ราชินีคริสซาลิส | |
---|---|
ประเภท | เชนจ์ลิ่ง มนุษย์ (สินค้า, แอพ และ งานศิลปะ เอเควสเทรียเกิร์ล)[1] |
เพศ | หญิง |
ที่อยู่ | ที่ซ่อนของ โกรกรา (S9E1 ถึง S9E24) อาณาจักรเชนจ์ลิ่ง (S2E26 ถึง S6E26) |
อาชีพ | ราชินีฝูง เชนจ์ลิ่ง (อดีต) |
ลิ้งค์เพิ่มเติม |
|
ข้อมูลเพิ่มเติม | |
---|---|
สีตา | ¤ สีสรรค์กลาง กับ โอปอลล์เทาเข้ม เป็นรูม่านตา |
สีแผงคอ | ซีลูรีนเข้ม |
เปลือกตัว | เทาเข้มมาก |
กระดอง | ¤ ไล่โทนสีจาก น้ำเงินขั้วโลกเข้ม ไปจนถึง เขียวกลาง |
เปลือกตา | โอปอลล์เข้มมาก |
ออร่าเวทย์มนตร์ | เขียวยอดเยี่ยม |
ชื่อเล่น | แคลกเกิล โคเซท, สนูคัมส์, Cr (The Periodic Table of My Little Pony) |
ครอบครัว | เชนจ์ลิ่ง (ลูกๆ) |
คิ้วตี้มาร์ค![]() (ตอนที่ปลอมตัวเป็นองค์หญิงเคเดนซ์) ![]() (ชอทนึง ใน S2E26) ![]() (ตอนที่ปลอมตัวเป็นแอปเปิลแจค) | |
เสียงพากย์ | แคธลีน บาร์ (อังกฤษ) ณัฐฐา หิรัญสถิตย์ (ไทย ซีซั่น 2-6) ชิดชนก แย้มมา (ไทย ซีซั่น 8-9) ลี ซีออน (เกาหลี) นิคิ จอจาคาเคา (กรีก) เการิ นาซูกะ (ญี่ปุ่น) จอนนา เวกร์ซีนอฟสกา-ซีบินสกา (โปแลนด์) เซซิเลีย เลมส์ (โปรตุเกสบราซิล) เฟเบียนนี่ รอเลียกซ์ (ฝรั่งเศส) โอลีน่า บลินนีโคว่า (ยูเครน, ซีซั่น 2) นาทัลยา ยาโรเชนโค (ยูเครน, ตั้งแต่ซีซั่น 5) ทันย่า คาฮาน่า (เยอรมัน) ดาร์ย่า โฟลโลวาร์ (รัสเซีย) แอนคา ซิกมิรีน (โรมาเนีย) อิริน่า อินดิโก (สเปนลาติน) มารีน่า โทเวซ (อิตาลี) ไทเมีย ซาจิ (ฮังการี) ตอนที่ปลอมตัวเป็นแคเดนซ์: ลี ซีออน (เกาหลี) |
เสียงร้อง |
คิร่า พริมเค (เยอรมัน) มิเฮล่า เกอร์แดน (โรมาเนีย) |
Queen chysalis หรือ ราชินีคริสซาลิส เป็นตัวร้ายหลักในซีรี่ส์ เธอเป็นผู้นำเหล่ากองทัพเชนจ์ลิ่ง โดยพวกมันก็นับถือเธอเป็นแม่ ทั้งนี้เพราะว่าเธอเป็นเชนจ์ลิ่งตัวเดียวที่ตัวใหญ่ที่สุด และมีความฉลาดที่สุด มีความสามารถในการปลอมตัวเป็นใครก็ได้เหมือนกับกองทัพของเธอ มีอายุประมาณ 1000 ปี ตอนที่ยังกำเนิดมาใหม่ๆ เธอและกองทัพยังไม่มีรูตามร่างกาย เป้าหมายของเธอคือ เมื่อมีความรักและความปรองดองอยู่ที่ไหน เธอจะไปโจมตีและไปดูดกลืนความรักยังที่นั่นเพื่อนำมาเป็นอาหาร
ประวัติและเรื่องราว[]
1000 ปีที่แล้ว[]
คอมมิค FIENDship is magic เล่ม 5[]
มีต้นไม้ต้นหนึ่งออกผลลูกโอ๊กเน่าออกมา และก็ตกลงไปในหลุมข้างๆ ที่อยู่ใกล้สุสาน โดยหลุมนั้นเชื่อมต่อกับถ้ำที่มีบ่อน้ำประหลาดสีเขียว หลังจากตกไป ลูกโอ๊กเน่าก็ค่อยๆโต กลายเป็นต้นไม้กินเนื้ออันน่ากลัวและได้กินแมลงที่อยู่แถวๆนั้นกับซากกระดูกของสิ่งมีชีวิตที่เคยมาพบจุดจบกับที่นี่ ทั้งนี้แมลงและกระดูกที่กินไปนั้นทำให้หลอมรวมกลายเป็นสิ่งมีชีวิตภายในต้นไม้ที่รอคอยการถูกปลดปล่อย ต่อมา starswirl the beard เดินเข้ามาสำรวจภายในถ้ำ และถูกแมลงในถ้ำนั้นกัด starswirl รู้สึกว่าถ้ำนี้

โอ๊กกลายพันธุ์
อันตรายเพราะมีแต่แมลงกัดเจ็บ เขาจึงทำป้ายเตือนว่าอย่าเข้าไป แต่หารู้ไม่ว่าที่ๆเขาปักป้ายนั้นเป็นต้นไม้กินเนิ้อหรือลูกโอ๊กเน่ากลายพันธุ์นั่นเอง การปักป้ายนั้นทำให้เกิดรอยแตกในต้นไม้ หลัง starswirl เดินออกไป รอยแตกก็เริ่มแตกขึ้นจนสิ่งมีชีวิตในนั้นถูกปลดปล่อยออกมาได้ก็คือ ราชินีคริสซาลิสและกองทัพเชนจ์ลิ่ง
สถานที่ๆแรกที่เชนจ์ลิ่งไปบุกนั้นคือ ทิมบัคคุ เป็นเมืองเปกาซัสปกครองโดยกษัตริย์โอไรออน ทันทีที่มาถึงก็ได้ดูดกินความรักจากโพนี่ทุกตัวในเมือง โชคร้ายที่กษัตริย์โอไรออนไม่สามารถปกป้องบ้านเมืองของเขาได้ ต้องพ่ายแพ้ให้กับเหล่าเชนจ์ลิ่ง และเมืองแห่งนั้นก็ได้ล่มสลายไปในที่สุดยังไม่พอ ราชินีคริสซาลิสและฝูงเชนจ์ลิ่งได้ไปบุกอีกเมืองหนึ่งที่มีนามว่า ทรอท พวก

คริสซาลิสที่กำลังถล่มเมืองทรอท
มันได้หลอกล่อให้ได้เข้าเมือง โดยการซ่อนในหุ่นไม้จักรพรรดิอินซิเททัสขนาดยักษ์ ที่กำลังขนส่งเข้าเมืองทรอท ทันทีที่หุ่นจักรพรรดิเข้าประตูเมือง ราชินีคริสซาลิสและกองทัพเชนจ์ลิ่งก็ได้ออกมาจากตัวรูปปั้นและดูดกินความรักจากโพนี่ทุกตัว โชคดีที่จักรพรรดิอินซิเททัสเรียก องค์หญิงเซเลสเทียและองค์หญิงลูน่าได้ทัน องค์หญิงเซเลสเทียได้ใช้พลังเนรเทศเหล่าเชนจ์ลิ่งไปยังภูเขาไฟที่ร้อนดั่งนรก พลังที่แข็งแกร่งขององค์หญิงเซเลสเทียทำให้เหล่าเชนจ์ลิ่งทั้งหมดมีรูตามร่างกายและปีก
100 ปีต่อมา ในภูเขาไฟที่ร้อนดั่งนรก ราชินีคริสซาลิสและฝูงเชนจ์ลิ่งอยู่อย่างทรมาน แต่วันหนึ่งมีมังกรนามว่า เซอจิโอ ได้เปิดปล่องภูเขาไฟ เพื่อที่จะเข้ามาพักผ่อนในภูเขาไฟลูกนี้ คริสซาลิสคิดแผนบางอย่างออก เธอหลอกให้เซอจิโอบินและโชว์ปีกของตัวเอง ทันทีที่เซอจิโอบ้าจี้ตาม คริสซาลิสและฝูงเชนจ์ลิ่งได้บินทะลุปีกของเซอจิโอไป ทำให้เขากลายเป็นมังกรที่มีปีกเป็นรู ส่วนเหล่าเชนจ์ลิ่งก็ได้ไปตั้งฐานทัพใหม่ในบริเวณทางใต้
900 ปีต่อมา[]
SS2 EP 25,26 the canterlot wedding[]
ราชินีคริสซาลิส ได้รู้ว่า เคเดนซ์ พี่เลี้ยงของทไวไลท์ สปาร์กเคิล กำลังจะแต่งงานและคิดว่าจะต้องมีความรักอย่างมหาศาลให้ดูดกินบวกกับมีพลังประจำตัวเป็นความรัก จึงจับตัวเคเดนซ์ไปขังไว้ในคุกใต้ดิน และปลอมตัวเป็นเธอแทน แผนเป็นไปได้สวยไม่มีใครรู้สึกผิดปกติ เมื่อเหล่า mane 6 มาถึงแคนเทอล็อท ตัวทไวไลท์เองที่รู้จักเคเดนซ์เป็นอย่างดีก็รู้สึกผิด

คริสซาลิสในร่างเคเดนซ์
ปกติกับพฤติกรรมของพี่เลี้ยงเธอ ทั้งลืมเพลงประจำตัวในวัยเด็ก ทิ้งอาหารที่แอปเปิ้ลแจ็คตั้งใจทำ เรื่องมาก ไม่พอใจกับชุดที่ แรริตี้ ออกแบบมาอย่างสวยงาม ทำร้ายจิตใจ พิ้งกี้ ตอนเย็นคริสซาลิสในร่างเคเดนซ์ได้ทะเลาะกับ ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ พี่ชายของทไวไลท์เรื่องชุดที่ใส่แต่งงาน คริสซาลิสที่ทนไม่ไหวได้ร่ายคาถาสะกดจิตใส่ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ ให้เชื่อฟังคำสั่งทุกอย่างที่เธอบอก แต่หารู้ไม่ว่า ทไวไลท์กำลังแอบดูอยู่และเตรียมจะไปบอกความจริง วันต่อมาในช่วงวิวาห์ตอนที่ไชน์นิ่งและเคเดนซ์กำลังจะแต่งงาน ทันใดนั้นทไวไลท์ก็ปรากฎตัวออกมาและบอกความจริงทุกอย่าง แต่กลับตาลปัตรกลายเป็น watch twilight die inside เพราะดันไม่มีใครเชื่อ และโพนี่ทุกตัวก็ออกจากงานด้วยความโมโห ทไวไลท์ที่ยังอยู่ในห้องก็โดนคริสซาลิสในร่างเคเดนซ์วาร์ปไปยังคุกใต้ดิน คริสซาลิสได้เล่นจิตวิทยากับทไวไลท์อย่างสนุกสนาน

คริสซาลิสที่เปิดเผยตัวตน
เมื่อเล่นเสร็จก็ได้กลับไปยังงานวิวาห์ที่กำลังเตรียมใหม่ ทไวไ
ลท์ที่ได้พับบกเคเดนด์ตัวิงจรดด้ไ้ไปบุกยังงาน ทุกตัวอึ้งกับสิ่งนี้ ในที่สุดคริสซาลิสก็เปิดเผยตัวตนพร้อมสั่งให้ฝูงเชนจ์ลิ่งไปโจมตีแคนท็็อลอททั้งเมือง แต่ไชน์นิ่ง อาร์เมอรับ์กเคเดนซ์ต์ที่ฟื้นสติมาได้ จึงทำการสร้างพลังแห่งความรักจากเวทย์มนตรอง์ขเคเด์ ์ พลังนี้ทำให้ฝูงเชนจ์ลิ่งทั้งหมดนั้นกระเด็นไปยังอาณาจักรแมว
คอมมิคหลักเล่มที่ 1ถึง 4[]
หลังจากที่ฝูงเชนจ์ลิ่งกระเด็นมายังอาณาจักรแมว คริสซาลิสและเชนจ์ลิ่งได้ทำการดูดกลืนความรักจากแมวเพื่อฟื้นฟูพลัง และได้กลับไปยังฐานทัพของตนเองเพื่อรอคอยวันแก้แค้น หลายเดือนต่อมา

ชาวเมืองโพนี่วิลล์ที่โดนจับตัวมา
เหล่าเชนจ์ลิ่งทำการลักพาตัวและปลอมตัวเป็นชาวเมืองโพนี่วิลล์ ยกเว้นเหล่า mane 6 เหล่า mane 6 ได้ช่วยเหลือชาวเมืองโพนี่วิลล์ได้และกำจัดฝูงเชนจ์ลิ่ง ยกเว้น แอปเปิ้ลบลูม,สวีทตี้เบลล์และสกูตาลู ที่ถูกราชินีคริสซาลิส จับตัวมาที่ปราสาทเชนจ์ลิ่ง คริสซาลิสได้ให้เวลาแก่ mane 6 3 วัน ระหว่างที่คริสซาลิสกำลังสนุกกับการรอ ก็ถูกพวกเด็กทั้ง 3 รังควาน พูดมาก แถมกวน ด้วยความโมโหเธอจึงได้ส่งลูกสมุนไปปลอมตัวเป็นหนึ่งใน mane 6 ขณะที่กำลังเดินทางภายในถ้ำ เพื่อสร้างความแตกแยกแก่ mane 6 ซึ่งผลก็สำเร็จโพนี่ทั้ง 6 ได้แตกแยกกันเหลือเป็นคู่ คริสซาลิสภูมิใจกับสิ่งนี้ แต่ก็ยังถูกพวกเด็กๆรังควานอยู่ดี ราชินีคริสซาลิสได้ขู่พวกเด็กๆโดยการดูดกินพลังความรักจากแมวที่เอามาจากอาณาจักรแมว พร้อมยังบอกว่า เธอไม่สนว่าพวก mane 6 จะกลับมาเป็นเพื่อนอีกหรือไม่ แต่ที่สนอย่างเดียว

ปราสาทเชนจ์ลิ่ง
คือการได้แก้แค้นทไวไลท์ และกลับมาทำลายแคนเทอล็อท ตัดมาฝั่ง mane 6 ที่แยกทางแล้วเจอกันโดยบังเอิญ ก็รู้สึกผิดเลยขอโทษกันและกัน เมื่อ mane 6 มาถึง ปราสาทเชนจ์ลิ่ง คริสซาลิสก็ได้เรื่มเกมจิตวิทยา หลังจากที่ทไวไลท์และเพื่อนๆ ผ่านเกมเสร็จ ก็ได้เผชิญหน้ากับคริสซาลิส คริสซาลิสได้ทำการดูดเวทย์มนตร์ของทไวไลท์เพื่อเป็นการแก้แค้น แต่เวทย์มนตร์ของทไวไลท์แข็งแกร่งกว่ามากเธอจึงไม่สามารถดูดได้ เธอจึงเปลี่ยนเป็นข้อเสนอว่าจะยอมเป็นลูกน้องของเธอหรือไม่และถ้าไม่เพื่อนของทไวไลท์จะต้องถูกกำจัด ทไวไลท์ที่ไม่มีทางเลือกจึงยอมรับข้อเสนอพร้อมเสียงห้ามของเพื่อนๆ คริสซาลิสดีใจอย่างมาก แต่ทันใดนั้นเอง ดาวหางซีเครทาเรียท (secretrariet comet เป็นดาวหางที่ทำให้สิ่งมีชีวิตบางตัวในเอเควสเทรียทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม

ทไวไลท์ที่ได้รับผลกระทบจากดาวหาง
1000 ปีมาหนึ่งครั้ง) ก็ได้โผล่มา และทไวท์ไลท์ก็ได้รับผลกระทบด้วยทำให้เธอมีพลังอย่างมหาศาลและได้จัดการคริสซาลิสอย่างราบคาบ พร้อมได้ขังเธอและเหล่าเชนจ์ลิ่งในปราสาทของเธอเองพร้อมกับสั่งให้มีการควบคุมเป็นอย่างดี
FIENDship is magic เล่ม 5[]
ปีต่อมา ทไวไลท์และเพื่อนๆมายังปราสาทเชนจ์ลิ่งอีกครั้งที่คราวนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อมาตรวจสอบว่าคริสซาลิสยังอยู่ดีหรือไม่ ปรากฎว่าคริสซาลิสนั้นเก็บตัวอยู่ในมุมห้องและรอบๆก็มีแต่ตัวอักษรที่มีแต่เขียนถึงความเคียดแค้นทไวไลท์เป็นจำนวนมาก ทไวไลท์ที่รู้สึกท่าไม่ดี เลยมาลองคุยกับเธอดู เธอก็บอกว่าอย่ามายุ่ง ทไวไลท์ที่ตอนนั้นมีต่อมความขี้สงสัยอยู่มาก เลยเกลี้ยกล่อมและลองถามถึงประวัติ (คือประวัติที่เขียนไว้ตอนต้น) คริสซาลิสก็ยอมบอกมาแต่โดยดี เมื่อมาถึงเรื่องต้นกำเนิดคริสซาลิสก็คิดแผนออก เลยหลอกทไวไลท์ว่าถ้าอยากฟังให้เข้ามาในปราสาท ทไวไล์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็หลงเชื่อและพบว่านั่นคือกับดัก คริสซาลิสก็บอกต้นกำเนิดของเธอให้ พอเล่าเสร็จ ก็ได้บินทะลุออกประตูปราสาทพร้อมนำฝูงเชนจ์ลิ่งทั้งหมดไปตั้งฐานทัพใหม่ทางตะวันออก
การแก้แค้น[]
SS6 EP 25,26 to where and back again[]
ปีต่อมา คริสซาลิสได้ลักพาตัว mane 6,องค์หญิงเซเลสเทียและลูน่า,องค์หญิงเคเดนซ์,ไชน์นิ่ง อาร์มเมอร์ และเฟลอรี่ ฮาร์ทได้สำเร็จ สาเหตุที่ต้องลักพาตัวพวกนั้นก็เพราะว่าเป็นโพนี่ที่ทุกตัวรักที่สุดในเอเควสเทีย องค์หญิงลูน่าที่ยังสามารถ

รังเชนจ์ลิ่ง
เข้ามาในฝันได้ ได้มาเตือนสตาร์ไลท์ในฝันว่าพวกมันกลับมาแล้ว สตาไลท์ที่พึ่งตื่น ได้ไปปลุกทริกซี่ และมีทอแรกซ์มาพูดคุยด้วย(ทอแรกซ์นั้นเป็นเชนจ์ลิ่งตัวเดียวที่คิดว่าควรแบ่งปันความรักไม่ใช่ดูดมัน)ระหว่างทะเลาะกันอยู่ดิสคอร์ดก็มาร่วมแจมด้วย พอสตาร์ไลท์พูดว่าพวกเชนจ์ลิ่งได้จับตัวพวกองค์หญิง และ mane 6 รวมถึงฟลัทเทอร์ชาย ดิสคอร์ดที่มีความห่วงใยฟลัทเทอร์ชายมากได้พาทั้งหมดเทเลพอร์ตไปยัง รังเชนจ์ลิ่ง และพบว่าภายในนั้นไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ แถมรังของพวกมันยังมีรูที่เปลี่ยนรูปร่างได้ ทำให้แทบจำทางไม่ได้ มีแค่เชนจ์ลิ่งเท่านั้นที่รู้ทางเท่านั้น ทั้ง 4 ได้หลอกล่อเชนจ์ลิ่งเพื่อไปยังห้องบัลลังก์จนเหลือแค่ 2 ตัว คือ สตาร์ไลท์และทอแรกซ์ ทอแรกซ์และสตาไลท์ถูกจับได้ สตาไลท์พยายามเกลี้ยกล่อม คริสซาลิส ว่าสิ่งที่ทอแรกซ์ทำมันถูกต้อง คริสซาลิสยังบอกอีกด้วยว่า เชนจ์ลิ่งนั้นหิวโหยความรักตลอดเวลา กินเท่าไหนก็ไม่อิ่ม คริสซาลิสไม่ฟังคำเทศนาของสตาร์ไลท์ และพยายามดูดกินความรักจากทอแรกซ์ สตาร์ไลท์บอกทอแรกซ์ว่าให้แบ่งปันความรักไปเลย ให้เธอรู้ว่านายมีความ

คริสซาลิสที่ปฏิเสธคำขอของสตาร์ไลท์
รักมากขนาดไหน ทอแรกซ์จึงได้ปล่อยพลังความรักใส่คริสซาลิส และกลายร่างเป็นเชนจ์ลิ่งที่ไม่น่าเกลียด น่ากลัว เชนจ์ลิ่งตัวอื่นๆที่เห็นดังนั้น จึงทำตาม และกลายร่างแบบเดียวกับทอแรกซ์ ทำให้รังเชนจ์ลิ่งเปลี่ยนสภาพกลายเป็นอาณาจักรเชนจ์ลิ่งที่สดใส คริสซาลิสที่ตอนนี้ไม่เหลือลูกสมุนแล้วถูกสตาร์ไลท์ถามว่าจะยอมแบ่งปันความรักไหม คริสซาลิสปฏิเสธอย่างเคียดแค้น และได้หนีไปใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ส่วนทอแรกซ์กลายเป็นผู้นำฝูงเชนจ์ลิ่งตัวใหม่
โดดเดี่ยว[]
SS8 EP 13 the mean 6[]
ปีต่อมา คริสซาลิสที่มีแต่ความโกรธแค้นได้ปลอมตัวเป็นนักถ่ายรูปเพื่อไปถ่าย เหล่า mane 6 และเก็บเส้นผมมา เมื่อเสร็จเรียบร้อยเธอได้ทำคาถาเสกพวก mane 6 แต่เป็นแบบตรงกันข้ามคือ นิสัยเลว (โดยจะขอเรียกเป็น mean 6 แล้วกัน) เธอได้บอกพวก mean 6 ว่าให้ไปทำลายมิตรภาพของ mane 6 เพื่อที่จะทำให้แตกแยกกัน และเมื่อแตกแยกกันก็จะไม่สามารถกอบกู้เอเควสเทรียอีกได้ ซึ่งตอนแรกพวก mean 6 แทบไม่ฟังคำสั่จึงถูกคริสซาลิสตะคอกใส่ด้วยน้ำ

คริสซษลิสที่กำลังทะเลาะกับ mane 6 ตัวปลอม
เสียงโมโห ทไวไลท์แบบนิสัยเลวได้วางแผนกำจัดคริสซาลิสโดยการใช้ธาตุแห่งความปรองดองที่อยู่ในพฤกษาแห่งความปรองดอง ขณะเดียวกันพวกที่เหลือได้ไปทำลายมิตรภาพของ mane 6 ทำให้พวกตัวจริงทะเลาะกันเอง เมื่อป่วนตัวจริงเสร็จแล้ว ทไวไลท์แบบนิสัยเลวได้นำพวกที่เหลือและคริสซาลิสไปยังพฤกษาแห่งความปรองดอง และทำตัวเลวต่อหน้าพฤกษา ซึ่งทำให้ตัวธาตุรู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวจริง คริสซาลิสที่รู้ตัวแล้วว่าถูกหักหลังอีกครั้งจึงห้ามเหล่า mean 6 แต่… ธาตุนั้นได้จับตัว mean 6 และเปลี่ยนให้กลายเป็นไม้ดังเดิม คริสซาลิสที่มีความรู้สึกว่าถูกพวกตัวเองหักหลังอีกครั้งได้บินหนีไป ส่วน mane 6 ตัวจริง ก็กลับมาให้อภัยกันและคืนดีกัน
จุดจบ[]
SS9[]

คริสซาลิสที่เจอกับทิเรคและโคซี่โกลวครั้งแรก
ราชินีคริสซาลิสถูกโกรกราลากมาที่ฐานพร้อมได้พบกับ ทิเร็กและโคซี่ โกล โกรกราได้บอกให้พวกเขาร่วมมือกันถล่มเอเควสเทรีย คริสซาลิสที่ไม่ชอบมีเพื่อนก็ไม่ยอมทำงานร่วมกัน จนโกรกราได้พูดถึงกระดิ่งบีวิทชิ่ง(กระดิ่งอันนี้เป็นกระดิ่งที่ให้พลังอันแข็งแกร่งอย่างมากแก่ผู้ใช้ถ้าใช้ในทางที่ผิดอาจนำมาสู่หายนะได้)ทั้ง 3 จึงต้องจำใจยอมทำงานร่วมกันเพื่อไปเอากระดิ่งมา ซึ่งอยู่ที่ภูเขาเอฟเวอร์ภฮฟที่อยู่เหนือสุดของเอเควสเทรีย วันหนึ่งทั้ง 3 ได้แอบโกรกราไปยังภูเขาเฟเวอร์ฮูฟ และหยิบมาได้สำเร็จ ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 เริ่มเข้ากันดีขึ้น ในวัน summer sun celebration คริสซาลิสได้ทำหน้าที่ไปขโมยหนังสือกระดิ่งบีวิทชิ่งในห้องสมุดแคนเทอลอท และเธอก็ทำสำเร็จ ต่อมาถึงวันที่ทไวไลท์ที่จะต้องขึ้นครองราชย์ ทั้ง 3 วายร้ายได้ใช้พลังจากกระดิ่งบีวิทชิ่งทำให้ทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และกำจัดโกรกราซึ่งทำให้รู้ว่าเป็นดิสคอร์ดที่ปลอมตัวมา คริสซาลิสได้ทำการใส่ร้ายป้ายสีโพนี่ชนิดต่างๆ จนโพนี่ทั้ง 3 ชนิดแตกแยกกันและทำให้ วินดิโก กลับมา คริสซาลิสได้ไปหาสตาร์ไลท์ และสู้กันอย่างดุเดือด ในที่สุดตัวร้ายเป็นฝ่ายชนะ ตอนแรก ตัวร้ายทั้ง 3 ใกล้จะทำลายเอเควสเทรียและ mane 6 ได้แล้ว แต่พวก student 6 ได้รวมตัวสิ่งมีชีวิตทั่วทั้งเอเควสเทรีย มาสู้กับทั้ง 3 เป็นไปตามคาดธรรมมะย่อมชนะอธรรม พลังของกระดิ่งบีวิทชิ่งถูกลบล้างออกจากทั้ง 3 ด้วยพลังแห่งมิตรภาพ และทำให้กลายเป็นไอง่อยที่ไม่มีพลัง องค์หญิงเซเลสเทียและลูน่าได้ทำการลงโทษขั้นสูงสุดคือ เปลี่ยนให้กลายเป็นรูปปั้นไปตลอดกาล รวมถึงราชินีคริสซาลิส จบตำนานแห่งราชินีเชนจ์ลิ่ง

คริสซาลิส โคซี่โกลว และทิเรค ที่ถูกลงโทษให้เป็นรูปปั้น
นิสัยโดยส่วนตัว[]
ราชินีคริสซาลิสนั้นเป็นเชนจ์ลิ่งที่มีนิสัยขี้อุบาย,ดุ,โหดร้ายและมีความโมโหแบบเคียดแค้น ให้ฝูงเชนจ์ลิ่งดูดกินความรักให้หมด ถึงแม้จะเป็นการทำให้เมืองนั้นต้องล่มสลายเช่นเดียวกับ ทิมบัคคุ และมีแผนที่จะยึดครองเอเควสเทรีย เป็นเชนจ์ลิ่งที่มีความฉลาดหลักแหลมที่สุด
นอกจากนี้เธอยังมีนิสัยชอบเห็นความกลัว ความเศร้า ของโพนี่เป็นเรื่องสนุก ดั่งที่เห็นในตอน a canterlot wedding ในฉากที่ทไวไลท์ติดอยู่ในคุกใต้ดิน เธอเห็นความเศร้าโศกเสียใจของทไวไลท์เป็นเรื่องสนุก โดยการเล่นจิตวิทยากับเธอจนทำให้ทไวไลท์เกือบทำร้ายเคเดนซ์ตัวจริงเพราะความเข้าใจผิด เธอยังคิดว่าผู้ที่ทำต่างกับเธอ คือคนทรยศ เช่นทอแรกซ์ เพราะเธอนั้นไม่เคยยอมรับฝังความคิดของผู้อื่น คิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้อง แถมยังไม่อยากมีเพื่อนอีกด้วย (แหม ถ้ารับฟังสตาร์ไลท์เนี่ย คงกลับตัวกลับใจได้และไม่คงต้องกลายเป็นรูปปั้นหรอก)
พลังและความสามารถ[]
เหมือนกับเชนจ์ลิ่งตัวอื่นๆ คือสามารถแปลงกายเป็นใครก็ได้ แต่ที่ต่างคือเมื่อจับตัวสิ่งมีชีวิตมาได้ ก็จะสร้างรังเมือกสีเขียวใสที่มี

รังเมือกสีเขียวใส
ลักษณะคล้ายไข่แมลงวัน และนำสิ่งมีชีวิตตัวนั้นยัดใส่รังเหมือนสตาฟไว้ไม่สามารถออกมาได้ เพื่อเวลาปลอมตัว สิ่งมีชีวิตตัวอื่นก็จะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวจริง พลังอีกอย่างคือสามารถเทเลพอร์ทคนอื่นได้แต่พลังนี้เราเห็นแค่ครั้งเดียว คือในตอน a canterlot wedding เป็นฉากที่ทไวไลท์ถูกคริสซาลิสเทเลพอร์ทไปยังคุกใต้ดิน
การออกแบบและดีไซน์[]
เมแกน แม็คคาร์ธี ผู้อำนวยการผลิต,รอบ เรนเซตติ ผู้ดูแลเนื้อเรื่อง และลอเรน ฟอส ผู้สร้าง ได้คิดตัวละครนี้มา โดยตอนแรกได้ตั้งชื่อเล่นๆว่า queen of the changelings หรือราชินีแห่งเชนจ์ลิ่ง
ส่วนการออกแบบนั้นคริสซาลิสและเชนจ์ลิ่งตัวอื่นๆนั้นเป็นหน้าที่ของ เรเบคกา ดาร์ท หนึ่งในทีมงาน ดาร์ทบอกว่าเธอได้รับ

ภาพดีไซน์คริสซาลิสของ เรเบคกา ดาร์ท
แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากลักษณะการมังงะของ จังโกะ มิซูโน่ และ ฮิเดชิ ฮิโน่ และพอได้ยินคำว่าเชนจ์ลิ่งเป็นครั้งแรก เธอดันคิดถึงเป็นแบบแมลง เพราะฉะนั้นตัวเชนจ์ลิ่งจึงมีลักษณะคล้ายๆแมลงนั่นเอง ส่วนเสียงพากย์ (อังกฤษ) พากย์โดย แคทลีน บาร์ ซึ่งเป็นคนพากย์เดียวกันกับ ทริกซี่
อ้างอิง[]
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อviktoria
|