอารายธรรมนั้นจนไร้ร่องรอย พวกมันกลับมาในยุคนี้เมื่อรับรู้ถึงความเกลียดชังครั้งใหม่ ทุกอย่างเลวร้ายลง พันธมิตรของทไวไลท์ต่างพ่ายแพ้แก่สามปรปักษ์และโดนจองจำในคุกที่พวกมันสร้างไม่ว่าจะองค์หญิง เสาหลัก หรือดิสคอร์ด แต่ยังมีเคราะห์ดี เพื่อนของทไวไลท์ทั้งห้าหนีการจับกุมของพวกมันไปได้และรวมตัวกับทไวไลท์กับสไปค์ยังอาณาจักรคริสตัล ด้วยกำลังใจจากสหายมิตร ทไวไลท์ไม่สูญสิ้นความหวังและลงมือตามแผนเพื่อหยุดพวกมัน แต่แผนไม่สำเร็จ ทไวไลท์กับผองเพื่อนกำลังจะโดนสามปรปักษ์เอาชีวิตของพวกเธอไป แต่ทันใดนั้นเหล่าโพนี่และเผ่าพันธุ์ที่เธอกับเพื่อนเคยผูกมิตรกันมาทั้งหมดมาช่วยชีิวิตไว้ เป็นเกราะเวทย์มนตร์ห้อมล้อมเธอ เพื่อนและพวกเขาทั้งหมด เหล่าโพนี่และสายพันธุ์ต่างๆสามารถรวมกันด้วยความปรองดองและไมตรี และนี่คือผลงานของศิษย์ทั้งหก พวกเขานำบทเรียนที่ได้มาจากทไวไลท์และเพื่อนรวมเหล่าโพนี่และสายพันธุ์เป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อต้านความชั่วร้าย ทไวไลท์กับเพื่อนตื้นตันใจ ประสบการณ์และบทเรียนของพวกเขาสร้างแรงบันดาลใจแก่เหล่าต่างๆส่งผลให้สามารถช่วยชีิวิตพวกเขาเองได้รวมถึงการกอบกู้บ้านเกิดเมืองนอนอันเป็นที่รักของตัวเอง ทไวไลท์เผชิญหน้ากับสามปรปักษ์พร้อมมอบสุนทรพจน์ที่สรุปประสบการณ์และบทเรียนชีวิตที่เธอได้มาทั้งหมดส่งให้พวกมัน

"พอได้แล้ว! เพราะพวกแกฉันเกือบหลงทาง แต่ทุกสายพันธุ์ที่นี่เตือนฉันถึงพลังที่แท้จริงของมิตรภาพ ในโลกนี้จะยังมีความมืดเสมอ แต่ก็จะมีผู้ที่ค้นพบแสงสว่างด้วยเช่นกัน เสาหลักรู้เรื่องนี้ พวกเขาถึงได้สร้างธาตุแห่งความปรองดอง ธาตุแสดงให้ฉันและเพื่อนๆเห็นว่ามิตรภาพแข็งแกร่งแค่ไหน เราช่วยกันนำความปรองดองมาสู่เอเควสเทรีย แต่มันย่อมมีงานให้ทำเพิ่มเสมอ ด้วยเหตุนี้เราจึงสอนผู้อื่นเรื่องเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ ผู้อื่นที่จะสานต่อภารกิจของเราหลังจากเราจากไปแล้ว ตอนนี้ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ธาตุเหล่านั้นเป็นแค่สัญลักษณ์ เวทย์มนตร์ที่แท้จริงอยู่ที่นี่เสมอ และยิ่งเข้าใจว่ามิตรภาพทรงพลังมากแค่ไหน เราจะแกร่งขึ้นแค่นั้น ไปด้วยกัน!"
— ทไวไลท์กล่าวเคียงข้างทุกตัวและต่อหน้าสามปรปักษ์

พลังจากทไวไลท์กับเพื่อน และทุกๆตัวรวมกันเป็นลำแสงสายรุ้งทลายความทรงพลังของพวกมัน ดิสคอร์ด องค์หญิง กับเสาหลักรับเวทย์มนตร์คืน ก่อนจากนั้นพวกเขาจะร่วมกันใช้เวทย์มนตร์จองจำสามปรปักษ์ให้เป็นรูปปั้นในฐานะอาชญากรต่อแผ่นดินเอเควสเทรีย ทไวไลท์ได้รับคำชื่นชมจากองค์หญิงเซเลสเทียว่าเธอได้เอาชนะความยากลำบากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตัวเองและพร้อมปกครองเอเควสเทรียอย่างเป็นทางการแล้ว... แต่เธอขอเลื่อนวันรับตำแหน่งไปก่อนแล้วกัน รอให้ปราสาทที่พึ่งโดนถล่มจากสามปรปักษ์ซ่อมเสร็จก่อน

ณ ร้านโดนัทโจ ทไวไลท์กับผองเพื่อนทั้งห้าบวกสไปค์เป็นหกร่วมโต๊ะกันคล้ายตอนที่พบกันในเริ่มแรก เธอกับเพื่อนคุยกันเฮฮาตามประสาเพื่อนรัก ก่อนจะมาถึงหัวข้อหนึ่งที่เห็นด้วยพร้อมกัน นี่คือจุดจบของยุคยุคหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิม "ไม่ว่าอะไรก็ตามหลังจากนี้มันจะต้องเพอร์เฟ็คแน่นอน" ทไวไลท์พูดอย่างมีสุข "เธอรู้ได้ไง" สไปค์เพื่อนรักถาม "ด้วยพวกเธอทั้งหมดเคียงข้างฉัน มันจะไม่ได้ไงล่ะ" ทไวไลท์ตอบ ตามด้วยเสียงหัวเราะแห่งความสุขจากเธอและเพื่อนทั้งหมด

  • ปัญหาอย่างสุดท้าย

ในที่สุดวันแห่งการราชาพิเษกของทไวไลท์ สปาร์คเคิลได้มาถึงเป็นที่เรียบร้อย เธอยังไม่อยากออกจากบ้านอย่างโพนี่วิลล์ ความกังวลที่ว่าอาจจะไม่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนดั่งเดิมด้วยภาระที่ใหญ่ยิ่งของการเป็นองค์หญิงท่วมท้นตัวเธอ เพื่อนรักทั้งห้าเข้ามาให้กำลังใจอย่างเช่นเคยซึ่งทลายความกังวลนี้ออกไปได้ เธอร่วมกอดกับเพื่อนพร้อมน้ำตาแห่งความผูกพัน หลังจากพิธีเสร็จสิ้นไปด้วยความปั่นป่วนที่ไม่ได้ตั้งใจ ทไวไลท์ซึ่งตอนนี้เป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียอย่างเป็นทางการแล้ว เข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนและหัวเราะถึงความหายนะของงานเมื่อครู่ ไม่ต่างจากเมื่อตอนผิดหวังในงานแกรนด์กาล็อปปิงกาล่าครั้งแรก จากนั้นสตาไลท์มาเยี่ยมและมอบสมุดแห่งความทรงจำที่บันทึกการเดินทางของพวกเขาตั้งแต่จุดเริ่มต้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจเธอถึงมิตรภาพระหว่างกัน ทไวไลท์นั้นจึงตัดสินใจก่อตั้งองคมนตรีแห่งมิตรภาพซึ่งประกอบด้วยเธอกับเพื่อนเอง เพื่อที่จะได้มีเวลาร่วมกันอีกครั้งเหมือนช่วงเวลาดีเดิมๆ ช่วงเวลาแห่งสีสันและความหรรษาที่แสดงถึงความแสนวิเศษของมิตรภาพ
ณ ตั้งแต่นี้ไป ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียที่ได้รับการส่งอำนาจต่อจากสองพี่น้องอลิคอร์น เซเลสเทียอดีตครูของเธอ กับลูน่าองค์น้อง ที่ตัดสินใจวางกีบลงหลังจากปกครองมานานถึงสหัสวรรษเพื่อมาใช้ชีวิตธรรมดาๆหลังเกษียณ อีกทั้งยังเป็นผู้นำขององคมนตรีแห่งมิตรภาพที่ประกอบด้วยเพื่อนของเธอที่ตกลงหาเวลามาสนุกด้วยกันดัั่งเช่นในอดีต

"นี่คือจุดจบของยุคยุคหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิม"
— ทไวไลท์ สปาร์คเคิล จากโพนี่ผู้หลงใหลในเวทย์มนตร์สู่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย

ซีซั่นสิบ

  • การเบิกตะวันขึ้นผันครั้งแรก

เช้าแรกของยุคใหม่มาถึงแล้ว ตอนนี้ทไวไลท์ สปาร์คเคิลหรือองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียองค์ใหม่ต้องทำหน้าที่เบิกตะวันขึ้นผันเป็นครั้งแรกแทนที่สองพี่น้องอลิคอร์น แต่ทว่าเธอไม่มีความมั่นใจว่าจะปกครองดีเทียบเท่าพวกเขาหรือไม่ อีกทั้งไร้ซึ่งคำแนะนำจากพวกเขาอีกต่อไป ความรู้สึกหลงและความกลัวในการถูกลืมเลือนเต็มหัวของเธอ สไปค์เพื่อนรักไม่ยอมให้เธอจมอยู่ในความทุกข์เช่นนี้เด็ดขาด สไปค์ให้กำลังใจและรับรองว่าเธอนั้นจะเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่และยากที่จะลืมเลือนพร้อมเพื่อนเคียงข้าง ทไวไลท์รู้สึกดีขึ้น ดำเนินงานฉลองตะวันขึ้นผันพร้อมยกตะวันเป็นครั้งแรกต่อหน้าประชาราษฏรด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง ทไวไลท์หันมาขอบใจสไปค์และดูเหมือนว่าเธอมีไอเดียบางอย่างสำหรับยุคการครองราชย์ของเธอ...

  • ความผูกพันมิตรภาพแห่งใหม่

หลังงานฉลองการเบิกตะวันครั้งแรกของทไวไลท์เสร็จสิ้น เธอเรียกรวมพลไม่ใช่แค่เพื่อนทั้งห้าของเธอ แต่รวมถึงเพื่อนอีกหลายตัวที่ผูกมิตรตามๆกันมา เธออธิบายให้พวกเขาฟังว่าหลังจากการผจญภัยที่ผ่านมา เธอสังเกตเห็นว่าเอเควสเทรียขยายตัวอย่างกว้างขวางอย่างมหัศจรรย์และความกว้างขวางนี้อาจจะมีดินแดนต่างๆมากมายที่ไม่เคยสำรวจมาก่อน เธอต้องการให้เพื่อนๆแบ่งทีมออกไปสำรวจส่วนต่างๆรวมถึงเป็นการสร้างความผูกพันมิตรภาพไปในตัว เธอเองก็อยากออกไปผจญภัยเช่นกัน แต่ในฐานะองค์หญิงเธอมีภาระมากมายที่ต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นแล้วการมอบหมายหน้าที่แก่เพื่อนในการออกไปสร้างไมตรีแก่ดินแดนต่างๆจึงเหมาะสมที่สุด อย่างน้อยเพื่อนของเธอก็ได้ออกผจญภัยเหมือนช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมา
ในการออกไปสร้างมิตรภาพนี้ เธอแบ่งเป็น 4 ทีม แยกกันไป 4 ดินแดนดังนี้ ฟาราซี ดินแดนของพวกม้าลาย อบาดา และเคลปี้, คานิเนีย ดินแดนของพวกหมายืนสองขาไดม็อนด็อก, แพนเธร่า ดินแดนของพวกแมวยืนสองขา, และสุดท้ายออนิเธีย ดินแดนของพวกนกแก้ว แต่ละทีมออกไปสำรวจตามลำดับ หลังจากมอบหมายภารกิจมิตรภาพนี้แล้ว ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ไปทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองในฐานะองค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย

แม้จะเป็นถึงขั้นผู้ปกครองแล้วแต่ความหรรษาก็ยังตามติดเธอเช่นเดิม...
หลายวันถัดมา เทศกาลสองพี่น้องซึ่งแทนที่เทศกาลตะวันขึ้นผันตัดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ไปไม่สวยซักเท่าไหร่ เมืออยู่ดีๆแคนเทอล็อตถูกรุกรานโดยมอสมัฟเฟลตตาที่ดูดกลืนเสียงทั้งเมือง โชคยังดีที่พิ้งค์กี้พายกับชีสแซนด์วิชรู้วิธีในการกำจัดมันด้วยเสียงขำขัน ทั้งเมืองส่งเสียงหัวเราะเท่าที่จะทำได้จนในที่สุดมอสมัฟเฟลตตาก็สลายหายไป เทศกาลสองพี่น้องดำเนินการต่ออย่างปกติ และทไวไลท์ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองเอเควสเทรียต่อไป

  • อัศวินแห่งความปรองดอง

หลายวันผ่านไป ทีมสำรวจที่จัดขึ้นก็ถูกส่งไปหมดเรียบร้อย ล่าสุดคือทีมของเรนโบว์แดชที่ไปสำรวจดินแดนออนิเทีย ทไวไลท์ดำเนินชีวิตต่อไปในฐานะตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ดีความรักในหนังสือก็ไม่เคยจางหายไป ระหว่างพักเธอก็อ่านหนังสือตำราต่างๆจนกระทั่งพบกับหัวข้อหนึ่ง พฤกษาแห่งความปรองดองไม่ได้มีแค่ที่เอเควสเทรียที่เดียว เธอหยิบยกเรื่องนี้มาสืบหาควบคู่กับคนอื่นๆเช่น สตาไลท์, สตาเสวิร์ลหนวดงาม, ซันเบิร์สท์, และสติเจียน เธอกับคนอื่นๆสืบค้นกันอย่างหนัก เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่ทันใดนั้นเรนโบว์แดชที่พึ่งออกไปสำรวจเมื่อเช้าพุ่งเข้ามาใส่พร้อมคำเตือนว่าอัศวินแห่งความปรองดองกำลังมา

เรนโบว์แดชอธิบายถึงภัยคุกคามนี้ อัศวินไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ทไวไลท์ที่รับทราบจึงรีบไปประกาศฉุกเฉินถึงภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่นี้และให้ประชาราษฏรรีบเข้าที่หลบภัย จากนั้นก็เรียกรวมพลเพื่อนพ้องพันธมิตรของเธอมาให้หมด ไม่ทันไรพวกมันก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร พวกอัศวินนำโดยกษัตริย์ดานุแห่งแดนคูนาบูล่าที่ประกาศกร้าวว่าผู้ที่มีเวทย์ของธาตุต้องถูกกำจัด ทไวไลท์พยายามเจรจากับเขาแต่ไม่เป็นผล เขากับอัศวินต่างโจมตีองครักษ์และพันธมิตรของเธอจนทำให้ต้องล่าถอยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทไวไลท์ตระหนักว่าผู้ที่มีธาตุไม่ใช่แค่เธอแต่เป็นตัวอื่นๆที่เป็นตัวแทนเพิ่มเติมด้วยรวมถึงศิษย์ทั้งหกของเธอที่จบการศึกษาเรียบร้อยและเธอก็มาช่วยพวกเขาจากการถูกจับตัวโดยพวกอัศวินไม่ทัน ทไวไลท์พยายามเจรจาอีกรอบด้วยมิตรภาพแต่ทว่า... ดิสคอร์ดคนดีคนเดิมปรากฏตัวข้างๆทไวไลท์ พวกอัศวินโมโหอย่างทันใดเมื่อเห็นดิสคอร์ด พวกเขาเล่าว่าดิสคอร์ดนี่แหละที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ธาตุต้องถูกกำจัดเพราะดิสคอร์ดไปสร้างความวุ่นวายของธาตุเมื่อสมัยบรรพบุรุษของพวกเขา อัศวินโจมตีต่อด้วยความเกรี้ยวกราด พวกเขาทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อพอๆกับสามปรปักษ์เมื่อคราวก่อน ทไวไลท์พลาดเข้าทำให้เธอโดนดานุขโมยเวทย์มนตร์ไปพร้อมกับสตาเสวิร์ล ด้วยพลังที่ขโมยมา ดานุทรงพลังอย่างเทียบเท่าไม่ได้และกำลังจะทำให้แคนเทอล็อตทลายอย่างราบคาบ แต่แล้ว... เหล่าสรรพชีวิตจากดินแดนต่างๆที่เพื่อนของเธอออกไปสร้างมิตรภาพมารวมตัวกันและหยุดการทำลายล้างครั้งใหญ่นี้ ทไวไลท์กลับมาได้เปรียบและร่วมต่อสู้กับดานุพร้อมอัศวินที่เหลือจนท้ายที่สุดพวกเขาก็พ่ายแพ้จนได้ ทไวไลท์กับสตาเสวิร์ลได้เวทย์มนตร์คืน แต่แม้ว่าจะพ่ายแพ้ดานุก็ยังขู่ประกาศกร้าวถึงความเกลียดชังต่อเธอและเอเควสเทรีย ทไวไลท์ เพื่อนของเธอ เสาหลัก ศิษย์ทั้งหก และสรรพชีวิตอื่นๆที่เป็นตัวแทนธาตุ ยืนประจัญบานต่อหน้าดานุ แสดงถึงความทรงพลังของเธอ เพื่อนและตัวอื่นๆทั้งเวทย์มนตร์ มิตรภาพ และความปรองดอง

"บางทีสักวันพวกเราอาจจะสู้กัน บางทีแกอาจพูดถูก แต่เมื่อวันนั้นได้มาถึง พวกเราจะทำในสิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอด พวกเราจะปรนนิบัติแก่กันด้วยความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความภักดี ความเอื้อเฟื้อ และความขำขัน และพวกเราจะเชื่อว่าเวทย์มนตร์เล็กๆน้อยๆจะเกิดขึ้น และมิตรภาพของพวกเราจะนำมาสู่ชัยชนะ"
— องค์หญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิลโต้กลับดานุ ผู้นำอัศวินแห่งความปรองดอง

อัศวินทั้งหกกลับดินแดนของตัวเองด้วยความคับแค้นใจ บางทีสักวันพวกมันอาจจะกลับมาหรืออาจจะไม่ก็ได้...

ท้ายที่สุดเป้าหมายของทไวไลท์ในฐานะผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียตัวใหม่ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์แก่ดินแดนต่างๆนอกบ้านเกิดเมืองนอนของเธอก็ประสบความสำเร็จ แม้อาจจะสร้างความบาดหมางในความไม่ตั้งใจ แต่กระนั้นมิตรภาพก็ถูกพิสูจน์แล้วว่ามันคือเวทย์มนตร์และสิ่งที่แสนวิเศษ ซึ่งถือว่าเหนือกว่าทุกๆสิ่ง ยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิมถือกำเนิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อย!

อนาคตอันใกล้

วันเวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน สไปค์เพื่อนรักเติบใหญ่เป็นมังกรที่ห้าวหาญ ส่วนตัวเธอเองนั้นก็เติบใหญ่มีรูปร่างคล้ายองค์หญิงเซเลสเทียผู้ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์ชีวิตแก่เธอ ตอนนี้เอเควสเทรียเป็นดินแดนแห่งความสงบสุขภายใต้ความปรองดองและมิตรภาพ ทไวไลท์และเพื่อนของเธอถูกจดจำในฐานะวีระอาชาผู้ยิ่งใหญ่ ทไวไลท์ขณะนี้ในห้องบัลลังก์กำลังเล่าถึงศิษย์เอกของเธอตัวหนึ่งในโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ที่เธอได้กลายเป็นเจ้าของต่อจากเซเลสเทียแก่สไปค์ เธอผู้นี้นามว่าลัสเตอร์ดอน ยูนิคอร์นผู้ไม่ค่อยจะคบค้าสมาคมมากเท่าไหร่ ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องมิตรภาพมากนักแม้จะมีความสามารถในด้านการเรียน ไม่ทันไร เธอผู้นี้เข้าพบเธอและบอกกลับว่ามิตรภาพเป็นสิ่งที่เสียเวลาและไม่คงอยู่ตลอดกาล ลัสเตอร์ดอนไม่ต่างกับกระจกของทไวไลท์ในสมัยที่เมินเฉยแก่มิตรภาพ ทไวไลท์เล่าถึงตัวเองในช่วงที่กำลังรับตำแหน่งเป็นองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียให้ฟัง แต่ไม่ทันไรเพื่อนๆสหายมิตรของทไวไลท์เข้ามาหาและทักทายกันเหมือนช่วงเวลาวานๆ ทุกตัวดูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงเวลาที่ผ่านมา ลัสเตอร์ดอนเข้าใจมากขึ้น แม้ว่าทไวไลท์จะมีหน้าที่อันสูงศักดิ์แต่เธอก็ไม่มีวันลืมเพื่อนที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ ทไวไลท์กล่าวเพิ่มว่ามิตรภาพอาจจะยากในการรักษาแต่ชีวิตจะยากขึ้นถ้าไม่มีมัน ทไวไลท์กับเพื่อนพาลัสเตอร์ดอนมาโพนี่วิลล์เพื่อให้เธอเรียนรู้ในการสร้างมิตรภาพที่นั่นเช่นเดียวกับองค์หญิงเซเลสเทียที่เคยทำเช่นนี้กับทไวไลท์ ลัสเตอร์ดอนเจอเพื่อนใหม่ๆและออกไปเที่ยวกัน ทไวไลท์กับผองเพื่อนมองเธอด้วยความตื้นตันใจ ศิษย์ผู้นี้ในที่สุดก็เรียนรู้ถึงความสำคัญของมิตรภาพ...

ปิดจบการเดินทางของทไวไลท์ สปาร์คเคิล จากโพนี่ผู้หลงใหลในพลังเวทย์มนตร์ สู่องค์หญิงแห่งเอเควสเทรีย ถ้าหากไม่ได้องค์หญิงและเพื่อนพ้องต่างๆที่ทำให้เธอเรียนรู้และเติบโตขึ้น เธอคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ เวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพของเธอเติบโตพร้อมกับเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่แสดงว่ามิตรภาพคือเวทย์มนตร์และสิ่งที่แสนวิเศษ

บทบาทในสื่ออื่นๆ

คอมมิคอื่นๆ

Comic issue 19 Alternate Twilight

ทไวไลท์ในโลกตรงข้ามแห่งนี้

  • ในจักรวาลคู่ขนานจากคอมมิค Reflections ทไวไลท์กับเพื่อนของเธอเป็นแก็งค์อาชญากรในโลกตรงข้ามแห่งนั้น และไม่มีการระบุถึงชะตาของพวกเขาหลังจากการเสียสละของราชาซอมบร้าของโลกแห่งนี้
  • ในคอมมิค Siege of the Crystal Empire เธอช่วยจัดระเบียบงานคริสตัลแฟร์และหยุดกลุ่มตัวร้ายไม่ให้ขโมยหัวใจคริสตัลอย่างไรก็ตาม เธอและเพื่อนๆของเธอถูกบังคับให้ต้องต่อสู้กับ แรเดียนโฮปผู้จัดงานของพวกตัวร้าย และเป็นผู้ซึ่งได้คืนร่างของราชาซอมบร้าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
  • ในคอมมิค Nightmare Knights Issue 3 ทไวไลท์จากอีกจักรวาลหนึ่งปรากฏตัวในเวทีของคลับตัวร้ายขององค์หญิงอีริส โดยเธอกลายเป็นนักมายากลผู้โอ้อวดเช่นเดียวกับทริกซี่ในอดีต อีกทั้งยังตั้งชื่อฉายาว่า "แสนยิ่งใหญ่และทรงพลังทไวลี่"
  • ในคอมมิค My Little Pony: Generations Issue 3 ทไวไลท์ถูกเรียกตัวไปที่โพนี่วิลล์โดยสตาร์ไลท์เพื่อช่วยจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นล่าสุดจากไวโอเล็ต ชิเวอร์, แบล็กเบลล์ และชาโดว์สตอร์ม และทำงานร่วมกับเซโคราเพื่อสืบหาแหล่งที่มาของเวทมนตร์ที่สร้างความเกลียดชัง ในฉบับที่ 4 เธอเดินทางกับเพื่อน ๆ ไปยังอีกโลกหนึ่งและคัดเลือกโพนี่จากหุบเขาแห่งความฝัน และในฉบับที่ 5 เธอเป็นผู้นำในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับสมูซ

การ์ดแลกเปลี่ยน

จากการแต่งงานของพี่ชายของเธอกับองค์หญิงเคเดนซ์ ทำให้ทไวไลท์ถูกระบุเป็นราชวงศ์ในการ์ดของเคเดนซ์และไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ก่อนการมาถึงของตอนจบของซีซั่นสาม [8]

คำอธิบาย Hasbro.com

'ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นเด็กที่ขยันและฉลาด เธอหมกมุ่นอยู่กับสิ่งหนึ่ง นั่นคือการเรียนรู้เวทมนตร์! ครั้งหนึ่งเธอเคยเรียนรู้มากจนไม่มีเวลาให้กับใครเลย จนกระทั่งองค์หญิงเซเลสเทียซึ่งเป็นอาจารย์ของเธอได้มอบหมายให้เธอเรียนรู้เวทมนตร์แบบพิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือ มิตรภาพ! เธอเพิ่งเปลี่ยนมาสนุกกับความสุขจากการมีเพื่อน เธอจึงใช้ความรู้และพรสวรรค์อันทรงพลังของเธอในเวทมนตร์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเธอในโพนี่วิลล์ แม้ว่าบางครั้งเธอจะ "อวดดี" เกี่ยวกับสิ่งที่ถูกหรือผิด แต่ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และช่วยเหลือเพื่อนทำให้เธอกลายเป็นเพื่อนใหม่ในโพนี่วิลล์ และเมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก สมองอันใหญ่โตและความรักที่มีต่อเพื่อนของเธอได้เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นผู้นำโดยกำเนิด!

คำอธิบายที่สองใน Hasbro.com

'พบกับเจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์คเคิล! องค์หญิงเซเลสเทียเคยสั่งให้ทไวไลท์เรียนรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพและรายงานสิ่งที่ค้นพบให้องค์หญิงทราบ เวทมนตร์ของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอมีปีกและกลายเป็นเจ้าหญิง! เหล่าโพนี่แห่งโพนี่วิลล์นับถือความฉลาดของทไวไลท์และชื่นชมภูมิหลังอันสูงส่งของเธอ ในฐานะผู้นำโดยกำเนิด ทไวไลท์ใช้ทักษะและพรสวรรค์ของเพื่อนๆ อย่างชาญฉลาดเพื่อบรรลุภารกิจ และมักจะค้นพบสิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเธอและเพื่อนๆที่น่าทึ่งของเธอ!

คำอธิบายเอเควสเทรียเกิร์ลใน Hasbro com

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เจ้าหญิงผู้ร่าเริงคนนี้ซึ่งเป็นสมองของโรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาขัดขวางเธอ แม้ว่าจะต้องเดินทางข้ามจักรวาลเพื่อรวบรวมเพื่อนเก่า เปิดเผยตัวร้ายที่น่ากลัวที่สุดของโรงเรียนแคนเทอร์ล็อตไฮสคูล และรวบรวมผู้คนก่อนถึงงานเต้นรำประจำฤดูใบไม้ร่วงเพื่อที่เธอจะได้นำมงกุฎกลับบ้าน แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงงานประจำวันของทไวไลท์ สปาร์คเคิล และเธอจะต้องใช้ทักษะทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่น เสน่ห์ และสติปัญญาของเธอ เพื่อให้ทำงานสำเร็จลุล่วง นั่นรวมถึงเวทมนตร์เล็กน้อยด้วย!

คำอธิบาย Rainbow Rocks

เมื่อเพื่อนๆ ต้องการเธอ ไม่มีใครเปล่งประกายได้เท่าทไวไลท์ สปาร์คเคิล ในฐานะนักร้องนำของวงเรนบูมส์ เธอพยายามทำให้ทุกคนเต้นตามจังหวะเดียวกัน เพื่อให้เสียงประสานนั้นครองความยิ่งใหญ่ในโรงเรียนแคนเทอร์ล็อตไฮสคูล

คำอธิบายอีกครั้ง Rainbow Rocks

สไตล์ซูเปอร์สตาร์ของทไวไลท์ สปาร์คเคิลทำให้เธอโดดเด่นในฐานะนักร้องนำของวงเดอะเรนบูมส์ ด้วยเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ เธอช่วยเพื่อนๆของเธอปราบวงเดอะแดซลิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มวายร้ายก่อนที่พวกเขาจะเข้ายึดโรงเรียนแคนเทอล็อตไฮสคูล

คำอธิบายใน HubNetwork com

เจ้าหญิงทไวไลท์ สปาร์เคิลเป็นผู้ที่ขยันและฉลาดหลักแหลม เธอเรียนเก่งมากในเรื่องเวทมนตร์ แม้ว่าบางครั้งเธอจะใส่ใจในรายละเอียดมากเกินไป แต่ความกระตือรือร้นของทไวไลท์ที่จะช่วยเหลือกีบเท้าก็ทำให้เธอเป็นที่รักของเพื่อนๆ เธอไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญเรื่องมิตรภาพด้วย ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงอลิคอร์นผู้ทรงพลัง ยูนิคอร์นผู้มีปีก”

คำอธิบายใน Teacher For a Day

พบกับทไวไลท์ สปาร์คเคิล! เธอรักการอ่านและการเรียนรู้ องค์หญิงเซเลสเทียแห่งเอเควสเทรียได้มอบพลังให้กับทไวไลท์ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นั่นก็คือความหมายของมิตรภาพ! เธอมีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ที่ทรงพลังและใช้มันเพื่อนำทางเพื่อนใหม่ของเธอผ่านการผจญภัยในโพนี่วิลล์

ไม่มีปัญหาใดที่ทไวไลท์ สปาร์คเคิลจะแก้ไขไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความช่วยเหลือจากโพนี่ตัวอื่นๆ เวทมนตร์เล็กน้อย และคำแนะนำจากองค์หญิงเซเลสเทีย

คำอธิบายใน มายลิตเติลโพนี่ (เกมมือถือ)

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ทไวไลท์ สปาร์คเคิล นักเรียนที่ซื่อสัตย์ที่สุดขององค์หญิงเซเลสเทีย ชื่นชอบการเรียนและอยากเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ
บรีซซี่ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
โปรดจำไว้ว่า: ผู้ร่ายคาถาที่มีความรับผิดชอบจะทดสอบคาถาเปลี่ยนรูปร่างกับตัวเองก่อนเสมอในห้องทดลองที่มีการควบคุม!
เชนจ์ลิ่งทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ชีวิตนี้ต้องคลี่คลายข้อสงสัยที่น่าสงสัยที่สุดของเอเควสเตรีย ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจเป็นว่า “ทำไมเธอถึงเป็นเชนจ์ลิงในตอนนี้”
ทไวไลท์โกลาหล:
การรู้จักทไวไลท์ และการได้รับพลังเวทมนตร์แห่งความโกลาหลอาจหมายความว่าเธอจัดเรียงหนังสือของเธอตามสีปกแทนที่จะเป็นระบบทศนิยมโพนี่
คริสตัลทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอมีสำเนาปีศาจ-นุกรม ไว้ใกล้ตัวในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับการติดตามสัตว์ประหลาด!
เชนจ์ลิ่งมืดทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอดูดกินความรักอันบริสุทธิ์ที่สุดของทั้งหมดเท่านั้น: ความรักแห่งพีชคณิต
จักรพรรดินีแห่งโพนี่ิวิลล์ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
"สรรเสริญทไวไลท์ สปาร์คเคิล จักรพรรดินีองค์แรกของโพนี่วิลล์! ...หรือไม่ก็ไม่ควรทำเลย จริงๆ แล้วคุณไม่ควรทำ"
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลในอนาคต:
ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะคาดเดาอนาคตของทไวไลท์ สปาร์คเคิล แต่ดูเหมือนว่าการครองราชย์ที่ยาวนาน ยุติธรรม และมีเวทย์มนตร์จะเป็นไปได้ (นอกจากนี้ เธอยังสูงมาก!)
กิรินทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอสามารถใช้เขานั้นร่ายเวทย์มนตร์ได้หลายประเภทหรือไม่? ถ้าได้ เวทย์มนตร์ประเภทใดบ้าง? มีคำถามมากมายจริงๆ!!!
ขบวนพาเหรดวันปีใหม่ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ทุกๆ ปีที่คุณอายุมากขึ้น ความมหัศจรรย์ของมิตรภาพก็จะเพิ่มมากขึ้น
ไนท์แมร์ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ความฝันของความรู้ที่ไม่เพียงพอและเวทมนตร์ที่ไร้พลังให้กลายเป็นจริง
นิริกทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
เธอจะทำการทดลองแบบควบคุมเกี่ยวกับสาเหตุที่เธออยู่ในไฟวิเศษตอนนี้ หากเธอไม่โกรธมากเกินไปจนไม่สามารถมีสมาธิได้
โจรสลัดทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ลองพูดว่า "เจ้าหญิงโจรสลัดผู้น่ารัก" เร็วๆ สามครั้งสิ เราท้าคุณ!
พลังสายรุ้งทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ขณะที่เธอเริ่มรับบทบาทเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอย่างแท้จริง
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลแบบย้อนยุค:
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลแบบย้อนยุคคือความสดใหม่ ทไวไลท์ สปาร์คเคิลแบบย้อนยุคมีชีวิตชีวาและเธออยู่ที่นี่เพื่อความสนุกเต็มที่!
ทไวไลท์ สเนก-ลี:
เดี๋ยวนะ... ที่นี่จะมีเจ้าหญิงร่ายคาถาพรางตัวอยู่เหรอ? เราไม่เห็นโพนี่ตัวไหนเลย...
ฮิปโปกริฟทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
ฮิปโปกริฟผู้หิวกระหายความรู้ ถูกพบเห็นกำลังสำรวจยอดเขาปรองดองอย่างกระตือรือร้น
ซีโพนี่ทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
หลงใหลในพัฒนาการของซีโพนี่ในช่วงแรกๆ ชอบสำรวจซีเควสเทรีย! แน่นอนว่าทำเพื่อการวิจัย
ทไวไลท์ สปาร์คกลิ้ง:
จนถึงตอนนี้ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เวอร์ชั่นแวมไพร์ปรากฏตัวเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น แต่เธอค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะเปล่งประกายสวยงามมากเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดด
สปาร์คเคิลอวกาศ:
นี่คือทไวไลท์ สปาร์คเคิล... บนอวกาศศศศศศ!!!
คาวบอยทไวไลท์ สปาร์คเคิล:
สิ่งที่เธอสวมใส่เมื่อเธอต้องการแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพนั้นช่างมหัศจรรย์แม้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง
ทไวไลท์ สปาร์คเคิลในวัยเด็ก:
มหัศจรรย์พอๆกัน แต่ส่วนใหญ่ก็เล็กมาก!

นิตยสาร

ใน นิตยาสารซิกเนเจอร์ มายลิตเติลโพนี่ คอมมิคฉบับที่ 69 เรื่อง "เพื่อนที่กล้าหาญและเรื่องราวที่หายไป!" ทไวไลท์และสตาไลท์ กลิมเมอร์ ไปเยี่ยมเอเคเยียร์ลิ่ง และเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วเอเควสเทรีย เพื่อตามหาต้นฉบับ "แดริ่งดู" ที่สูญหายไปนานของเธอ[9]

คำอธิบายนิตยสาร มายลิตเติลโพนี่

  • ฉลาด
  • มีศิลปะ
  • เป็นมิตร
  • ขี้กังวล
  • เอาใจใส่

เติบโตในราชสำนักของราชินีในแคนเทอล็อต ทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นผู้นำโดยกำเนิด เธอรักการเรียนรู้และต้องการเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ

หนังสือคู่มือธาตุแห่งความปรองดอง

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล มีความรักในการเรียนรู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ในเอเควสเทรีย เธอเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ เพื่อนที่อดทน เป็นผู้จัดระเบียบที่คลั่งไคล้ และเป็นนักอ่านตัวยง บ้านของเธอในโพนี่วิลล์อยู่เหนือห้องสมุดโกลเด้นโอ๊ค ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ด้วย โดยมีสไปคฺ์และนกฮูกเลี้ยงของเธอชื่อโอลโลวิสเชียสคอยช่วยเหลือ จากธาตุทั้งหกแห่งความปรองดอง เธอเป็นตัวแทนของธาตุแห่งเวทมนตร์ เมื่อยังเป็นลูกโพนี่ตัวน้อยในแคนเทอล็อต องค์หญิงเซเลสเทียได้เลือกเธอให้ศึกษาเวทมนตร์รูปแบบสูงสุดในฐานะลูกศิษย์ขององค์หญิง เมื่อเห็นว่าทไวไลท์ให้ความสำคัญกับความรู้มากกว่าเพื่อน องค์หญิงจึงส่งทไวไลท์ไปที่โพนี่วิลล์เพื่อเรียนรู้คุณสมบัติเวทมนตร์ของมิตรภาพ เนื่องจากทไวไลท์ไม่เพียงเชี่ยวชาญเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังสร้างเวทมนตร์ของเธอเองผ่านมิตรภาพดังกล่าว เธอจึงได้รับปีกและตำแหน่ง เจ้าหญิงทไวไลท์

คู่มือฉบับที่ II

ตั้งแต่เธอเข้าเรียนในโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ของเซเลสเทีย ทไวไลท์ สปาร์คเคิลรู้ดีว่าเธอถูกกำหนดให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ จิตวิญญาณของเธอเต็มไปด้วยความกระหายความรู้ เธออ่านหนังสือทุกเล่มที่หาได้! การค้นคว้าของเธอประสบความสำเร็จเมื่อเจ้าหญิงเซเลสเทียมอบภารกิจที่สำคัญที่สุดในชีวิตให้กับม้าตัวน้อยตัวนี้ นั่นคือ ศึกษาเวทมนตร์แห่งมิตรภาพและซึมซับบทเรียนอันมีค่าของมัน ทไวไลท์ สปาร์คเคิลออกเดินทางผจญภัย เผชิญกับอันตรายและความท้าทายในทุก ๆ ทาง! โชคดีที่เธอมีเพื่อนโพนี่ตัวน้อยที่ทรงพลังคอยสนับสนุนเมื่อเธอต้องการมากที่สุด หลังจากค้นพบความจริงเบื้องหลังธาตุแห่งความปรองดองอันลึกลับ ทไวไลท์ สปาร์คเคิลก็ยกระดับจากโพนี่ตัวน้อยธรรมดาให้กลายเป็นอลิคอร์นและเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพที่สมบูรณ์แบบ จากปราสาทแห่งมิตรภาพ และร่วมกับเพื่อนซี้ทั้งห้าคนและสไปค์ ทไวไลท์ สปาร์คเคิลยังคงปกป้องเอเควสเทรียจากภัยคุกคามในขณะที่เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและส่งต่อความสุขไปตลอดทาง

สื่อโฆษณา

เพจ Meet the Ponies ของเว็บไซต์โปรโมตงานแต่งงานมายลิตเติลโพนี่ในประเทศออสเตรเลียใช้ผลงานแฟนอาร์ตของ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล[10][11]

บูธของฮาสโบรที่จัดแสดงในงาน Brand Licensing Europe 2012 มีโปสเตอร์ที่แสดงทไวไลท์ สปาร์คเคิลเป็นอลิคอร์น[12] Jayson Thiessen was not involved with the creation of the poster.[13]

The Hub ได้ประกาศเมื่อวันที่ 29 และ 30 มกราคม 2013 ในบทความ EW.com โพสต์บน Twitter และ Facebook และข่าวเผยแพร่ เรื่องพิธีราชาภิเษกของทไวไลท์ สปาร์คเคิล ในฐานะเจ้าหญิงในตอนสุดท้ายของซีซั่น 3 Magical Mystery Cure เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2013[14] บทความและโพสต์ทั้งสองมาพร้อมกับรูปภาพของเธอที่สวมทั้งปีกและเขา ชุดเดรส รองเท้าสไตล์เจ้าหญิง และมงกุฎเวทย์มนตร์รุ่นใหม่[15][16] The Twitter post and the picture accompanying both posts each include the hashtag "#PonyPrincess".[17][18]

ภาพโปรโมต "My Little Pony La Magia de la Amistad" ที่โพสต์โดยเพจ Facebook อย่างเป็นทางการของ "My Little Pony" โดยทางสเปนยุโรป เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2015 ใช้ภาพแฟนอาร์ตของยูนิคอร์นทไวไลท์ และทริกซี่[19][20]

คำอธิบาย 4th Dimension Entertainment plush

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เป็นยูนิคอร์นที่รักการอ่านหนังสือและใฝ่เรียนรู้ เธอได้รับเลือกเป็นพิเศษจากเจ้าหญิงเซเลสเทียให้เป็นลูกศิษย์เมื่อทไวไลท์ สปาร์คเคิลยังเป็นลูกโพนี่ตัวน้อย ต่อมาองค์หญิงได้ส่งทไวไลท์ สปาร์เคิลไปที่โพนี่วิลล์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลอยู่เคียงข้างเพื่อนๆ ของเธอเสมอ คอยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาใดๆที่โพนี่ประสบอยู่ ด้วยความเป็นระเบียบและฉลาดจนเกินเหตุ นิสัยดื้อรั้นและเอาแต่ใจของเธอบางครั้งทำให้เธอต้องเจอกับปัญหา เธอมักจะใช้เหตุผลมากกว่าสัญชาตญาณ เชื่อในสิ่งที่เธอพิสูจน์ได้อย่างมีเหตุผลเท่านั้น ทำให้เธอมีความปรารถนาที่จะถามคำถามอย่างมีสุขภาพดี ความอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาตินี้ช่วยให้ทไวไลท์ สปาร์คเคิลผ่านการผจญภัยได้ดี เธอช่วยเธอแก้ปัญหาและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ ในแต่ละวันมีบทเรียนใหม่ๆ เกิดขึ้น และพลังวิเศษและกลุ่มเพื่อนของเธอก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กกับสไปค์ ผู้ช่วยมังกรตัวน้อยของเธอ และนกฮูกสัตว์เลี้ยงชื่อโอวโอวิเชียส

ร่วมกับเพื่อนสนิทของเธออย่าง พิ้งค์กี้พาย, แอปเปิลแจ็ค, เรนโบว์แดช, แรริตี้ และ ฟลัตเทอร์ชาย ทไวไลท์ สปาร์คเคิลได้เติมเต็มธาตุแห่งความปรองดอง ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่ทรงพลังที่สุดในเอเควสเทรียทั้งหมด

คำอธิบาย The Art of My Little Pony The Movie

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือผู้นำที่ไม่เป็นทางการของเพื่อนทั้ง 6 และเป็นวีรอาชาของ มายลิตเติลโพนี่ เดอะมูฟวี่ เธอเป็นผู้เรียนรู้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อนที่อดทน เป็นผู้วางแผนที่คลั่งไคล้ และเป็นนักอ่านตัวยง ในฐานะเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ เป็นหน้าที่ของทไวไลท์ที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าโพนี่ทุกตัวรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งด้วยการสร้างและรักษามิตรภาพทั่วทั้งเอเควสเทรีย เมื่อ ราชาสตอร์มขู่ว่าจะขโมยเวทมนตร์จากเหล่าโพนี่ ทักษะความเป็นผู้นำ ความมั่นใจ และแม้แต่มิตรภาพของทไวไลท์ สปาร์คเคิล จะถูกผลักดันจนถึงขีดสุด

'ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เป็นตัวแทนของธาตุเวทมนตร์!

My Little Pony: The Manga - A Day in the Life of Equestria

ใน มังงะฉบับที่ 1 ทไวไลท์มีบทในบทที่ 1, 2, 4 และ 8

คู่มือจำเป็นมายลิตเติลโพนี่

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล คือเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ผ.อ.ของโรงเรียนมิตรภาพ และเพื่อนที่ดี ตอนแรก ทไวไลท์ เป็นโพนี่ตัวน้อยที่ขี้อายและชอบอ่านหนังสือ แต่เมื่อเธอได้ย้ายไปที่โพนี่วิลล์ เธอก็ได้ค้นพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่หนังสือไม่สามารถสอนได้

มายลิตเติลโพนี่ เปเปอร์คราฟท์

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล เดิมทีเป็นโพนี่ยูนิคอร์น แต่กลับกลายร่างเป็นอลิคอร์นหลังจากแก้ไขคาถาที่ผิดพลาดและพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้นำ เธอเคยเป็นลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทีย และกลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพในโพนี่วิลล์ โดยได้รับมอบหมายให้แบ่งปันเวทมนตร์แห่งมิตรภาพกับผู้อื่น

บุคลิกนิสัย

มิตรภาพและการพัฒนาตัวเอง

ทไวไลท์เริ่มแรกนั้น เธอเป็นผู้ที่ไม่ชอบสังคมสักเท่าไหร่ ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใครเว้นแต่ครอบครัวโดยมักอ้างว่าไม่มีเวลาเพื่อที่จะได้ไปทำสิ่งที่สนใจเพียงอย่างเดียวเช่นการเรียนรู้และอ่านหนังสือ แม้ว่าเธอจะมีเพื่อนในตอนที่อยู่ในโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์แต่ก็เหมือนมีไปอย่างงั้นไม่ได้ให้คุณค่าใดๆกับเหล่าเพื่อนสาว โดยเฉพาะมูนเดอร์เซอร์ที่รู้สึกเจ็บใจมากที่สุดจากการที่โดนปฏิเสธคำชวนไปงานเลี้ยงโดยอ้างว่า "ไม่มีเวลากับเรื่องพวกนั้นหรอก" อย่างไรก็ดีแม้การปฏิเสธครั้งนี้จะทำให้ทไวไลท์สามารถพิทักษ์เอเควสเทรียกับเพื่อนใหม่ได้ในเวลาต่อมา แต่การโดนเมินเฉยจากเพื่อนที่คบมาตั้งแต่เด็กก็ถือว่าเป็นบาดแผลในใจที่เจ็บปวดสำหรับมูนเดอร์เซอร์อย่างยิ่ง ทไวไลท์ในมุมมองของเธอก็เป็นแค่พวกที่ชอบหยิ่งยะโส

หลังสร้างความเจ็บปวดแก่เพื่อนในวัยเด็กให้หนักกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว ทไวไลท์ถูกส่งไปตรวจสอบงานยกตะวันขึ้นผันที่โพนี่วิลล์ตามความมอบหมายขององค์หญิงเซเลสเทียโดยไม่เต็มใจ แต่ที่นั่นเองทำให้เธอพบกับการตระหนักรู้ครั้งใหญ่ แม้ว่าจะอยากจะเมินเฉยโพนี่ห้าตัวที่นั่นตั้งแต่แรกพบ แต่พวกเขาเองนี่แหละที่สามารถทำให้เธอผจญฝ่าฟันเข้าไปจนสามารถพิทักษ์เอเควสเทรียจากการกลับมาของไนท์แมร์มูนได้สำเร็จ โพนี่ทั้งห้านี้ทำให้เธอเรียนรู้และยอมรับในความสำคัญของมิตรภาพ และเธอต้องการเรียนรู้ให้มากขึ้นไปอีก จึงตัดสินใจดำเนินชีวิตบทใหม่ของเธอไปกับพวกเขา ทไวไลท์เรียนรู้บทเรียนชีวิตและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆกับเพื่อนใหม่ทั้งห้านี้ และอีกครั้งที่เป็นพวกเขาเองที่สามารถทำให้ทไวไลท์กลายเป็นเจ้าหญิงเเห่งมิตรภาพได้ในที่สุด แสดงถึงการเติบโตครั้งใหญ่ของทไวไลท์

อย่างไรก็ดีทไวไลท์เหมือนจะลืมเพื่อนเก่าของเธอแล้วถ้าหากไม่ได้แวะแคนเทอล็อตแล้วเจอพวกเขา ทไวไลท์ย้อนนึกคิดถึงการกระทำในอดีตจึงหันกลับมาขอโทษ เพื่อนเก่าทั้งหมดยอมรับยกเว้นมูนแดนเซอร์ผู้เจ็บใจที่สุดที่ปฏิเสธ แต่ท้ายที่สุดแล้วเหล่าเพื่อนเก่ากับเธอก็สามารถทำให้มูนแดนเซอร์ยอมรับในคำขอโทษนี้ได้ ก่อนที่จะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันตามที่เคยชวนเมื่อนานมาแล้ว

เห็นได้ว่าทไวไลท์เรียนรู้และเติบโตขึ้นเรื่อยๆหลังจากสนิทกับเพื่อนใหม่ทั้งห้า เธอยอมรับในมิตรภาพและลดความหยิ่งของตัวเองจนแทบจะไม่เห็นอีกเลย อีกทั้งก็ยังยอมรับในความผิดพลาดในอดีตแล้วไปขอโทษเหล่าเพื่อนเก่าที่โดนเธอเมิน ทไวไลท์มีมุมมองและบุคลิกที่เปลี่ยนไปในทางทีดีขึ้นจนสิ่งนี้เองทำให้เธอมีความเหมาะสมในการรับตำแหน่งองค์หญิงแห่งเอเควสเทรียต่อจากสองพี่น้องอลิคอร์นในท้ายที่สุด

หนอนหนังสือ

Twilight Studying S1E4

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลอ่านหนังสือบนระเบียงห้องสมุด

ตั้งแต่ยังเด็ก ทไวไลท์รักในหนังสือเป็นอย่างมากซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความหลงใหลในเวทย์มนตร์ขององค์หญิงเซเลสเทียและความต้องการในสอบเข้าโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ผ่าน ความรักในการอ่านหนังสือติดตัวไปจนชั่วชีวิตของเธอ เธออ่านหนังสือได้ทุกเล่มทุกเรื่องต่อให้มันจะไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ อย่างเช่นในตอน Fall Weather Friend ที่เธออ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิ่งจนจบมาหลายเล่มเพื่อที่จะได้ลงแข่งวิ่งกระทบใบไม้ และในตอน Lunar Eclipsed และ Testing Testing 1, 2, 3 แสดงให้เห็นว่าทไวไลท์ก็ชอบอ่านในเรื่องประวัติศาสตร์เช่นกันเป็นต้น ทไวไลท์จะตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อได้อยู่ในสถานที่จำพวกห้องสมุดหรือคลังเก็บความรู้หรือแม้แต่การพบว่ามีห้องสมุดลับในสักสถานที่

ผู้รักในความมีเหตุผล

Twilight tries to measure Pinkie's predictions S1E15

ทไวไลท์พยายามสืบหาความจริงในลางของพิ้งค์กี้

ทไวไลท์ชอบให้ความสำคัญกับความมีเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะบ้าบอเพียงใดแต่เธอก็ชอบที่จะค้นหาเหตุผลของมัน ยกตัวอย่างเช่นการหยุดให้พิ้งค์กี้ยกคำอ้างมั่วๆและให้เธอช่วยกันสืบหาคนทำลายเค้กบนรถไฟกับตัวเองในตอน MMMystery on the Friendship Express

อย่างไรก็ดี ภายใต้ความเครียดและความกดดันที่มากล้นสามารถทำให้เธอเสียสติและขาดความมีเหตุผลไปได้ ยกตัวอย่างเช่นตอน Swarm of the Century ทไวไลท์ยกคำแนะนำให้รีบสร้างโพนี่วิลล์แบบก็อปปี้อย่างไตร่ตรองเพื่อที่จะให้องค์หญิงเซเลสเทียมาที่นั่นโดยไม่ต้องเห็นการทำลายล้างของพวกแมลงพาราสไปรท์, ในตอน Lesson Zero ด้วยความกลัวที่องค์หญิงเซเลสเทียจะลงโทษเธอถ้าหากไม่ส่งรายงานมิตรภาพตามกำหนด ทไวไลท์จึงกลายเป็นบ้าและสร้างปัญหาขึ้นมาเอง, ในตอน The Crystal Empire - Part 1 เธอปรารถนาอย่างสิ้นหวังในการผ่านบททดสอบขององค์หญิงเซเลสเทีย, ในตอน The Beginning of the End - Part 1 เธอหายใจอย่างรวดเร็วด้วยความตระหนกหลังจากรู้ว่าต้องมารับตำแหน่งผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียต่อจากสองพี่น้องอลิคอร์น, และในตอน A Trivial Pursuit เธอมีความสิ้นหวังในการชนะการแข่งขันตอบคำถามเมื่อมีพิ้งค์กี้เป็นคู่หูในเกมซึ่งเป็นตัวถ่วง เป็นต้น

บางครั้งทไวไลท์ก็มีความช่างสงสัยในคำกล่าวอ้างที่ไม่ได้พิสูจน์ เช่นความสงสัยต่อความเขื่อที่อ้างว่าซีโกร่าเป็นนักเวทย์ช่วยร้ายในป่าเอฟเวอร์ฟรีในตอน Bridle Gossip และความสงสัยในเซนส์ของพิ้งค์กี้ในตอน Feeling Pinkie Keen

ทไวไลท์เองก็มีความกลัวต่อบางอย่างเช่นกัน เช่นความกลัวอาหารเควซาดิลลาอย่างไม่มีเหตุผลในตอน Party Pooped และความกลัวแมงเต่าทองที่มีมาตั้งแต่เด็กซึ่งแสดงในตอนสั้น Starlight the Hypnotist

ความมีเหตุผลของทไวไลท์ส่งผลต่อมุมมองของเธอด้วยเช่นกันดั่งใน มายลิตเติลโพนี่ เดอะมูฟวี่ ที่เธอมองว่าภายนอกเอเควสเทรีย ทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขด้วยมิตรภาพได้ จากการที่เธอกับเพื่อนเกือบโดนแมวนักต้มตุ๋นจับไปขายตัว และการเกือบโดนเตะออกจากเรือโจรสลัดนกแก้ว สิ่งนี้เองทำให้เธอมีแผนในการให้เพื่อนของเธอเบี่ยงเบนความสนใจขององค์หญิงสกายสตาร์เพื่อที่ไปแอบขโมยไข่มุกของซีเควสเทรียแล้วนำมากอบกู้เอเควสเทรีย อย่างไรก็ตามเธอล้มเหลวทำให้ทั้งเธอกับเพื่อนโดนขับไล่ และโดนเทมเปสท์ ชาโดว์จับตัวในเวลาต่อมา

ทักษะและความสามารถ

การจัดระเบียบ

Twilight's vest S1E11

ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ผู้จัดระเบียบแห่งทุกฝ่าย

ทไวไลท์แสดงความสามารถในการจัดระเบียบของเธอในตอน Winter Wrap Up เป็นตอนแรก เมื่อในงานเก็บกวาดหน้าหนาวไม่เป็นไปตามแผนและเละตุ้มเป๊ะ ทไวไลท์จึงช่วยจัดระเบียบฝ่ายต่างๆให้มีระเบียบมากขึ้นและให้ทันกำหนดการเสร็จ สิ่งนี้ทำให้นายกแมร์สมญานามเธออย่างเป็นทางการว่า"ผู้จัดระเบียบทุกฝ่าย" ทไวไลท์ยังใช้ทักษะการจัดระเบียบนี้ในตอนอื่นๆเช่น Lesson Zero, Secret of My Excess และ It's About Time เป็นต้น การที่ทุกอย่างต้องเรียบร้อยของทไวไลท์ ตามหนังสือ The Art of Equestria และผู้กำกับดูแลเจสัน ธีสเซ่น กล่าวแบบคาดเดาว่าทไวไลท์"อาจจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ"

การสอน

Twilight 22 S4E15

ทไวไลท์สอนครูเซเดอร์ทั้งสาม

ทไวไลท์มีความสามารถในการเป็นครูเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการหรือบทเรียนชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทั้งมีความใฝ่รู้กับได้มาจากองค์หญิงเซเลสเทียในเวลาเดียวกัน สำหรับเรื่องวิชาการนั้นเช่นในตอน Twilight Time แสดงถึงทไวไลท์ใช้เวลาแต่ละสัปดาห์ในการสอนทักษะต่างๆแก่คิ้วตี้มาร์คครูเซเดอร์ เธอสอนเรื่องการใช้พลังลอยวัตถุให้สวีทตี้เบลล์ สอนแอปเปิลบลูมถึงวิธีทำน้ำยาเร่งโตพืชพรรณ และสอนสกูตาลูถึงวิธีถอดกับประกอบสกูทเตอร์และจักรยานประเภทต่างๆ ทไวไลท์มีความสุขมากๆเมื่อเธอคิดว่าเหล่ามีนักเรียนอยากเรียนเรื่องใหม่ๆกับเธอในตอนนั้น แต่ก็ผิดหวังเมื่อพบว่าเธอเป็นแค่คนดังสำหรับนักเรียนพวกนั้น

ความสามารถในการเป็นครูของทไวไลท์ที่สอนแก่ครูเซเดอร์ทั้งสามถูกพิสูจน์แล้วว่าสำเร็จ พวกเขาเหล่าสามต่างมีความสามารถขั้นสูงตามที่เธอตั้งใจสอนมาในท้ายที่สุด

แม้ว่าจะสอนเก่งแค่ไหน ทไวไลท์ก็ไม่สามารถทำให้เรนโบว์แดชสนใจในการติวสอบประวัติศาสตร์วอนเดอร์โบลท์อย่างตอน Testing Testing 1, 2, 3 เรนโบว์แดชเมินเฉยและทำตัวตลกแม้ว่าสิ่งที่กำลังติวเป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก๊ดีนี่ก็ไม่ได้แสดงว่าทไวไลท์มีความสามารถไม่พอ แต่เป็นเพราะวิธีการสอนของเธอไม่เหมาะกับโพนี่อย่างเรนโบว์แดช

สำหรับเรื่องบทเรียนชีวิตนั้น เธอสอนให้แก่สตาไลท์ กลิมเมอร์ผู้เคยหลงผิด หลังจากทำความเข้าใจกัน เธอพาสตาไลท์ไปยังอาณาจักรคริสตัลด้วย ซึ่งทำให้สตาไลท์พบกับเพื่อนเก่าอย่างซันเบิร์สท์ และอีกทั้งยังร่วมกับเธอช่วยปกป้องอาณาจักรคริสตัล ความสามารถในการเป็นครูชีวิตแก่สตาไลท์ก็สำเร็จเช่นกัน สตาไลท์กับเหล่าอดีตตัวร้ายอีกสามสามารถช่วยเธอกับคนอื่นๆจากคริสซาลิสได้ อีกทั้งทำให้เผ่าพันธุ์เชนจ์ลิ่งกลายเป็นมิตร พิสูจน์ถึงความสามารถในการเป็นครูชีวิตแก่ผู้เคยหลงผิดอย่างสตาไลท์ กลิมเมอร์

ความอยากเป็นครูของทไวไลท์แสดงออกมาอย่างมากที่สุดในช่วงซีซั่นแปด เธอเปิดโรงเรียนแห่งมิตรภาพโดยมีจุดประสงค์ในการสอนเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพแก่เผ่าพันธุ์ต่างๆและนำกระจายทั่วเอเควสเทรียและนอกเหนือ เธอทำหน้าที่เป็นผ.อ. โดยมีเพื่อนของเธอกับเธอเองด้วยเป็นครูสอน เมื่อมาถึงยุคที่เธอต้องรับช่วงต่อเป็นผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรีย ทไวไลท์จึงมอบตำแหน่งผ.อ.นี้แก่สตาไลท์

ในอนาคตอันใกล้หลังขึ้นมาปกครองเอเควสเทรีย ทไวไลท์กลายมาเป็นเจ้าของโรงเรียนยูนิคอร์นผู้มีพรสวรรค์ และสอนลัสเตอร์ดอน ศิษย์เอกของเธอให้ตระหนักถึงความสำคัญของมิตรภาพ สิ่งนี้เป็นเหมือนภาพสะท้อนที่องค์หญิงเซเลสเทียเคยสอนทไวไลท์ในเรื่องเดียวกัน

เวทย์มนตร์

ทไวไลท์ สปาร์คเคิลมีความสามารถอันโดดเด่นและพรสวรรค์ในเวทย์มนตร์ ถึงขั้นทำให้องค์หญิงเซเลสเทียประทับใจเลยทีเดียวตั้งแต่ตอนก่อนรับเข้ามาเป็นศิษย์ส่วนตัว พระองค์กล่าวว่าไม่เคยเห็นยูนิคอร์นที่มีความสามารถแบบนี้มาก่อน

เวทย์มนตร์โดดเด่นที่ทไวไลท์แสดง
  • ตอน Sonic Rainboom เธอเสกคาถาที่ทำให้โพนี่ที่ไม่ใช่เพกาซัสเดินบนเมฆได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่มีเพียงเพกาซัสเท่านั้นที่ทำได้โดยธรรมชาติ นอกจากนี้เธอยังเสกคาถาที่มอบปีกเหมือนผีเสื้อแก่แรริตี้ที่ทำจาก “ใยบัวและน้ำค้างยามเช้า”
  • ตอน The Best Night Ever เธอเปลี่ยนแอปเปิ้ลให้เป็นรถม้า และเปลี่ยนหนูให้เป็นม้า
  • ตอน Lesson Zero เธอใช้คาถา "อยากได้ ต้องการมัน" เพื่อทำให้ตุ๊กตาเก่าๆขาดๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการของใครก็ตามที่จ้องมองมัน
  • ตอน It's About Time ทไวไลท์ย้อนเวลากลับไปคุยกับตัวตนในอดีตของเธอ
  • ตอน A Canterlot Wedding - Part 2 เธอยิงลำแสงระเบิดด้วยเขาของเธอ และใช้เวทย์มนตร์ทำลายการปลอมตัวของพวกเชนจ์ลิ่ง
  • ตอน Too Many Pinkie Pies เธอบังเอิญเปลี่ยนนกและกบให้กลายเป็นครึ่งส้มครึ่งสัตว์ขณะพยายามเปลี่ยนแอปเปิ้ลให้เป็นส้ม ในตอนเดียวกัน เธอใช้เวทมนตร์เพื่อนำร่างก็อปปี้ของพิ้งกี้พายกลับคืนสู่สระกระจก
  • ตอน The Crystal Empire - Part 2 เธอจำลองเวทย์มนตร์มืดของราชาซอมบร้า เพื่อเผยให้เห็นทางเดินลับที่ซ่อนอยู่ในปราสาทคริสตัล
  • เธอใช้โล่เวทย์มนตร์ในตอน The Return of Harmony Part 2, Ponyville Confidential, MMMystery on the Friendship Express, และ The Cutie Map - Part 2
  • ทไวไลท์เทเลพอร์ตตัวเองครั้งแรกในตอน Friendship is Magic - Part 2 ในตอน The Ticket Master ทไวไลท์ กล่าวว่าเธอไม่รู้ว่าคาถาเทเลพอร์ตจะเกิดขึ้นหลังจากเทเลพอร์ตจากตรอกในโพนี่วิลล์เข้าไปในห้องสมุด ในตอน Secret of My Excess ทไวไลท์เทเลพอร์ตสไปค์หลายครั้งในขณะที่พยายามลบรอยลิปสติกออกจากแก้ม และเทเลพอร์ตพิ้งค์กี้พายจากสถานที่ที่ไม่รู้จักไปยังห้องสมุดโกลเด้นโอ๊กโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่กำลังเทเลพอร์ตสไปค์ ในตอน Dragon Quest ทไวไลท์เทเลพอร์ตตัวเองและตัวอื่นอีกสามตัวเป็นระยะทางไกลพอสมควรด้วยความพยายามอย่างยิ่ง
  • ตอน Magical Mystery Cure เธอร่ายมนตร์ที่ยังไม่เสร็จของสตาสเวิร์ลหนวดงามด้วยความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์แห่งมิตรภาพ ซึ่งนำไปสู่การแปลงร่างของเธอเป็นเจ้าหญิงอลิคอร์น
  • ตอน Castle Mane-ia ทไวไลท์ใช้คาถาหยุดการเคลื่อนไหวของเพื่อนทั้งสี่คนที่วิ่งไปมาในห้องบัลลังก์ขนาดใหญ่โดยไม่หยุดตาหรือปากของพวกเขาไม่ให้ขยับ คาถายังช่วยให้พวกเขาลอยตัวอยู่ในที่ที่ตัวเองอยู่ ไม่ว่าจะอยู่กลางอากาศหรือระหว่างการเคลื่อนไหว ซึ่งช่วยป้องกันการตกลงมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เธอใช้คาถานี้อีกครั้งกับตระกูลฮูฟฟิลด์และแมคโคลต์ในตอน The Hooffields and McColts
  • ตอน It Ain't Easy Being Breezies ทไวไลท์ใช้มนต์สะกดเพื่อเปลี่ยนตัวเองและเพื่อนๆ ให้เป็นบรีซซี่เพื่อช่วยพาครอบครัวบรีซซี่กลับบ้าน
  • ตอน Amending Fences ทไวไลท์ใช้คาถาแปลงร่างตัวเองเป็นภาพประกอบหนังสือเพื่อพยายามพูดคุยกับมูนแดนเซอร์
  • ตอน The Hooffields and McColts ทไวไลท์ใช้มนต์สะกดเพื่อขยายเสียงของเธอเพื่อให้ได้รับความสนใจจากทั้งตระกูลฮูฟฟิลด์และแมคโคลต์
  • ตอน The Mane Attraction ทไวไลท์ใช้เขาของเธอเหมือนเครื่องบันทึกวิดีโอเพื่อจับสเวนกัลลอป
  • ตอน Celestial Advice ทไวไลท์สร้างการจำลองผลลัพธ์ที่เป็นไปได้สำหรับสตาไลท์
  • ตอน A Royal Problem ทไวไลท์ใช้คาถาเพื่อคุยกับสตาร์ไลท์ในแคนเทอร์ล็อตในรูปแบบของนักบัลเล่ต์กล่องดนตรี แม้ว่าทไวไลท์จะอ้างว่ายังอยู่ในโพนีวิลล์ก็ตาม
  • ใน Sunset's Backstage Pass ทไวไลท์ใช้เวทย์มนตร์ในรูปแบบก็อปวางเพื่อคัดลอกข้อความในม้วนกระดาษลงบนบันทึกเวทมนตร์ของเธอ
Epic blue and purple ring of magic S2E01

ทไวไลท์ร่ายคาถาป้องกันความล้มเหลวของเธอ ซึ่งใช้ไม่ได้ผลกับเวทมนตร์ของดิสอคอร์ด

แม้ว่าทไวไลท์มีพรสวรรค์ในเวทย์มนตร์ แต่บางครั้งเธอก็ทำพลาดเช่นกัน

  • เมื่อเธอร่ายมนตร์ใส่พาราสไปรท์ ในตอน Swarm of the Century เพื่อให้พวกมันไม่กิน อาหาร พวกมันก็เริ่มบริโภคสิ่งของที่ ไม่ใช่อาหาร และต่อมาก็ทำลายทั้งโพนี่วิลล์
  • เมื่อเธอพยายามช่วยงานเก็บกวาดล้าง ด้วยการให้คันไถเคลื่อนไหวเองด้วยคาถา "มีชีวิตขึ้นมา" แต่เธอก็สูญเสียการควบคุมและก่อความวุ่นวาย
  • ตอน The Return of Harmony Part 1 เธอพยายามย้อนกลับผลกระทบแปลกๆของดิสคอร์ดด้วย "คาถาป้องกันความล้มเหลว" แต่ก็ล้มเหลว
  • ตอน Magic Duel เธอมีปัญหาในการร่ายมนตร์อายุ ซึ่งเธอบอกว่ามีไว้สำหรับ "ยูนิคอร์นระดับสูงสุดเท่านั้น"
  • ตอน Make New Friends but Keep Discord ทไวไลท์ล้มเหลวในการหยุดสมูซด้วยเวทมนตร์ของเธอ
  • ตอน The Cutie Re-Mark - Part 1 ทไวไลท์พยายามหยุดสตาไลท์ กลิมเมอร์ ไม่ให้ร่ายคาถาเดินทางข้ามเวลา แต่คาถาที่เธอร่ายกลับกระเด็นออกไป
  • ตอน The Cutie Re-Mark - Part 2 ทไวไลท์พยายามร่ายเวทย์ป้องกันตัวต่อ หมาป่าทิมเบอร์วูฟ แต่มันก็ไม่ได้ผล
  • ใน My Little Pony The Movie ทไวไลท์ร่ายเวทย์ใส่ทหารองครักษ์ของราชาสตอร์ม แต่มันกระเด้งออกมาจากเกราะป้องกันของพวกเขา และจบลงด้วยการทำลายส่วนของสะพานที่เธอและเพื่อนๆ ยืนอยู่


Twilight confidently using her magic S2E24

เขาของทไวไลท์เรืองแสงสีชมพูเข้ม

ในซีซันแรก เขาของทไวไลท์มักจะเรืองแสงสีขาวหรือสีเดียวกับขนของเธอ และสิ่งของที่เธอควบคุมจะเรืองแสงสีขาว ลาเวนเดอร์ หรือชมพู เมื่อเธอควบคุมสิ่งของหลายๆชิ้นในคราวเดียวจะใช้สีอื่นๆอีกหลายสีด้วยเช่น ในฉากค้นหาอัญมณีใน A Dog and Pony Show เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 3ของซีซันที่สอง เวทมนตร์ของทไวไลท์จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสม่ำเสมอโดยใช้แสงสีชมพู แม้ว่าในฉากย้อนอดีตใน The Point of No Return จะเป็นสีขาวก็ตาม

ครอบครัว

ดูเพิ่มเติม: ตระกูลสปาร์คเคิล

พ่อกับแม่

บทความหลัก: ทไวไลท์เวลเวท กับ ไนท์ไลท์
Twilight Sparkle parents S1E23

พ่อแม่ของทไวไลท์ ทไวไลท์เวลเวท กับ ไนท์ไลท์

พ่อแม่ของทไวไลท์ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน The Cutie Mark Chronicles ในฉากย้อนอดีต พวกเขาพยักหน้าอย่างตื่นเต้นเมื่อองค์หญิงเซเลสเทียเสนอที่จะให้ทไวไลท์เป็นลูกศิษย์ของพระองค์ ต่อมาพวกเขาก็ปรากฏตัวในตอน A Canterlot Wedding - Part 2, Magical Mystery Cure และ The Crystalling - Part 2 ในฐานะเชื้อสายตระกูลในเหตุการณ์สำคัญต่อตระกูลสปาร์คเคิล

แม่ของทไวไลท์ สปาร์เคิล มีลักษณะคล้ายกับโพนี่รุ่นที่ 1 ชื่อTwilight ใน My Little Pony Special โดยมีทรงผมที่คล้ายกับทไวไลท์ ส่วนพ่อของทไวไลท์ สปาร์เคิลมีลักษณะคล้ายกับม้าโพนี่ผู้หญิงรุ่นที่ 1 ชื่อไนท์ไลท์

ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์

Filly Twilight and Shining hug S2E25

ทไวไลท์กับพี่ชายของเธอ ไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ในวัยเด็กทั้งคู่

ทไวไลท์เผยว่าเธอมีพี่ชายชื่อไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ ในตอน A Canterlot Wedding - Part 1 เธอร้องเพลง B.B.B.F.F. (Big Brother Best Friend Forever/พ.ก.พ.ก.ต หรือ พี่กับน้องเพื่อนกันตลอดไป) ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับความผูกพันอันแน่นแฟ้นของพวกเขาและความรู้สึกคิดถึงเขาหลังจากที่ย้ายไปโพนี่วิลล์ ไชน์นิ่ง อาร์เมอร์แม้เขาจะยุ่งมากกับหน้าที่ต่างๆในอาณาจักรคริสตัล แต่เขาก็ยังมีเวลาให้กับน้องสาวของเขา ซึ่งเขาเรียกว่า "ทไวลี่" ในตอน Sparkle's Seven เผยว่าทั้งสองมีการแข่งขันกันอย่างเป็นมิตรในรูปแบบของการแข่งขัน "สูงสุดแห่งสายเลือด" ตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก

สไปค์

Spike tearfully hugging Twilight S9E24

ทไวไลท์กอดสไปค์

ทไวไลท์รับเลี้ยงน้องชายบุญธรรมตัวนี้ตามที่กล่าวไว้ในตอน Sparkle's Seven ตลอดทั้งซีรีส์ สไปค์ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหมายเลขหนึ่งของทไวไลท์ โดยส่งจดหมายถึงองค์หญิงเซเลสเทียเพื่อส่งบทเรียนมิตรภาพของเธอ ในตอน Sparkle's Seven สไปค์รู้สึกว่าถูกละเลยในการแข่งขัน"สูงสุดแห่งสายเลือด" และบอกกับฟลัตเตอร์ชายว่าเขาเห็นทไวไลท์และไชน์นิ่งอาร์มเมอร์เป็นพี่น้องกันเสมอมา ในตอนจบของตอนนี้ ไชน์นิ่งอาร์มเมอร์และทไวไลท์มอบมงกุฎ"สูงสุดแห่งสายเลือด"ให้กับสไปค์ เนื่องจากทั้งคู่มองว่าสไปค์เป็น"น้องชายคนเล็กที่พวกเขามีมาโดยตลอด"

องค์หญิงเคเดนซ์

Twilight and Cadance reunite S02E26

ทไวไลท์เข้ากอดเคเดนซ์

ทไวไลท์เปิดเผยว่าองค์หญิงเคแดนซ์เป็นพี่เลี้ยงของเธอตอนที่เธอยังเด็ก และทั้งสองก็ร้องเพลงเป็นการทักทายกันว่า "แสงแดด แสงแดด เต่าทองตื่นแสงแดด ตบกีบเท้า สะบัดก้นเราไปมา!" ในตอนจบของ A Canterlot Wedding - Part 2 ทไวไลท์กลายเป็นน้องสะใภ้ของเคแดนซ์เมื่อเคแดนซ์แต่งงานกับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ ทไวไลท์สนุกกับการใช้เวลากับเคแดนซ์อย่างที่เห็นในตอน Three's A Crowd เมื่อเคแดนซ์มาเยี่ยมเธอ

เฟลอรี่ ฮาร์ท

Twilight 22 S7E3

ทไวไลท์กับหลานของเธอ เฟลอรี่ฮาร์ท

ในตอน The One Where Pinkie Pie Knows เคแดนซ์และไชน์นิ่งอาร์มเมอร์สร้างความประหลาดใจให้ทไวไลท์ด้วยการบอกว่าพวกเขากำลังจะมีลูกและเธอกำลังจะเป็นน้า เธอได้พบกับเฟลอรี่ ฮาร์ท หลานสาวคนใหม่ของเธอในตอนเริ่มต้นของซีซั่นที่ 6 และตกใจเมื่อพบว่าเธอเป็นอลิคอร์น อย่างไรก็ตามไม่นานนัก ทไวไลท์ก็หลงรักเฟลอรี่ ฮาร์ทมากในตอนจบของตอน The Crystalling - Part 2 และตั้งตารอที่จะเห็นเธอในตอน The Times They Are A Changeling

ในตอน A Flurry of Emotions ทไวไลท์พยายามใช้เวลาอยู่กับเฟลอรี่ ซึ่งทำให้ตารางงานที่ยุ่งวุ่นวายของเธอต้องยุ่งไปด้วย

บอลลูนลมร้อน

บทความหลัก: บอลลูนทวิงกลิ้ง
Twilight Sparkle and Spike in balloon S1 Opening

ทไวไลท์กับสไปค์ในบอลลูนลมร้อน

ทไวไลท์นั่งบอลลูนลมร้อนสีม่วงในฉากเริ่มต้อนของบทเพลงเปิด และใช้บอลลูนเดียวกันบินไปกับเพื่อนๆที่คลาวส์เดลล์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันของเรนโบว์แดชในตอน Sonic Rainboom ในตอน The Return of Harmony Part 2 เหล่าโพนี่ใช้บอลลูนนี้บินไปกับฟลัตเทอร์ชาย เพื่อจับเรนโบว์แดชที่ถูกล้างสมอง บอลลูนนี้ยังถูกใช้ในโอกาสอื่นๆอีกด้วย


มงกุฏ

ในสามซีซั่นแรกของซีรีส์ ทไวไลท์มีมงกุฎที่บรรจุธาตุแห่งเวทย์มนตร์ เธอได้รับมงกุฎนี้ในตอน Friendship is Magic, part 2 เมื่อเธอเอาชนะไนท์แมร์มูนได้ มงกุฎประดับด้วยแร่ไพลินและอัญมณีรูปดาวสีแดงอมม่วงที่มีรูปร่างเหมือนคิวตี้มาร์คของทไวไลท์

หลังจากที่ทไวไลท์กลายเป็นเจ้าหญิงในตอน Magical Mystery Cure เธอสวมมงกุฎอีกอันที่มีองค์ประกอบของเวทมนตร์ฝังอยู่ มงกุฎนี้เป็นสีทองอ่อน ไม่มีไพลินอีกต่อไป และวางเป็นแนวนอนไม่ใช่แนวตั้งบนหัวของทไวไลท์ มงกุฎนี้ปรากฏอีกครั้งในตอน Shadow Play - Part 2 และตอน The Beginning of the End - Part 1

ทไวไลท์สละมงกุฎของเธอเมื่อเธอและเพื่อนๆคืนธาตุแห่งความปรองดองแก่พฤกษาแห่งความปรองดอง ในตอน Princess Twilight Sparkle - Part 2 ในงานยกตะวันขึ้นผัน เธอสวมมงกุฎใหม่ซึ่งมีสีทองเฉดเดียวกันแต่ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากมงกุฎธาตุแห่งเวทมนตร์ของเธอ มงกุฎนี้มีรูปร่างแบบ"ดั้งเดิม"มากขึ้น โดยแต่ละจุดประดับด้วยอัญมณีแมเจนต้าขนาดเล็ก มงกุฎนี้จะกลายเป็นมงกุฎประจำของเธอนับจากนั้นเป็นต้นมา ดังที่เห็นในตอน Trade Ya!, Equestria Games, Twilight's Kingdom - Part 1 และ Princess Spike

ในมายลิตเติลโพนี่เดอะมูฟวี่ ทไวไลท์ใส่มงกุฏที่ต่างจากเดิม และมันถูกทำลายด้วยการขย้ำทิ้งโดยเทมเปสท์ ชาโดว์

ในตอนThe Last Problem เมื่อทไวไลท์กลายเป็นผู้ปกครองแห่งเอเควสเทรียผู้ใหม่ เธอได้รับมงกุฏที่เป็นการผสมกันขององค์หญิงเซเลสเทียกับองค์หญิงลูน่า

ทไวลิเคนหรือไม้เท้าทไวไลท์ ไม่มีชื่อในซี่รี่ส์แต่มีใน เกมการ์ดสะสม ของ Enterplay เป็นไม้ที่ดิสคอร์ด มอบให้กับเธอในตอน Princess Twilight Sparkle - Part 2 เพื่อล้อเลียนสถานะ "เจ้าหญิง" ของเธอ ต่อมาทไวลิเคนปรากฏตัวในตอน Slice of Life เมื่อเลม่อนฮาร์ททิ้งมันไว้ในทางของสถานีดีเจเคลื่อนที่ของ DJ Pon-3 ตอน The Gift of the Maud Pie แรริตี้พิจารณามันเป็นตัวเลือกสำหรับของขวัญให้กับม็อด ตอน A Royal Problem เมื่อเดิร์บปี้ใช้มันในความฝันอีกทั้งใน มังงะ A Day in the Life of Equestria อีกด้วย

การปรากฏตัว

ดูเพิ่มเติม: ตารางตัวละครที่ปรากฏ
Legend
Y ถูกโฟกัสเด่นๆอย่างน้อยในฉากใดฉากหนึ่ง
S ถูกโฟกัสเป็นฉากๆหนึ่ง โดยที่ไม่มีคำพูดหรือคำบรรยายจากตัวละครตัวนั้น
B ปรากฏเป็นตัวประกอบและไม่ได้ถูกโฟกัสมากนัก
F ปรากฏในรูปแบบของภาพแฟลชแบ็คหรือไม่ก็จินตนาการ
P ไม่ได้ปราฏเป็นตัวเป็นตน แต่มาเป็นรูปหรือรูปภาพ
M ไม่ปรากฏตัว แต่ถูกกล่าวถึงไม่ก็ชื่อหรือย่างอื่น
N ไม่ปรากฏตัวและไม่ถูกกล่าวถึง
ซีซั่น 1
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y
ซีซั่น 2
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y Y N Y Y Y Y Y Y N Y Y Y Y Y Y N Y Y Y Y Y Y Y
ซีซั่น 3
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
Y Y Y S Y N Y N Y Y Y Y Y
ซีซั่น 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y Y N Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y N Y S N Y Y Y Y Y Y
ซีซั่น 5
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y M Y N Y Y Y Y Y Y Y Y N Y M S Y Y Y Y Y Y Y Y
ซีซั่น 6
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y P N Y Y Y Y Y Y Y Y Y N Y Y Y N Y Y Y Y N Y Y Y
ซีซั่น 7
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y N Y N P N N Y Y N B Y Y P M N Y Y N Y Y Y Y Y
ซีซั่น 8
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y Y P Y Y Y Y N Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y Y
ซีซั่น 9
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
Y Y Y Y Y N Y P Y M M B Y Y Y Y Y Y Y Y N Y M Y Y Y

บทพูด

"โพนี่ทุกตัวในเมืองนี้เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว! รู้มัยว่ามันคือเวลาอะไร?!"
Friendship is Magic, part 1
"เอาล่ะไนท์แมร์มูน เมื่อธาตุเหล่านั้นถูกจุดโดย...เหล่าประกาย ที่อยู่ในใจขอพวกเราทุกตัว มันจะกำเนิดธาตุที่หก:ธาตุแห่ง...เวทย์มนตร์!"
Friendship is Magic, part 2
"ฮี่ฮี่!น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ เราจะทำตามทุกอย่างในหนังสือ และมันจะทำให้ปาร์ตี้ชุดนอนของฉันมีความสนุกอย่างเป็นทางการ"
Look Before You Sleep
"ฉันกำลังวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ฉันกำลังสำรวจพิ้งค์กี้พายหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ "พิ้งค์กัส พายคัส" ในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ"
Feeling Pinkie Keen
"โพนี่ทุกๆตัวจากทุกๆที่ย่อมมีจุดเชื่อมโยงแสนวิเศษและมหัศจรรย์กับเพื่อนของเธออยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้พบกันมาก่อนก็ตาม ถ้าเรายังรู้สึกเหงาและกำลังตามหาเพื่อนแท้ แค่ลองมองที่ท้องฟ้า ไม่แน่ บางทีเราและเพื่อนที่ดีที่สุดในอนาคตของเรากำลังมองสายรุ้งเส้นเดียวกันอยู่ก็ได้"
The Cutie Mark Chronicles
"ไม่อยากเชื่อเลยว่าเรามาถึงแล้ว! เหมือนที่คิดไว้เลย สิ่งภายหน้าตรงนี้จะทำให้มันเป็นคืนที่ดีที่สุด!"
The Best Night Ever
"ระวัง! ทอมเสด็จแล้ว!"
The Return of Harmony Part 2
"พวกเราได้เรียนรู้ว่ามิตรภาพไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเสมอไป แต่ก็คุ้มค่าที่จะสู้เพื่อมัน!"
— The Return of Harmony Part 2
"ไม่เป็นไร ต้องไม่เป็นไร มันยังไม่หมดวันเลยนะ แต่มันใกล้หมดแล้ว! [คร่ำครวญ] มันจบสิ้นลงแล้ว! ความทรงจำที่โพนี่วิลล์! ทั้งหมดที่เรียนพิเศษ! ไม่ ไม่ นักเรียนดีเด่น เธอทำได้ โอ๊ย! แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ? ได้สิ เธอแค่ต้องหาเรื่องไง หาเรื่องเอง!"
Lesson Zero
"ฉันต้องรายงานเรื่องนี้ต่อองค์หญิงให้เสร็จสิ้นเพื่อสรุปรายงานอื่นๆ ทั้งหมดของฉันต่ออวค์หญิง"
Baby Cakes
"การอ่านเป็นสิ่งที่ใครๆสามารถสนุกได้ แค่เธอต้องลองมัน"
Read It and Weep
"แหม บางทีเธอควรเปลี่ยนชื่อเป็น"เจ้าหญิงเจ้ากี้เจ้าการ""
A Canterlot Wedding - Part 1
"มีบางอย่างบอกฉันว่ากำลังจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น"
Magical Mystery Cure
"เมื่อไม่นานมานี้ อาจารย์และผู้ฝึกสอนของฉัน องค์หญิงเซเลสเทียส่งฉันให้มาอยู่ที่โพนี่วิลล์ ท่านส่งฉันให้มาเรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากสนใจสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้วันนี้ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าฉันคงไม่มายืนอยู่ ณ ตรงนี้หรอกหากไม่ใช่เพราะมิตรภาพที่สร้างมากับพวกเธอ พวกเธอแต่ละตัวสอนมิตรภาพบางอย่างให้แก่ฉัน และนี่้เองฉันจึงยินดีเสมอ วันนี้ฉันขอลงนามว่าฉันคือโพนี่ที่โชคดีที่สุดในเอเควสเทรีย ขอบคุณนะเพื่อนๆ ขอบคุณนะโพนี่ทุกตัว!"
— Magical Mystery Cure
"แค่เพราะว่าฉันมีมงกุฏกับปีกพวกนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่าฉันจะเป็นผู้นำที่ดีหรอกนะ!"
My Little Pony Equestria Girls
"ใช่ แต่ฉันก็เห็นในสิ่งที่เธอทำที่นี้โดยไม่มีเวทย์มนตร์ เอเควสเทรียจะหาวิธีเอาตัวรอดได้แม้จะไม่มีธาตุแห่งความปรองดองจากฉัน แต่โลกแห่งนี้อาจจะไม่ถ้าฉันยอมให้มันตกอยู่ในกำมือของเธอ ฉะนั้นเอาเลย ทำลายกระจกนี่ซะ ยังไงเธอก็ไม่ได้มงกุฏนี้หรอก!"
My Little Pony Equestria Girls
"มงกุฏชิ้นนี้อาจจะครอบอยู่บนหัวของเธอนะ ซันเเซ็ต ชิมเมอร์ แต่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้ เพราะว่าเธอไม่ได้ครอบครองเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังที่สุด: เวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ!"
My Little Pony Equestria Girls
"บทบาทใหม่ของฉันในเอเควสเทรียแม้อาจจะหมายถึงฉันต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเดิม และมิตรภาพของพวกเราอาจจะถูกทดสอบมากขึ้น แต่มันจะไม่มีวัน "ไม่มีทาง" แตกหัก"
Princess Twilight Sparkle - Part 2
"เอเคเยียร์ลิ่งและแดริ่งดูเป็นคนๆเดียวกันอย่างงั้นหรอ! หัวฉันระเบิดไปเลยนะเนี่ย!"
Daring Don't
"รู้มั้ย เลือกโดยการไม่เลือกไม่ใช่การตัดสินใจเลย"
Rainbow Falls
"เดี๋ยวก่อนนะ ฉันว่าฉันเข้าใจแล้ว เธอเอาแต่บอกว่าเธอทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่เราทุกคนกลับบอกว่าเธอไม่ รู้ไหมใครผิดหวังในตัวเธอสไปค์ เธอและมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถทำให้มันถูกต้องกับเธอได้อีกครั้ง จะทำยังไงล่ะ สไปค์”"
Equestria Games
"ในฐานะเจ้าหญิง ฉันเชื่อว่าฉันมีอำนาจในการกระจายเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพทั่วเอเควสเทรีย! นั่นคือฐานะที่ฉันมีต่อโลกของเรา ฐานะที่ฉันเลือกที่จะมี! แต่ฉันไม่ได้เอาชนะทิเร็คด้วยตัวเองตัวเดียว มันใช้พวกเราทุกตัวในการปลดล็อกกล่องใบนั้น!"
Twilight's Kingdom - Part 2
"เอาล่ะ สาวๆ มาลุยกัน! มิตรภาพคือเวทย์มนตร์!"
My Little Pony Equestria Girls: Rainbow Rocks
"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความตึงเครียดทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าฉัน และฉันก็ไม่เข้าใจเลย ฉันคงเป็นคนหนึ่งที่มีคำตอบทั้งหมด และทั้งหมดที่ฉันทำตั้งแต่ฉันมาถึงที่นี่ก็ทำให้พวกเธอผิดหวัง"
My Little Pony Equestria Girls: Rainbow Rocks
"หา! ฉันคือแพนเค้ก... ไม่ใช่ ฉันตื่นแล้ว!"
Castle Sweet Castle
"เตรียมตัวให้พร้อมโพนี่ทุกตัว! หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว!"
Tanks for the Memories
"โอเค ไม่มีปัญกา แค่วางฟางในแอปเปิลและจากนั้นก็กินเทียน หึม"
Princess Spike
"เอาล่ะ สไปค์ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เจ้าหญิงสามารถทำได้คือการตระหนักว่าตัวเองทำผิดพลาดและต้องแก้ไขมัน"
— Princess Spike
"นี่คือความฝันของพวกเธอ! อะไรก็ตามที่พวกเธอทำได้ในความฝัน ตอนนี้เธอทำได้เลย!"
Do Princesses Dream of Magic Sheep?
"ทุกอย่างที่เราทำในอดีต - แม้แต่เรื่องเล็กที่สุด - สามารถสร้างก้อนหิมะที่ก่อให้เกิดความหายนะในอนาคตได้!"
The Cutie Re-Mark - Part 2
"เด็กตัวนี้เป็นอลิคอร์นหรอ?!"
The Crystalling - Part 1
"ช้อนซุป ส้อมสลัด ช้อนพาสต้า ไม้เก็บสตรอเบอร์รี่ ฉันเริ่มคิดว่ารองลงมาจากมิตรภาพแล้ว ความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการจัดวางเครื่องเงินอย่างเหมาะสม!"
No Second Prances
"ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าฉันรู้จักใครบางคนที่ยินดีจะจัดการส่งสินค้านี้ให้กับคุณ ฉันกำลังพูดถึงตัวเอง อ้อ ขอฉันจัดการหน่อยนะ!"
The Saddle Row Review
"ตอนนี้ฉันคือเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพแล้ว และโพนี่หลานตัวต่างกำลังมาหาฉันเพื่อช่วยแก้ปัญหาของพวกเขา แต่มันเรื่องโง่เขลาสำหรับฉันที่คิดว่าจะมีคำตอบให้ทั้งหมด สิ่งที่ฉันมีคือเพื่อนที่ดีที่คอยช่วยฉันตามหาพวกมัน"
My Little Pony Equestria Girls: Rainbow Rocks - The Mane Event
"ฉันจะแค่หวังว่าสาวๆพวกนั้นทำให้ซันเซ็ต ชิมเมอร์ยุ่ง ยุ่งมาๆ"
Sunset Shimmer's Time to Shine
"ฉันขอโทษที่ฉันมาที่นี่ช้าไป! ฉันไม่ได้ข้อความของเธอจนะกระทั่งตอนนี้ที่ฉันเพิ่งออกมาจากวังวนเวลา และเอาจริงๆนะ มันเป็นสิ่งที่แปลกที่สุดที่เคยเกิดขึ้นสำหรับฉันเลย!"
My Little Pony Equestria Girls: Friendship Games
"ในฐานะเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ฉันพยายามเป็นตัวอย่างแก่ทั่วเอเวสเทรีย แต่วันนี้ สไปค์เองเป็นผู้ที่สอนฉันว่าเพื่อนใหม่สามารถมาได้ทุกที่ ฉันว่าโพนี่ทุกตัวยังคงมีเรื่องที่ให้เรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพ รวมถึงฉันด้วย! และเมื่อสไปค์กล่าวว่าธอแรกซ์เป็นเพื่อนฉันแล้ว ถ้าเช่นนั้นเขาก็เป็นเพื่อนของฉันด้วยเหมือนกัน!"
The Times They Are A Changeling
"ฉันอาจไม่รู้ว่าอะไรจะรอคอยเธอต่อจากนี้ แต่ไม่ว่าจะอะไร ฉันสัญญาว่าฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อเธอเสมอ"
— พูดต่อ สตาไลท์ กลิมเมอร์, Celestial Advice
"ของขวัญที่เหมาะสำหรับพิ้งค์กี้พายต้องเป็น เอ - มีความพิเศษ, บี - เข้ากับนิสัยของเธอ, ซี - เป็นอาหาร แล้วอาหารที่พิเศษคืออะไรนะ คัพเค้กหรอ? ไม่ คุกกี้? ไม่ พาย? ขนมอบ? พุดดิ้ง? [หายใจลึก] เดี๋ยวก่อนนะ! พุดดิ้งงงงงงงงงงงงง! "
My Little Pony Best Gift Ever
"พอได้แล้ว! เพราะพวกแกฉันเกือบหลงทาง แต่ทุกสายพันธุ์ที่นี่เตือนฉันถึงพลังที่แท้จริงของมิตรภาพ ในโลกนี้จะยังมีความมืดเสมอ แต่ก็จะมีผู้ที่ค้นพบแสงสว่างด้วยเช่นกัน เสาหลักรู้เรื่องนี้ พวกเขาถึงได้สร้างธาตุแห่งความปรองดอง ธาตุแสดงให้ฉันและเพื่อนๆเห็นว่ามิตรภาพแข็งแกร่งแค่ไหน เราช่วยกันนำความปรองดองมาสู่เอเควสเทรีย แต่มันย่อมมีงานให้ทำเพิ่มเสมอ ด้วยเหตุนี้เราจึงสอนผู้อื่นเรื่องเวทย์มนตร์แห่งมิตรภาพ ผู้อื่นที่จะสานต่อภารกิจของเราหลังจากเราจากไปแล้ว ตอนนี้ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ธาตุเหล่านั้นเป็นแค่สัญลักษณ์ เวทย์มนตร์ที่แท้จริงอยู่ที่นี่เสมอ และยิ่งเข้าใจว่ามิตรภาพทรงพลังมากแค่ไหน เราจะแกร่งขึ้นแค่นั้น ไปด้วยกัน!"
The Ending of the End - Part 2
"นี่คือจุดจบของยุคยุคหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิม"
— ทไวไลท์กับเพื่อนเห็นพ้องต้องกัน The Ending of the End - Part 2
"บางทีสักวันพวกเราอาจจะสู้กัน บางทีแกอาจพูดถูก แต่เมื่อวันนั้นมาถึง พวกเราจะทำในสิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอด พวกเราจะปรนนิบัติแก่กันด้วยความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความภักดี ความเอื้อเฟื้อ และความขำขัน และพวกเราจะเชื่อว่าเวทย์มนตร์เล็กๆน้อยๆจะเกิดขึ้น และมิตรภาพของพวกเราจะนำมาสู่ชัยชนะ"
— โต้กลับดานุ Friendship is Magic Issue 102
"บางครั้งมิตรภาพเป็นเรื่องที่ยาก และใช้ความทุ่มเทในการรักษามัน แต่เมื่อไม่มีเพื่อนมันจะยากลำบากกว่านี้อีก"
— ทไวไลท์ สปาร์คเคิลในอนาคตอันใกล้กล่าวแก่ลัสเตอร์ดอน The Last Problem

แกลเลอรี่

ภาพแกลเลอรี่ของ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล

ดูเพิ่มเติม

อ้างอิง

  1. My Little Pony Humanized Wallpaper. DeviantArt (2013-01-04). Retrieved on 2015 มิถุนายน 26.
  2. Timeline Photos. Facebook (2015-06-26). Retrieved on 2015 มิถุนายน 26.
  3. Lauren Faust (2013-11-29). Twilight became Twilight. Twitter. Retrieved on 2013 ธันวาคม 2.
  4. Lauren Faust via Twitter. Retrieved on 2013 มีนาคม 15.
  5. Interview with M.A. Larson. Midwestria 2012 (2012-09-22). Retrieved on 2012 ตุลาคม 1.
  6. Lauren Faust (2012-06-04). Comment on Help the Bronycon Documentary. Retrieved on 2012 พฤศจิกายน 11.
  7. Sabrina Alberghetti (2013-02-18). DeviantArt: Comment on *Sibsy's profile. Retrieved on 2013 ธันวาคม 13. “Yeah, she's a little taller.”
  8. A selection of trading cards including ones of Princess Cadance and Shining Armor. Retrieved on 2013 กุมภาพันธ์ 8.
  9. MLP Comic - English. Imgur (2017-03-23). Retrieved on 2017 พฤษภาคม 27.
  10. My Little Pony Wedding - Meet the Ponies. Retrieved on 2013 ธันวาคม 7.
  11. Twilight Sparkle (2011-04-10). Retrieved on 2013 ธันวาคม 7.
  12. Brand Licensing in Europe's Twilight Sparkle Derp?. Equestria Daily (2012-10-17). Retrieved on 2012 พฤศจิกายน 2.
  13. Jayson Thiessen (2012-12-19). Twitter / goldenrusset: @reversalmushroo I was not .... Retrieved on 2012 ธันวาคม 20.
  14. Twilight Sparkle Earns Her Wings and Becomes a Princess in Special February 16 Coronation Episode of ‘My Little Pony Friendship is Magic’ on The Hub TV Network. Discovery Press Web (2013-01-30). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
  15. Hold your horses, 'My Little Pony' fans: We've got a new 'Equestria Girls' trailer -- EXCLUSIVE. EW.com (2013-06-07). Retrieved on 2013 มิถุนายน 7.
  16. 'My Little Pony: Friendship Is Magic' exclusive: Twilight's becoming a princess!. EW.com (2013-01-29). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
  17. HubTVNetwork: RT to all of Equestria: .... Twitter (2013-01-29). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
  18. Timeline Photos. Facebook (2013-01-29). Retrieved on 2013 มกราคม 31.
  19. Trixie and Twilight - The Magic of Friendship. DeviantArt (2012-12-02). Retrieved on 2015 มีนาคม 5.
  20. My Little Pony (2015-03-04). Timeline Photos. Facebook. Retrieved on 2015 มีนาคม 5.
Advertisement