บทความนี้จะมาเปิดแผนที่โลกของโพนี่ ว่ามีอะไรบ้าง บางที่อาจทั่วไปบางที่อาจแฟนตาซี และขอให้สนุกกับวิชาภูมิศาสตร์ของโลกโพนี่นะ [หมายเหตุ 1]
เอเควสเทรีย[]
เอเควสเทรียเป็นสถานที่หลักของเนื้อเรื่อง เป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาล ลักษณะภูมิศาสตร์ค่อนข้างคล้ายทวีป
อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ปกครองโดยสองพี่น้องราชวงศ์ นั่นคือ องค์หญิงเซเลสเทียและองค์หญิงลูนา ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 1000 ปีที่แล้ว เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความปรองดอง มิตรภาพ และก็อันตรายด้วยเช่นกัน เพราะมักจะมีตัวร้ายคอยที่จะมาถล่มเสมอ และต่อไปนี้คือสถานที่ภายในเอเควสเทรีย
ภาคกลาง[]
แคนเทอลอท (Canterlot)[]
เมืองหลวงของเอเควสเทรีย และเป็นที่อยู่ของสองพี่น้องราชวงศ์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่สูง(เป็นเมืองริมภูเขานั่นแหละ) เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของทไวไลท์สปาคเกิล เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอารยธรรมสมัยใหม่ สิ่งก่อสร้างนิยมทาด้วยสีขาวกับม่วง มีโพนี่ผู้ดีและไฮโซเต็มไปทุกที่ มีงานสำคัญๆมากมายจัดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นเมืองที่เจริญมากๆในเอเควสเทรีย
ตัวเมืองล้อเลียนมาจาก คาเมลอท (camelot) ใน The Lord of the ring โดยเปลี่ยนแค่ชื่อนำหน้าจาก คาเม เป็น แคนเทอ(canter) ซึ่งหมายถึง "การวิ่งของม้า"
.
.
.
โพนี่วิลล์ (Ponyvile)[]
เมืองหลักของซีรี่ย์นี้ และยังเป็นบ้านเกิดของ แอปเปิลแจคกับแรริตี้ โพนี่วิลล์เป็นเมืองเดียวในเอเควสเทรียที่มีโพนี่ทั้ง 3 ชนิดอาศัยอยู่ด้วยกัน และยังเป็นเมืองสำคัญรองจากแคนเทอลอทอีกด้วย นั่นก็เพราะเป็นเมืองที่ทไวไลท์สปาเกิล ลูกศิษย์ขององค์หญิงเซเลสเทียอาศัยอยู่ เมืองแห่งนี้ถูกก่อตั้งโดยเอิร์ทโพนี่ตระกูลแอปเปิล นำโดยคุณย่าสมิธสมัยยังสาวๆ ดังนั้นโพนี่วิลล์น่าจะมีอายุประมาณ 50 ปี แต่ที่เจริญรุ่งเรืองก็เนื่องจากมีโพนี่ต้องการมาค้าขายกับตระกูลแอปเปิลเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็ได้มาตั้งถิ่นฐานไว้ที่นี่ด้วย สิ่งก่อสร้างอาจจะเค้าโครงมาจากยุคกลาง ดูจากบ้านเรือนที่ทำจากไม้เป็นส่วนใหญ่และมีฟางเป็นหลังคา คงไม่แปลกกับเมืองที่มีอายุราวๆ 50 ปี
ป่าเอฟเวอร์ฟรี (Everfree forest)[]
อยู่ไม่ไกลจากโพนี่วิลล์ เหล่าโพนี่มีตำนานเกี่ยวกับป่าแห่งนี้ว่าเป็นป่าต้องคำสาป มีสัตว์ร้ายที่สุดแสนจินตนาการอยู่ที่นี่
อาทิ ไก่เมดูซ่า ทิมเบอร์วูฟ แมนติคอร์ เป็นต้น ม้าลายซีกอร่าอาศัยอยู่แต่ว่าไม่ได้ลึกมาก ป่าแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงของเอเควสเทรีย มีปราสาทสองพี่น้องที่ตอนนี้เป็นซากปรักหักพัง และข้างๆปราสาทเป็นหุมเหวที่มีพฤกษาแห่งความปรองดอง เมื่อไหร่ก็ตามที่พฤกษาหยุดการทำงาน ป่าเอฟเวอร์ฟรีจะคอยขยายอาณาเขตไปยังบริเวณใกล้ๆ และทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ว่ากันว่าสาเหตุที่ป่าเป็นแบบนี้อาจจะเป็นผลมาจากคำสาปของ ไนท์แมร์มูน
. .
ทะเลสาบแซดเดิลเลค (Saddle Lake)[]
เป็นทะเลสาบในโพนี่วิลล์ เหล่าโพนี่ที่มาพักร้อนมักจะชอบมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ แล้วพอถึงช่วนหน้าหนาว ก็จะหลายเป็นพื้นที่สำหรับหารเสก็ตน้ำแข็ง
.
.
ป่าไวท์เทลวูด (White Tail Wood)[]
.
เป็นป่าในโพนี่วิลล์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เหล่าโพนี่จะมีงานวิ่งแข่งขัน เพื่อให้แรงสั่นสะเทือนจากการวิ่งกระทบถึงต้นไม้ ทำให้ใบไม้มากมายร่วงหล่น สาหตุที่ทำก็เนื่องจากต้องการให้ฤดูหนาวมาไวๆ ป่าไวท์เทลจะสวยงามมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ชื่อป่านี้น่าจะได้ต้นแบบมาจาก กวางพันธุ์ไวท์เทลเดียร์
.
.
ฟรอกกี้บอททอมบอก (Froggy Bottom Bogg)[]
เป็นบึงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นโกงกางและฟองน้ำอันเหนียวหนึบ ไม่มีโพนี่อาศัยอยู่นอกจากพวกสิ่งมีชีวิตจำพวกครึ่งบก ครึ่งน้ำ ก็เหมือนบึงทั่วไปนั่นแหละ แต่ที่ไม่ทั่วไปคือมีสัตว์ประหลาดที่เรียกกันว่า ไฮดรา อยู่ด้วยบึงนี้อยู่ทางใต้ของโพนี่วิลล์
.
.
.
คลาวส์เดล (Cloudsdale)[]
เป็นนครบนท้องฟ้า สร้างมาจากเมฆ และเป็นเมืองที่มีแค่เปกาซัสอาศัยอยู่เท่านั้น ม้าดินกับยูนิคอร์นไม่สามารถเดินบนเมฆได้ยังเป็นบ้านเกิดของเรนโบว์แดชและฟลัทเทอร์ชายอีกด้วยสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ นครแห่งนี้เป็นที่ตั้งของโรงงานสภาพอากาศเสมือนเปกาซัสที่ทำงานอยู่คล้ายพระเจ้า คอยควบคุมสภาพอากาศ นครนี้ก็มีกิจกรรมการแข่งความเร็วของเหล่าเด็กๆอีกด้วย ชื่อได้แบบมาจาก ม้าพันธุ์ไครส์เดล
.
.
สันหินเตร่ (Rambling Rock Ridge)[]
เป็นสันเขา ธรรมดาๆเนี่ยแหละ และป็นสถานที่ ที่แรริตี้ได้คิ้วตี้มาร์คอีกด้วย อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโพนี่วิลล์
.
.
.
.
แอปเปิลลูสซา (Appleloosa)[]
เป็นหมู่บ้านแบบคาวบอยแถบทะเลทราย อากาศแห้งแล้ง ประกอบเกษตรกรรมการปลูกสวนแอปเปิล ถือว่าเป็นรายได้และผลผลิตหลักของหมู่บ้านนี้
ส่วนสาเหตุที่เป็นแอปเปิล ไม่แปลกเลยเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นตระกูลแอปเปิลทั้งสิ้น หมู่บ้านนี้เคยมีปัญหากับกระบืออินเดียแดงมาก่อนด้วยสาเหตุที่สวนแอปเปิลไปรุกร้ำพื้นที่ของพวกมัน แต่ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว ยอมเข้าใจซึ่งกันและกัน หมู่บ้านนี้มีอายุประมาณ 30 ปี
ชื่อได้แบบมาจากม้าพันธุ์แอปเปิลลูสซา
ดอจช์จังชั่น (Dodge Junction)[]
บางครั้งถูกเรียกว่า ดอดจ์ซิตี้ (Dodge City) เป็นหมู่บ้านแบบคาวบอยแถบทะเลทราย อยู่ใกล้กับแอปเปิลลูซา เหมือนกับหมู่บ้านแอปเปิลลูซาทุกอย่าง แต่หมู่บ้านนี้มีรายได้และผลผลิตหลักจากเชอรี่แทน แถมยังไม่เคยมีปัญหากับใครด้วย ส่วนชาวบ้านก็เป็นม้าธรรมดาทั่วไปๆนั่นแหละ ไม่ได้เป็นตระกูลเชอรี่ หมู่บ้านนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของเชอรี่จูบิลลี่ นักธุรกิจค้าขายเชอรี่ เธอเป็นตัวพารายได้เข้าเมือง หมู่บ้านนี้มีแบบมาจากเมืองจริงๆ เมืองนั้นมีชื่อว่า Dodge City (ดอดจ์ซิตี้) ในรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา
.
เหวแกสลี่จอร์จ (Ghastly Gorge)[]
เหวอันกว้างใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายต่างๆนา อย่างเช่น ลมพ้ดแรงเท่าเฮอริเคน พุ่มไม้หนาม หินยักษ์ที่อาจถล่มมาได้ทุกเมื่อ หนวดปลาหมึกยักษ์ปริศนาจากช่องถ้ำในเหว เป็นต้น เหวนี้อยู่ไม่ไกลจากโพนี่วิลล์ ในตอน Shadow Play part 1 และ Trival Problem มีคำพูดจากแอปเปิลแจคกับคุณย่าสมิธที่พอเรียบเรียงก็รู้ได้ว่า เมื่อพันกว่าปีที่แล้ว เหวนั้นเคยเป็นถ้ำมาก่อน ไม่รู้ว่าข้างในนั้นมีอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หินบางส่วนก็ถูกกัดกร่อน จนกลายเป็นเหวนั่นเอง
.
รอควิลล์ (Rockvile)[]
มันไม่ใช่เมือง แต่เป็นฟาร์มหินขนาดใหญ่ของครอบครัวพาย แน่นอนเป็นบ้านเกิดของพิ้งค์กี้พายอีกด้วย ด้วยสาเหตุที่ฟาร์มหินของตระกูลพายมีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก จึงตั้งที่ดินหรือพื้นที่นั้นเลยว่าวิลล์ ซึ่งวิลล์มักเป็นคำลงท้ายที่นิยมในการตั้งชื่อเมือง
.
.
.
เทือกเขาแมคอินทัช (Macintosh Hill)[]
เทือกเขาที่เหทือนพรมแดนกั้นระหว่างภาคกลางกับภาคใต้ของเอเควสเทรีย ที่อยู่ใกล้ๆกับภูเขาแอปเปิลลูซา(ในคอมมิคเล่ม 2 หน้าสุดท้ายเราจะเห็นแผนที่ทางใต้
วินนียาโปลิส (Whinnyapolis)[]
เป็นเมืองแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้ๆกับคลาวส์เดล เคยมีนายกจากเมืองนี้ปรากฎในตอน Princess Spike และก็มีนักท่องเทียวจากเมืองนี้มาโผล่ในตอน Spice Up Your life นอกจากนี้ยังปรากฎเป็นตัวหนังสือในคอมมิคมาหลายเล่ม เมืองนี้ก็ได้แบบมาจากเมืองจริงๆ ที่มีชื่อว่า มินนีแอโปลิส ในรัฐมินิโซตา สหรัฐอเมริกา
ซอลท์เลคซิตี้ (Sakt Lick City)[]
เป็นเมืองแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มหินตระกูลพาย ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในซีรี่แต่กล่าวถึงในคอมมิค เป็นเมืองทั่วไปนั่นแหละ ในคอมมิค Friend Forever #8 แอปเปิลแจคกับแรริตี้ได้ไปแวะที่เมืองนี้ ทั้งคู่ไปเที่ยวที่สวนสัตว์ของเมืองนี้ เมืองนี้ก็เอามาจาก ซอลท์เลคซิตี้ ในรัฐยูทา สหรัฐอเมริกา
.
.
.
.
ชิโคลท์โก (Chicoltco)[]
เป็นเมืองอีกเมืองที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในซีรี่ย์ และไม่ได้เห็นสภาพของเมืองในคอมมิค แต่ถูกกล่าวถึงในรูปแบบอื่น เช่น ป้าย โฆษณา คำพูด เป็นต้น ก็เช่นเคยชื่อนี่เอามาจาก ชิคาโก รัฐอิลิลนอยส์ สหรัฐอเมริกา
เบลส์ (Bales)[]
เป็นเกาะในตำนานที่เป็นที่เลื่องลือว่ามีอยู่จริงหรือไม่ อยู่ไม่ไกลจากแคนเทอลอท แล้วสุดท้ายก็มีอยู่จริง จากการพิสูจน์ของทไวไลท์สปาคเกิล ที่ได้ออกไปสำรวจ เกาะนี้ถูกเอ่ยถึงในนิยาย Fluttershy and the Fine Furry Friends Fair และ Princess Twilight Sparkle and the Forgotten Books of Autumn. ชื่อเอามาจาก ประเทศเวลส์ สหราชอาณาจักร
ภาคตะวันออก[]
เมนฮัตตัน (Manehattan)[]
เป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งโรจน์เป็นอย่างมาก พอๆกับเมืองหลวงอย่างแคนเทอลอท มีตึกรามบ้านช่องเป็นจำนวนมากมาย มีการจัดนิทรรศการหลายอย่างที่โพนี่ดังๆได้ไปจัด รวมถึงแฟชั่นที่แรริตี้ชื่นชอบ ยังเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของโพนี่ที่มีชื่อเสียงหลายตัว มีสถานที่สำคัญหลายอย่างและมีหลายที่ที่น่าไป คาดว่าน่าจะมีประชากรเป็นจำนวนมาก เมืองนี้ส่วนใหญ่มีแค่ม้าดินกับยูนิคอร์นอาศัยอยู๋ และยังเป็นเมืองที่ซีรี่ย์ถูกกล่าวถึงบ่อยมาก สาเหตุที่ถูกปรากฎเยอะอาจเป็นเพราะ เมืองนี้เอาแบบมาจาก เกาะเเมนฮัตตัน ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ฟิลลีเดเฟีย (Fillydephia)[]
เป็นมหานครอันรุ่งโรจน์อีกเมืองที่ถูกลืม เพราะแทบไม่ได้เห็นตัวเมืองในซีรี่ย์เลย แต่ก็ยังเห็นอยู่เล่มนึงในคอมมิคเล่ม Friend Forevrer #13 เมืองนี้ไม่มีงานอะไรที่เป็นสำคัญ แต่ว่าที่นี่มีจุดเด่นคือ เป็นสถานที่ ที่โพนี่และมังกรอยู่ด้วยกัน มังกรที่ว่าเป็นคนละแบบกับที่สไปค์เจอรอบแรก คือเป็นแบบตัวเล็กกว่า ใจดีกว่า เป็นมิตรกว่า แต่ก็ยังพ่นไฟได้เหมือนเดิม โดยพวกนี้จะอยู่ในย่าน ดรากอนทาวน์ และก็ไม่เคยทำอะไรอันตรายกับเหล่าโพนี่ในเมืองเลย มีแต่จะช่วยด้วยซ้ำ แต่ครั้งแรกโพนี่ในเมืองก็เคยมีปัญหานะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เมืองนี้เอาแบบมาจาก ฟิลาเดเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ส่วนย่านดรากอนทาวน์นั้น ก็เอามาจากย่านไชน่าทาวน์ในฟิลาเดเฟีย
บอลติแมร์ (Baltimare)[]
เป็นมหานครที่ถูกลืมเหมือนกัน แต่โชคร้ายกว่าเราไม่เห็นตัวเมืองเลย ทว่าในตอน A Royal Problem เราจะได้เห็นนายกเทศมนตรีของเมืองนี้ทะเลาะกับนายกของเมืองฟิลลีเดเฟียที่ปราสาทแคนเทอลอท เราก็ยังได้ยินที่บางครั้งตัวละครก็เคยกล่าวถึงอยู่ แต่น้อย เมืองนี้เอามาจาก บอลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา
ไซร์ฮอลโลว์ (Sire Hollow)[]
เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของสตาไลท์กลิมเมอร์และซันเบิร์ส เมืองนี้ถือว่ามีความเจริญหรือไม่ก็อาจเป็นแหล่งโพนี่ที่ร่ำรวยก็ได้สั'เกตจากลักษณะสิ่งก่อสร้างที่มีความปราณีตเหมือนแคนเทอลอท แต่เมืองนี้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากแถมยังอยู่บริเวณป่าเขา
.
โฮปฮอลโลว์ (Hope Hollow)[]
เป็นเมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยสีสันและความสดใส ที่เมืองแห่งนี้ทุกๆปีจะจัดงานเฉลิมฉลองสีแห่งสายรุ้ง พวกชาวเมืองต่างมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความหวังจึงมีชื่อเมืองว่า โฮป (Hope ที่แปลว่าความหวัง) แต่ด้วยสิ่งใดไม่รู้ทำให้อยู่ดีๆเมืองนี้ก็เศร้าหมองเป็นสีเทาไร้สี แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ด้ววยความช่วยเหลือของ mane 6 ในภาค Rainbow Roadtrip
ทรอทติ้งแฮม (Trotingham)[]
เป็นเมืองในเกาะกริฟฟิน (อยู่ใกล้กริฟฟินสโตนเลยตั้งชื่อนี้) อยู่ทางตะวันออกของพรมแดนหลัก เราจะไม่เห็นสภาพตัวเมืองเลยนอกจากจะเป็นเมืงที่ถูกกล่าวถึงเท่านั้น ในซีรี่ย์ยังบอกว่า เกาะนี้เป็นบ้าเกิดของพิปสควิก เด็กน้อยที่หน้าตาไม่คล้ายโพนี่ และแซสซีแซดเดิล แฟชั่นดีไซน์เนอร์ลูกจ้างของแรริตี้ ถ้าเราดูจากแผนที่ดีๆก็จะพบว่าเมืองนี้ก็เจริญอยู๋ไม่น้อยสังเกตได้จากที่เป็นรูปบ้านหลายหลัง โพนี่ที่นั่นน่าจะเป็นผู้ดี ก็เพราะว่ามีแบบมาจาก นอตติ้งแฮม สหราชอาณาจักร
ภูเขาโฟล (Foal Moutain)[]
เป็นกลุ่มภูเขาขนาดใหญ่ในป่าข้างๆก็มีน้ำตกวินสัม ภูเขานี้เต็มไปด้วยธรรมชาติมากมาย และมีสิ่งประหลาดที่อาจคิดไม่ถึงด้วยเช่น ดอกไม้ที่ก้านของมันจะรัดตัวผู้ที่มาจับ นกสายพันธุ์เฉพาที่อาศัยอยู๋บริเวณนี้ เป็นต้น ด้วยการที่ภูเขาลูกนี้อยู่ติดกับป่าก็เลยอาจจะมีสัตว์แถวนั้นเข้ามาเดินเล่นหรือไม่ก็มาล่าเหยื่อ จะว่าไปเหล่านักเหล่านักเรียนจากโพนี่วิลล์ก็เคยมาทัศนศึกษาที่นี่นะ แต่ว่ามีเด็ก 7 คนได้หลงทางและต้องเอาชีวิตรอดจากป่านี้ จากคอมมิค Don't You Forget About Us
น้ำตกวินสัม (Winsome Falls)[]
เป็นน้ำตกมหัศจรรย์ ที่ตัวน้ำเป็นสีรุ้ง ไม่ได้เป็นเพราะแสง ไม่ได้เป็นเพราะวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ใดๆทั้งสิ้นแต่เป็นเพราะ ธรรมชาติของมันเอง น้ำตกนี้อยู่ข้างๆภูเขาโฟลที่กล่าวไปข้างต้น ถึงแม้จะอยู่ใกล้ภูเขาโฟลที่ล้อมรอบไปด้วยป่า แต่บริเวณรอบๆเป็นทุ่งหญ้าแสนสวยงาม ดูจากรูปสิ แหมดีนะที่อยู่ในโลกโพนี่น่ะ ถ้าอยู่ในโลกมนุษย์นี่....สีน้ำตกคงโดยขยะจนไม่มีรุ้ง
น้ำตกเนียกการา (Neighara Falls)[]
เป็นน้ำตกขนาดมหึมา อยู่ใกล้ๆทางเหนือ น้ำตกนี้ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเหล่าโพนี่ทั้งหลาย (แม้กระทั่งองค์หญิงด้วย) มีการมุดตัวเข้าไปอยู่ในถังแล้วให้ม้าที่อยู่นอกถังผลักแล้วก็จะพบประสบการ์ณอันน่าตื่นเต้น น้ำตกนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็เหมือนน้ำตกที่อื่นนั่นแหละแต่ว่าใหญ่กว่า ที่นี่เอาแบบมาจาก น้ำตกในแองการา คำว่า เนียก (neigh) ก็เคือเสียงม้าร้องฮี้ ฮี้ นั่นแหละ แต่เป็นที่ฝรั่งได้ยิน
บึงเฮซีด (Hayseed Swamp)[]
บึงธรรมดาทั่วไปนั่นแหละ ไม่มีอะไรมาก แต่ต่างจากบึงฟรอกกี้ที่เคยเขียนไว้ก็คือ..บึงนี้มีหมู่บ้านอยู่ ใช่มีโพนี่อาศัยอยู่ด้วย ก็เพราะมันก็ไม่มีปรากฎการณ์ธรรมชาติหรือสัตว์ประหลาดอะไรเลย จึงมีโพนี่มาตั้งถิ่นฐาน แต่ว่าพวกเขาอาศัยอยู่เมื่อร้อยวันพันปีที่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ที่นี่เป็นสถานที่ที่เกิดโรคระบาดอันร้ายแรงที่ชื่อว่า โรคไข้หนองน้ำหรือSwamp Fever ไม่ต้องห่วงว่ามันจะมีโรคระบาดนี้เกิดขึ้นมาอีก เพราะมันมียารักษาแล้ว คิดค้นโดย เมจเมโดบรูค
นีวฮอร์สลีน (New Horseleans)[]
เป็นเมืองที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึง ไม่ได้เห็นตัวเมือง แต่ก็ยังปรากฎเป็นข้อความต่างๆที่คนวาดอยากจะใส่ที่ไหนก็ได้ในคอมมิค ชื่อเมืองล้อเลียนมาจาก นีวออร์ลีน ในรัฐลุยส์เซียนา สหรัฐอเมริกา
โฟเอโด (Foaledo)[]
เมืองที่โผล่แค่ครั้งเดียวและเป็นแค่ฉากประกอบในคอมมิคเล่มหลัก เล่มที่ 65 เมืองนี้ล้อมาจาก โทเลโด(ขอโทษ ไม่มีภาษาไทย ดูตัวเมืองแล้วกัน) ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอมริกา
.
..
ฮอลโลว์เฉด (Hollow Shade)[]
เป็นเมืองแห่งนึง ล้อมรอบไปด้วยป่าเขาเหมือนกับไซร์ฮอลโลว์ เราไม่เคยเห็นว่าสภาพบ้านเมืองเป็นอย่างไร และถูกกล่าวถึงน้อยมาก ก็มีแอปเปิลบลูมที่เคยบอกว่ามีตระกูลแอปเปิลของเธออยู่เมืองนี้ด้วย เมืองนี้ก็มีเรื่องสำคัญเรื่องเดียวคือ ที่แห่งนี้มีสถานที่หนึ่งที่โพนี่แห่งเงามืดได้ฟื้นฟูพลังอีกครั้งด้วย ในตอน Shadow Plays Part 2
..
.
.
ใต้ดินแห่งเงามืด (Well of Shade)[]
เรียกอีกชื่อว่า The well of shadow เป็นห้องใต้ดินหรือฐานใต้ดินไม่รู้ว่าของไทยมันแปลว่าอะไรนะ แต่เขาเรียกว่า Cisturn ของสตีเจียนก่อนที่จะกลายเป็นโพนี่แห่งเงามืด ที่นี่เป็นที่สะสมความแค้นของสตีเจียนก่อนที่มันจะมากขึ้นเรื่อยๆจนเขากลายเป็นปีศาจแห่งเงามืด และกลายเป็นสถานที่แบทเทิลของเมน 6 และ Pillar of equestria สู้กับปีศาจแห่งเงามืด ฐานทัพนี้อยู่ในเมืองฮอลโลว์เฉดที่กล่าวไว้ข้างต้น
โพนเฮนจ์ (Ponehenge)[]
เป็นหิน 6 ก้อนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาโฟล หินนี้เป็นหินที่เสาหลักแห่งเอเควสเทรียได้ร่ายเวทย์มนตร์เนรเทศ โพนี่แห่งเงามืดหรือสตีเจียนด้านมืดไปยังลิมโบ แต่พวกเขาต้องถูกสตาฟไว้ในหินเพื่อให้พลังของพวกเขายังสามารถทำงานได้อยู่ แต่ในตอน Shadow Play Part 1,2 ตัวเอกของเราได้นำวัตถุที่เป็นตัวแทนของเสาหลักแต่ละตัวมาวางไว้หน้าหิน ชิ้นนึงหินนึง และนั่นเป็นการปลดปล่อยเสาหลักและโพนี่แห่งเงามืดออกมาโดยไม่รู้ตัว สปอยเลยแล้วกันสุดท้ายเสาหลักกับตัวเอกก็ช่วยโลกอีกครั้งไว้ได้โดยกล่อมสตีเจียนด้านมืดให้กลับมาเป็นม้าดีได้สำเร็จ ชื่อเอาแบบมาจาก สโตนเฮนจ์
ฮูฟซิตี้ (Hoof City)[]
ถูกกล่าวถึงนิดเดียวในตอน Appleoosa's Most Wanted
ภาคตะวันตก[]
ลาสเปกาซัส (Las Pegasas)[]
สถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่าโพนี่นิยมไปเที่ยวกัน โดยที่นี่เต็มไปด้วยแสงฉูดฉาด ฝูงชนอันนับไม่ถ้วน โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นอันน่าอึ้งทึ่งเสียว เครื่องเกมหลากหลาย เกมโชว์ ละครเวที การแสดงความสามารถ และอื่นๆอีกมากมาย ลาสเปกาซัสเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฟ้าเหมือนกับเมืองของเปกาซัส แต่ไม่ใช่ เพราะโพนี่ทุกชนิดก็สามารถมาได้ เพราะมีพื้นรองอยู่แล้วไม่ต้องห่วงว่าจะตกโลก การที่จะมาเทียวที่นี่ต้องเช่าบอลลูนมาเท่านั้นหรือจะนั่งแท็กซี่บอลลูนมาก็ได้ นั่งรถไฟมันไปจอดที่อื่นนะ เมืองนี้เอาแบบมาจาก ลาสเวกัส ในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
แอปเปิลวูด (Applewood)[]
อยู่ข้างๆเมืองตะกี๊เลย แต่ส่วนมากที่นี่จะถูกกล่าวถึงในคอมมิคซะส่วนใหญ่ แอปเปิลวูดนี่เป็นทีสำหรับทำภาพยนตร์สั้น ภาพขาวดำ เพราะโลกโพนี่นั้น ยังไม่มีคอมเอาไว้ตัดต่อหรือใส่ CGI แถมการทำแต่ละครั้งก็กินแรงและเวลาเป็นอย่างมาก และแอปเปิลวูดก็เหมือนเป็นที่ที่รวมเหล่าเซเลปหรือโพนี่ที่มีชื่อเสียง ดูจากรูปสิ ว่ามีกีบใครบ้างที่มาเหยียบที่นี่ นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังมีสวนสนุกด้วยแต่ว่าโดนลาสเปกาซัสแย่งลูกค้า เลยไม่ได้เห็นเมืองนี้มาก เอาแบบจากลอสแองเจลิสเนี่ย ชื่อไปเอา ฮอลลีวูดที่เป็นชื่อถนน ทั้งสองอยู่รัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา
เหวกาลอปปิ้งจอร์จ (Galloping Gorge)[]
เหวที่....ไม่มีะไรมาก แค่เป็นเหวเฉยๆ ไม่เหมือนเหวแกสลี่ เพราะว่ามันไม่สิ่งที่ลึกลับอะไรเลย แล้วยังกล่าวถึงแค่ครั้งเดียว และตัวซีรี่ย์เองก็ไม่เคยพาเราไปดูวิวของเหวนี้ด้วย
ทอลเทล(Tall Tale)[]
เมืองที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในซีรี่ย์อีกแล้ว แต่คาดว่าน่าจะมีความเจริญ เพราะถ้าดูจากแผนที่ เราก็จะเห็นเป็นตึก
ภูเขาสโมคกี้ (Smokey Mountains)[]
ภูเขาที่ตั้งตระหง่านในฝั่งตะวันตกของเอเควสเทรีย เป็นสถานที่ร่มรื่นสำหรับสัตว์ป่าน้อยใหญ่ แต่มันก็ต้องจบไปเมื่อมี 2 ตระกูล ฮูฟฟิลกับแมคโคลท์ ได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ทั้ง 2 ได้ทะเลาะเบาะแว้งกัน จนลามปามมาถึงใครเจอหน้าจับมันมาเข้าคุก แล้วก็ยังสืบทอดมารุ่นลูกรุ่นหลานเลย ทำให้ภาพจำที่เป็นภูเขาแสนสวยงามต้องถูกลบออกไป จนสุดท้ายในตอน The Hooffields and McColts ทไวไลท์และฟลัทเทอร์ชายก็เข้ามาสามารถให้ตระกูลทั้งสองกลับมากลมเกลียวได้สำเร็จ และความร่มรื่นก็กลับคืนมา ภูเขานี้เอาแบบมาจาก ภูเขาสมอคกี้แสนยิ่งใหญ่ (โทษทีไม่มีภาษาไทยอีกแล้ว)
ฮิลทอป (Hill Top)[]
ทิวเขาที่อยู่ทางชายฝั่งของทางเอเควสเทรียตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ใกล้ๆกับทะเลทรายซานพาโลมิโน เราจะได้เห็นทิวเขานี้ในตอน Three's a crowd ในตอนนี้ ดิสคอร์ดป่วยเป็นโรคหวัดฟ้า และขอให้ทไวไลท์กับองค์หญิงแคนเดสท์ไปเอาดอกไม้ยักษ์ ที่อยู่ ณ ฮิลทอปแห่งนี้ โดยมันเป็นยารักษาอาการหวัดฟ้าของเขา โดยรวมแล้วฮิลทอปก็เหมือนเป็นทิวเขาตามธรรมชาติทั่วไปแหละ แต่แค่มีดอกไม้ยักษ์เท่านั้นเอง
ทะเลทรายซานพาโลมิโน (San Palomino Desert)[]
ทะเลทรายที่ไม่มีอะไรมาก ไม่มีใครกล่าวถึงเลบ และก็ยังไม่เห็นด้วยว่ามันเป็นสภาพยังไง ยกเว้นหนังสือ "แดริ่งดูกับนครเมฆาต้องห้าม" แต่เราก็ได้แค่จินตนาการอย่างเดียว เพราะว่ามันเป็นนิยาย ที่นี่มีโพนี่อาศัยอยู่น้อย สังเกตจากแผนที่ ชื่อเอามาจาก เมืองซานอันโตนิโอ ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
เทือกเขายูนิคอร์น (Unicorn Mountain Range)[]
เทือกเขาที่ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้ถูกกล่าวถึงโดยใครเลย ส่วนมากนำมาเป็นแค่ฉากประกอบที่เป็นแผนที่ และป้ายบอกทางหรืออะไรก็ตามที่มันสามารถเขียนได้ แต่ที่รู้ๆคือเทือกเขานี้ยาว แต่ว่าภูเขาแต่ละลูกไม่ได้สูงมากนัก
หมู่บ้านบรีสซี่ (Breezie Village)[]
ในตอน It's ain't easy being breezie ฟลัทเทอร์ชายได้อธิบายไว้ว่า "เหล่าบรีสซี่จะมาเก็บเกสร ณ ที่ห่างไกลจากบ้านของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นในเมือง ในป่า และอื่นๆ เพื่อนำมาเก็บเป็นอาหาร พวกมันจะมาตามฤดูของมันทุกครั้ง และจะเดินทางกันเป็นกลุ่ม ฉันคิดว่าพวกมันน่าจะอยู่ทางฝั่งตะวันตกล่ะมั้ง ถ้าจำไม่ผิด" ในตอนเดียวกันนี้เราจะได้เห็นรังหรือเมืองหรือหมู่บ้านเนี่ยแหละ เรียกไม่ถูก มันอาศัยอยู่ในที่ลึกลับ เพราะหาให้ตายก็หาไม่เจอหรอกก็เพราะเมื่อไหร่ที่หมดฤดูกาลของมัน ประตูที่จะออกไปโลกภายนอกจะถูกปิดแบบเหมือนเป็นประตูวาปน่ะ ในรังมันก็ Wonderland มาก มีความสวยงามอย่างน่าเหลือเชื่อ
ซิลเวอร์โชล (Silver shoals)[]
มีอีกชื่อนึงว่า ซีวาดโชล (Seaward Shoals) เมืองท่า ตัวเมืองอยู่บริเวณชายฝั่งที่เป็นเนิน เป็นที่ที่นิยมสำหรับการไปพกผ่อนชีวิตยามเกษียณของโพนี่วัยชรา เมืองนี้น่าจะมีรายได้จากการประมงเพราะในซีรี่ย์เราจะเห็นแค่ส่วนที่เป็นท่าเรือ ยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่ที่รู้รู้คื ซิลเวอร์โชล มีความธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
Silver Stable Community[]
บ้านพักม้าชราที่เกษียณแล้ว น่าจะอยู่ไม่ไกล ซิลเวอร์โชล เพราะว่าชื่อทั้งสองนำหน้าด้วย ซิลเวอร์ (Siver)เหมือนกัน ปรากฎในตอน The Point of no Return
แคนเทอครีก (Canter Creek)[]
เมืองแนวคาวบอยทะเลทรายอีกแห่ง ปรากฎในคอมมิคเล่ม 25 และ 26 และมีนายอำเภอเป็นตระกูลแอปเปิล แต่เขาก็ได้หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมืองนี้มีปัญหากับพวกกระทิงเลวที่จะมายึดเมืองและสวนพริกที่เป็นรายได้หลักของที่นี่ เมื่อนายอำเภอที่เป็นแอปเปิลหายตัวไป พวกกระทิงเลวจึงได้โอกาสมายึดเมืองตามเล็กน้อย ไปจนถึงเผาบ้าน แต่สุดท้าย แอปเปิลแจคที่มีความโกรธแค้นเป็นอย่างมากและเพื่อนของเธฮได้ช่วยกันถีบ กระทิงพวกนี้เข้าคุกได้สำเร็จ และแคนเทอครีกก็กลับมาสงบอีกครี้ง เมืองนี้เอามาจาก คอปเปอครีก ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
ซีแอดเดิล (Seaddle)[]
เมืองที่ไม่มีอะไรมาก กล่าวถึงในคอมมิคนิดหน่อย ใน Friend Forever เล่ม 8 แรริตี้กับแอปเปิลแจครีบจัด ไม่ได้ขึ้นรถไฟที่จะไปแอปเปิลวูดแต่ดันเป็นไปที่ซีแอดเดิลแทน ในคอมมิคหลักเล่ม 65 องค์หญิงเซเลสเทียปลอมตัวเป็นโพนี่สามัญชนธรรมดาไปท่องเที่ยวทั่วเอเควสเทรีย หนึ่งในนั้นคือ ซีแอดเดิล แต่อย่างไรซะเราก็ไม่รู้ว่าเมืองนี้มันมีอะไรสำคัญหรือปล่าว เมืองนี้จริงๆคือ ซีแอทเทิล จากรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
ฮอสฮูลูลู่ (Horsolulu)[]
เมืองแห่งหนึ่งบนเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งเอเควสเทรีย เกาะนี้ไม่ได้เห็นในซีรี่ย์ เห็นในคอมมิครั้งเดียว นอกนั้นเป็นป้ายบอกทาง ชื่อเอามาจาก โฮโนลูลู่ ในมลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา
ซานฟรานซิสโคลท์ (San Franciscolt)[]
มหานรอีกเมืองที่เราไม่ได้เห็นตัวเมือง และ ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในซีรี่ย์กับคอมมิคเลย แต่อย่างน้อยมันก็ถูกพูดถึงบ้างนิดหน่อย ในนิยาย ทไวไลท์ สปาร์คเกิลกับเวทย์มนตร์หัวใจคริสตัล ชื่อมีแบบมาจาก ซานฟรานซิสโก ในรัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐ
เนกเมกซิโคลท์ (Neigh Mexicolt)[]
กล่าวถึงนิดหน่อยในนิยาย แรริตี้กับความใคร่รู้ในแชริตี้ ชื่อเอามาจาก รัฐนิวเมกซิโก สหรัฐฯ
แคลิโฟลเนีย (Califoalnia)[]
ไม่เชิงว่าเป็นเมือง แต่น่าจะเป็นกลุ่มมลรัฐทางตะวันตกมากกว่า ก็กล่าวถึงแค่ครั้งเดียวในนิยาย Ponyville Mystery ที่เป็นหน้าคำนำประวัติผู้แต่งของโพนี่สมมติ ชื่อล้อจาก รัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา
ภาคเหนือ[]
ทางเหนืออันหนาวเหน็บ(The Frozen North)[]
แดนลานน้ำแข็งที่ไม่มีใครอยู๋ เนื่องจากมีสภาพอากาศที่หนาวมาก เหมือนอยู่ที่ขั้วโลกเลย เป็นสถานที่ที่เสมือนเป็นทางผ่านของโพนี่ที่จะไปภูเขาเอฟเวอร์ฮูฟหรือไม่ก็ยักยากิสถาน
อาณาจักรคริสตัล (Crystal Empire)[]
อาณาจักรที่มีมีโพนี่คริสตัลอาศัยอยู่ โดยพวกเขาเป็นโพนี่ชนิดพิเศษที่สามารถกำเนิด ณ ที่นี่ได้เท่านั้น อาณาจักรนี้เต็มไปด้วยคริสตัล บ้านก็คริสตัล ปราสาทก็คริสตัล โพนี่ก็ชนิดคริสตัล อะไรๆก็คริสตัลเยอะแยะไปหมด โดยคริสตัลในซีรี่ย์นี้มันหมายถึงความรักและมิตรภาพ ก็เลยมีหัวใจคริสตัลแห่งความรักที่จะกำจัดความหนาวและความชั่วร้ายออกไป ผู้ปกครองอย่าง องค์หญิงแคนเดสท์ ก็มีเวทย์มนตร์เกี่ยวกับความรักเช่นกัน เมื่อมีความรักก็มีความเกลียดชัง ราชาซอมบร้าโพนี่ที่ถูกความชั่วร้ายของคริสตัลครอบงำได้เคยยึดอาณาจักรนี้ จับโพนี่มาเป็นทาส ล้างสมองโพนี่ให้มาเป็นทหารของตนเอง ถือว่าเป็นตัวร้ายที่ดาร์คมากที่สุดในซีรี่ย์ก็ว่าได้ แต่ก็ช่างเหอะธรรมมะก็ชนะอยู่ดี แล้วเขาก็มายึดอีกครั้งแต่ก็แพ้เช่นเคย อาณาจักรนี้ก็มีอายุมายาวนานเลยทีเดียว สหัสวรรษนึงแหนะ
ภูเขาคริสตัล (Crystal Mountains)[]
ภูเขา(หรือจะเรียกว่าเมือกเขาดี)ลูกนี้เสมือนเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นเอเควสเทรียฝั่งเหนือสุดกับฝั่งข้างล่างไว้ มันก็เหมือนกับภูเขาหิมะทั่วไปนั่นแหละแต่มันเพิ่มความแฟนตาซีเท่นั้นเอง ในคอมมิค Friends Forver เล่ม 3 เราจะเห็นว่าภูลูกนี้มีอะไรแปลกๆเต็มไปหมด เช่น ปูลอปส์เตอร์หินที่ก็ไม่รู้ว่าจะจับขังผู้ที่มาเยือนทำไม ภูเขาไฟที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน(แต่อย่างน้อยมันก็ปะทุไม่แรง) แร่ทำกระจกของกล้องโทรทัศน์ที่หาได้แค่ภูเขานี้ เป็นต้น
เทือกเขาจามรี (Yaket Mountain Range)[]
เทือกเขาที่อยู่เหนือสุดของเอเควสเทรีย เหมือนเป็นตัวกั้นดินแดนเอเควสเทรียกับขั้วโลกเหนือ ก็เป็นเทือกเขาธรรมดานั่นแหละ ไม่มีอะไรมาก
เรนโบว์ฟอล(Rainbow Falls)[]
หมู่บ้านแถบทิวเขา ล้อมรอบไปด้วยน้ำตกสายรุ้งและทิวทัศน์ของภูเขาอันสวยงาม สถานที่นี้เป็นที่ที่มีงานแลกของซื้อของกัน โดยโพนี่ที่อยากแลกของจากทั่วทุกเอเควสเทรียจะมาที่นี่กันหมด บางตัวก็มาขอแลก บางตัวก็มาตั้งร้านเลย และก็ยังเป็นที่ที่ไว้ซ้อมกีฬาก่อนที่จะลงแข่ง "เอเควสเทรียเกม" ส่วนมากในซีรี่ย์จะไม่โฟกัสถึงความสารทุกสุขดิบของโพนี่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ แต่จะโฟกัสที่งานสำคัญๆที่มาจัดขึ้นที่นี่แทน
แวนฮูฟเวอร์ (Vanhoover)[]
เมืองอีกเมืองที่ก็ถูกกล่าวถึงอยู่น้อยนิด และก็ไม่ได้เห็นตัวเมืองด้วย แต่ที่รู้ๆคือน่าจะมีความเจริญอยู่นะ เพราะในแผนที่เราก็เห็นตัวตึกอยู่ ในตอน The perfect Pear ตาแพร์ตอนหนุ่มๆได้ย้ายไปอยู่ที่นั่นเพื่อไปขยายกิจการลูกแพร์ และทิ้งลูกสาวไว้ที่ไร่แอปเปิลหวานเพื่อให้อยู่กับคนรักของเธอ ในงาน ซานดิเอโก ตอมมิคอน ทางค่ายฮาสโบรได้เอ่ยว่า แวนฮูฟเวอร์เป็นบ้านเกิดขององค์หญิงแคนเดสท์ ชื่อล้อมาจาก แวนคูฟเวอร์ ในรัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดา
หมู่บ้านเท่าเทียม (Our Town)[]
หมู่บ้านตามป่าเขา ก่อตั้งโดย สตาไลท์กลิมเมอร์ อดีตยูนิคอร์นผู้เกลีนดชังคิ้วตี้มาร์ค หมู่บ้านนี้มีแต่โพนี่ที่ถูกล้างสมอง กลายเป็นบ้า ยิ้มตลอดเวลา โพนี่ที่ไม่เห็นด้วยก็จะถูกขังไว้ในห้องเล็กๆ และมีเสียงประกาศที่เป็นการล้างสมอง อยู่ไปเรื่อยๆจนเห็นด้วยและกลายเป็นบ้าไปในที่สุด ใครก็ตามที่หลงเข้ามา ณ หมู่บ้านนี้ มีอันต้องถูกขโมยคิ้วตี้มาร์คและล้างสมองเกือบทุกตัว แต่อย่างน้อยตัวเอกเราก็สู้สตาไลท์ได้ แล้วทำให้หมู่บ้านนี้มีคิ้วตี้มาร์คอีกครั้งและมีรอยยิ้มจริงๆ
ภูเขาเอฟเวอร์ฮูฟ (MT. everhoof)[]
ภูเขาที่สูงที่สุดและอยู๋เหนือสุดในเอเควสเทรีย มีลมแรงมากจนยากที่จะปีนให้ถึงจุดที่สูงที่สุดได้ คือยิ่งสูงยิ่งลมแรง ภูเขาลูกนี้ไม่มีประวัติมากนัก มันก็แค่เป็นที่ กัสตี้ผู้ยิ่งใหญ่เก็บกระดิ่งของโกรกราที่มีชื่อว่า บีวิทชิงเบลล์ โดยเอาไว้ในจุดที่อยู่เกือบสูงที่สุดและใส่คาถาป้องกันไว้อย่างดีเพื่อไม่ให้ใครมาขโมยเอาไปได้ เพราะถ้ามันถูกขโมยได้เมื่อไหร่ เอเควสเทรียถึงวันล่มสลายได้เมื่อนั้น ป.ล. ตรงฐานภูเขามีโพนี่ตาเฒ่าอาศัยอย่ตัวเดียว ชื่อล้อมาจาก ภูเขาเอฟเวอร์เรส ในเนปาล แต่สถานที่นั้นไม่
แคนเทอไรน์ (Canterine)[]
ถูกเอ่ยถึงในคอมมิค Siege of the Crystal Empire
ไร่ต้นโอ๊กหวาน (Sweet Acorn Orchard)[]
ไร่โอ๊กของครอบครัวนัท ปรากฏในตอนพิเศษ Best Gift Ever มีเจ้าของเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกที่ยากจน แต่หลังจากที่แรริตี้ยอมให้หมวกที่เคยเป็นของขวัญของแอปเปิลแจ็คแก่วันฮาร์ทวอร์มมิ่ง พวกเขาก็มีความหวังและอุ่นใจ
ภาคใต้[]
แอ่งเขาเทกโนทิแคน (Tenochtitlan Basin)[]
แอ่งเขาเทกโนทิแคนเป็นภูมิภาคทางใต้ของเอเควสเทรีย เต็มไปด้วยป่าไม้ป่าทืบ มีวิหารทาลาคอนกับอารยธรรมโบราณ ไม่มีโพนี่ตัวไหนอาศัยอยู่เลยยกเว้นแดริ่งดูที่อาศัยอยู่ในบริเวณแห่งนีเพื่อเป็นการเก็บตัวซ่อนของมีค่าไว้ เป็นสถานที่หลักในตอน Daring Don't ชื่อได้เอาแบบมาจากอารยธรรมโบราณ เตนอชติตลัน ของเม็กซิโก
แบดแลนด์ (Badland)[]
มันก็เป็นแค่ ภูมิประเทศแบดแลนด์ทั่วไปนั่นแหละไม่มีอะไรมาก แต่ที่ต่างก็คือการที่เราจะเดินทางผ่านมันนั้น เป็นอะไรที่ไม่ดีเลยเพราะสถานที่นี้ค่อนข้างที่จะอันตรายหน่อย ดีไม่ดีถ้าเป็นเปกาซัสบินไปอย่างรวดเร็วอาจไปชนกับยอดหินโดยที่ยังไม่ตั้งตัวเลยก็ได้ โดยรวมแล้วมันก็ไม่มีอะไรต่างจากโลกของเราหนิ
บึงไกเซอร์เพลิง (Flame Geyser Swamp)[]
บึงแห่งไฟที่เต็มไปด้วยความอันตรายต่างๆนาๆ แอ่งลาวา ควันไฟที่คอยบดบังทัศนียภาพ บรรยากาศสีส้มดั่งเปลวไฟ และสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ ชิมีนา ปีศาจที่เกิดจากการฟิวชั่นกันของสัตว์ 3 ตัว ได้แก่ เสือ แพะและงู โดยสัตว์ประหลาดตัวนี้จะคอยจับกินโพนี่ทุกตัวที่เข้ามาในบึงนรกนี้ แต่ไม่ต้องห่วงมันก็มีจุดอ่อนเช่นกัน ไปหาดูในตอน Some pony watch over me นะ
ยอดเขาแซดเดิลฮอร์น (Saddle Horn Peak)[]
ยอดเขาที่ถูกกล่าวถึงเป็นแผนที่ในคอมมิคหลักเล่ม 2 หน้า 22 และเล่ม 41 หน้า 12
ป่าต้องห้าม (Forbidden Jungle)[]
ป่าทืบที่ไม่ได้ยกมากล่าวถึงอะไรมากทั้งในซีรี่ย์และคอมมิค มันก็แค่ป่าทึบธรรมดาเนี่ยแหละ
ลำธารปินโต (Pinto Creek)[]
กล่าวถึงใตอน Appleoosa's Most Wanted.
เปอย์โต คาบาลโล (Puerto Caballo)[]
เคยกล่าวถึงในตอน Dungeons & Discords และคอมมิค Legends of Magic เล่ม 6 ถูกอธิบายไว้ว่า เปอย์โตคาเบลโลเป็นชายหาดเขตร้อนอันแสนสวยงาม มีทรายนุ่มเท่าผงน้ำตาล ตัวสถานที่ยังไม่ทราบว่าล้อมาจากไหนกันแน่ระหว่าง เปอย์โตคาเบลโลในเวเนซูเอลลา หรือเกาะเปอร์โตริโก หรือไม่ก็เปอร์โตวาลลาตาในเม็กซิโก
วิหารบาดาลแห่งเตหุติ (Submerged Temples of Tehuti)[]
อยู่ในนิยาย แดริ่งดูกับโจรแห่งมาลาโปร์
คาบสมุทรยูคาแทน โพนีซูลา (Yucatán Ponynsula)[]
อยู่ในนิยาย แดริ่งดูกับโจรแห่งมาลาโปร์ ชื่อล้อมาจากคาบสมุทรยูกาตัน
หมู่เกาะกาลัปปิงโกสท์ (Gallopinghost Islands)[]
อยู่ในนิยาย แดริ่งดูกับโจรแห่งมาลาโปร์ ชื่อล้อมาจาก หมู่เกาะกาลาปาโกส
วิหารตราเตโลโกที่สาบสูญ (Lost Temple of Tlatelolco)[]
อยู่ในนิยาย แดริ่งดูกับโจรแห่งมาลาโปร์ ล้อมาจาก ชนเผ่าตราเตโลโก ในเม็กซิโก
ทะเลทรายโบนดราย (Bone Dry Desert)[]
ทะเลทรายที่อยู่ใต้ป่าทึบของเอเควสเทรีย มีพื้นที่ใหญ่เท่าๆทะเลทรายซาฮารา การที่จะเดินทางให้ผ่านไปนั้น เป็นอะไรที่ไม่ดีเลย เพราะมันร้อนมากบวกกับระยะทางไกล อาจทำให้ผู้เดินทางขาดน้ำได้ ถ้าลองสังเกตดีๆทะเลทรายนี้จะเหมือนเป็นพรมแดนข้ามอาณาจักรที่สิ่งมีชีวิตตัวอื่นอาศัยอยู่ที่ไม่มีโพนี่ ซึ่งนั่นก็คือเมืองคลูดจ์ทาวน์
ยุโรปในเอเควสเทรีย[]
สตราตัสเบิร์ก (Stratusburg)[]
เมืองที่มีเปกาซัสอาศัยอยู่ แต่ว่าไม่ได้อยู่บนเมฆ กลับตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่เขียวขจีแทน แต่มันก็มีเมฆเยอะอยู่นะก็เพราะมันอยู่บนที่สูง ยิ่งสูงยิ่งมีเมฆ เมืองนี้ปรากฏในตอน Top Bolt ในรูปแบบความหลังของ สกายสติงเกอร์กับเวเปอร์เทรล ตัวละครหลักในตอนนี้ เมืองนี้เอาชื่อมาจากเมืองสตราสเบิร์กในฝรั่งเศส (แต่เสียดายสกายกับเวเปอร์ เวลาพูดไม่ใช่สำเนีบงฝรั่งเศส)
โมนาโคลท์ (Monacolt)[]
เมืองชายฝั่งที่อยู่ห่างไกลจากแผ่นดินหลักของเอเควสเทรีย ปกครองโดยดัชเชสไดมอนด์เวฟ ถูกเล่าในหนังสือ Princess Celestia and the Summer of Royal Waves , Princess Twilight Sparkle and the Forgotten Books of Autumn, The Festival of Lights, และ The Bestiary of Equestria. เนื่องจากมันอยู่ในหนังสือที่ดันไม่มาขายที่ไทย เราจึงไม่มีข้อมูลมากนัก ชื่อล้อมาจากประเทศ โมนาโค
ทรอทแลนด์ (Trotland)[]
เมืองที่อยู่นอกแดนหลักอีกเมือง มันก็ปรากฏแค่ครั้งเดียวในคอมมิคเล่ม 83 โดยเนื้อเรื่องเนี่ยมันเกี่ยวกับทไวไลท์และสไปค์จะไปดูการแข่งเต่าที่จัดขึ้นที่นี่แล้วดันเกิดเรื่องเข้า คือมีเต่าที่เดินเร็วที่สุดหายไป แล้วทั้งสองตัวก็ต้องช่วยกับเจ้าของออกตามหา ตัวเมืองถ้าดูในรูปก็รู้สึกว่า มีความเป็นอังกฤษผู้ดี มันไม่แปลกเลยเพราะชื่อเมืองล้อมาจากประเทศ สกอตแลนด์
แมร์โทเนีย (Maretonia)[]
ไม่ปรากฎเป็นเมืองแต่เป็นผู้ปกครองที่นั่นแทน ในตอน Equestria Game ดยุคและภรรยาแห่งแมร์โทเนียนั่นได้มาเข้าร่วม(ม้าแก่ๆ ชุดสไตล์อังกฤษโบราณน่ะ ) งานกีฬาเอเควสเทรีได้ถูกกล่าวถึงอะไรเลย แต่ก็ทำให้เรารู้ว่า เอเควสเทรียนั้นไม่ได้เป็นแค่ทวีปอเมริกาในชีวิตจริง อาจจะเป็นทุกทวีปเลยก็ได้ หรือเอเควสเทรียอาจจะเป็นชื่อของดาวเคราะห์โพนี่ก็เป็นได้ (นอกเรื่องอีกแล้ว) ชื่ออาจจะล้อมาจากประเทศ มาซีโดเนียหรือไม่ก็ เอสโตเนีย
ทรอทซีเวเนีย (Trotsylvania)[]
ปรากฏเป็นชื่อหนังสือในหน้า 5 ของคอมมิค The fall of Sunset Shimmer แค่นี้แหละ ชื่อล้อมาจาก ทรานซิลเวเนีย จากประเทศโรมาเนีย
เทรส (Thrace)[]
ปรากฏในคอมมิค Feat of Friendship เป็นเนื้อเรื่องเพิ่มเติม เรื่องก็มีอยู่ว่า ดินแดนนี้เป็นถิ่นกำเนิดชนเผ่าโพนี่ที่มีนามว่า ทาเซียน ปกครองโดยกษัตริย์ดิโอเมดส ชื่อล้อมาจากชนชาติเธรส ในบริเวณยุโรปใต้
ดรันกา (Drungar)[]
บ้านเกิดของ เทมเปสชาโดว์ ปรากฏในหนังสือ The Stormy Road to Canterlot
แอฟริกาในเอเควสเทรีย[]
ซอมนัมบูลา (Somnambula)[]
เมืองอาหรับแห่งเอเควสเทรีย ที่นี่มีชื่อเสียงมาจากวีรสตรีโบราณเมื่อประมาณ 1000 ปีที่แล้ว ที่มีนามว่า ซอมนัมบูลา เปกาซัสผู้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆและเชื่อในความหวัง ทำให้ชาวเมืองยกย่องเธอ และเพื่อเป็นการคารวะ พวกเขาจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น นครซอมนัมบูลา ตั้งแต่นั้นมา ในยุคปัจจุบันนั้น นครนี้มีการพัฒนาทันยุคสมัย สังเกตได้จาก มีโพนี่ที่ไม่ใช่อาหรับซึ่งเป็นม้าท้องถิ่นมาท่องเที่ยว มีโรงแรม ตัวเมืองมีการเข้าถึงสาธารณสุข เป็นต้น แต่อย่างไรซะ ของเก่าๆก็มี อย่างเช่นพีระมิดหลายแห่ง อนุสาวรีย์วีรสตรีซอมนัมบูลาที่ถูกสร้างมานานมากซอมนัมบูลาเอาแบบมาจากประเทศอียิปต์ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเมืองใด ไคโรก็ไม่น่าใช่เพราะเมืองนั้นไม่ได้เป็นทะเลทราย
แมริเดียน (Mareidian)[]
ปรากฎในคอมมิค legend of magic เล่ม 6 ก็เมืองธรรมดาทั่วไปอีกเมืองนั่นแหละ แต่ว่ามันมีโรคระบาดที่เกิดมาจากกบในเมือง แล้วทำให้โพนี่ทุกตัวเป็นซอมบี้ที่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ โชคดีที่มีวันนึงที่เมจเมโดบรูค เดินทางผ่านมา เธอคิดค้นยารักษาได้และทำให้ชาวแมริเดียนกลับมาเป็นปกติ
แมธาเนีย (Maretania)[]
องค์หญิงแคนเดสท์ได้เอ่ยถึงที่นี่ในตอน Three's A Crowd ไว้ว่า "พ่อมดที่ยิ่งใหญ่อย่างสตาเสวิร์ลเดอะเบียด เคยไปสำรวจที่ถ้ำแห่งแมธาเนียด้วยนะ" ชื่อเอาแบบมาจากประเทศมอริเตเนีย
ออแชบ (orshab)[]
ปรากฏในนิยาย แดริ่งดูกับดอกไม้แห่งนิรันด์ ในเนื้อเรื่องมูนเคิร์ฟจอมเจ้าเล่ห์เล่าว่าที่นี่มีดอกไม้แห่งนิรันด์ในตำนาน โดยออแชบเป็นเมืองหลักในนิยายนี้
หมู่เกาะสกาลี (Isles of Scaly)[]
เกาะทั้ง 5 มีออคเทฟ (Octave) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด และเป็นบ้านเกิดของกรอทโทแห่งจันทราและยังเป็นต้นกำเนิดของดอกไม้อันนิรันด์ ถูกเล่าในนิยายแดริ่งดูกับดอกไม้อันนิรันด์
ทิวเขาที่ถูกลืมเลือน(Forgotten Hills)[]
ทิวเขาอันหนาวเหน็บที่มีน้อยโพนี่นักจะเข้ามา และเป็นที่ที่เทมเปสชาโดว์ได้พบกับสตอร์มคิงเป็นครั้งแรก
ออนิเทีย (Ornithia)[]
บ้านเเกิดของกัปตันเซเลโนและพรรคพวกนกแก้วของเธอ ถูกเล่าในหนังสือ Beyond Equestria: Rainbow Dash Rights the Ship
เอเชียในเอเควสเทรีย[]
มุสแทนเกีย (Mustangia)[]
ถูกกล่าวถึงโดย คุณพีชบอททอม จากตอน Game Ponies Play มีประโยคหนึ่งที่เธอสนทนากับไชน์นิ่งอาร์มเมอร์ว่า "ฉันก็เป็นแค่ม้ามุสแทงทั่วไป ที่มาจากมุสแทนเกีย" คำว่ามุสแทงหรือมุสแทนเป็นชื่อสายพันธุ์ชนิดหนึ่งของม้าในแถบอเมริกาตะวันตก (แต่ถ้าอ้างอิงจากแผนที่แล้ว มุสแทนเกียจะอยู่แถบเอเชียกลางในโลกโพนี่
ชีร์ลังกา (Shire Lanka)[]
ถูกกล่าวถึงในตอน The Last Cruade และ คอมมิคหลักเล่มที่ 93 แสนบชัทเตอร์และเมนออลกูดพ่อแม่ของสกูตาลูทำงานอยู่ที่นั่น (อาชีพนักสำรวจ เพราะไชร์ลังกามีแต่ป่า) สถานีรถไฟเอเควสเทรียจะเปิดบริการไปที่นั่นแค่วันละเดือน เพราะมันไกลมาก ชื่อมีต้นแบบมาจากประเทศ ศรีลังกา
ออสเตรเลียในเอเควสเทรีย[]
ฮูฟฟิงตัน (Hoofington)[]
เป็นสถานที่ที่ทริกซี่กล่าวอ้างว่าเธอไปสู้กับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่ชื่อว่า อูซ่าเมเจอร์จากตอน Boast Buster ฮูฟฟิงตันเป็นไปได้ว่าอาจจะมีชื่อมาจากเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ แต่ก็ยังไม่คอนเฟิร์ม เนื่องจากมีหลายเมืองทั่วโลกที่ลงท้ายว่า อิงตัน (ing-ton)
ทะเลสาบแฟลชฟรีซ (Flash Freeze Lake)[]
เป็นสถานที่ที่ลาแคลงกี้ดูเดิลพบกับพญานาคสตีเฟนแมกเนทพบกันครั้งแรกจากการที่สตีเฟนได้ช่วยแคลงกี้ไว้ ถูกพูดถึงในฉากของทั้งคู่ในตอน Slice of Life
อาณาเขตที่มีการปกครองเป็นของตัวเอง[]
เอเควสเทรียไม่ใช่ชื่อโลก แต่เป็นชื่อของภูมิภาคหรือทวีปๆหนึ่ง มีประชากรเป็นเหล่าโพนี่ทั้ง 4 ชนิด ทวีปนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด ประชากรเยอะที่สุด มีความเจริญที่สุดและมีความสุขที่สุด ส่วนที่เหลือของโลกนั้นเป็นอาณาเขตที่มีการปกครองเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่มีพื้นที่ไม่กว้างใหญ่ไพศาล มีประชากรที่เป็นชนชาติอื่นที่ไม่ใช่โพนี่ เราจะสังเกตได้จากลิสต่อไปนี้ที่ตัวละครต่างๆได้แสดงว่าเอเควสเทรียนั้นมิใช่ที่ที่เดียวบนโลก
- ตอน Pinkie Apple Pie มีท่อนหนึ่งจากเพลง Apple to the core ที่ร้องว่า "พวกเราร้องเพลง บรรเลงไปทั่วทั้งเอเควสเทรียไปจนทุกแห่ง"
- ตอน Suited for Success ฟลัทเทอร์ชายบอกแรริตี้ให้ทำชุดสไตล์ฝรั่งเศสมาให้เธอ
- ตอน The Cutie Pox แอปเปิลบลูมโดนพิษจากโรค คิ้วตี้พอกซ์ ทำให้ได้สกิลใหม่เป็นการพูดภาษาฝรั่งเศส
- ตอน The Canterlot Wedding ราชินีคริสซาลิสได้กล่าวว่า "เอเควสเทรีย มีความรักให้ข้าดูดกลืนมากกว่าที่ใดในโลก"
- ตอน Pinkie Pie ชีสแซนวิช พูดถึงเสื้อฮาวายเอี้ยนของเขา โดยเสื้อฮาวายเอี้ยนมีต้นกำเนิดจากฮาวาย
จากลิสต่อไปนี้ แสดงให้เห็นว่าเอเควสเทรียเป็นดินแดนที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก และมีสถานที่อื่นอีกมากหมายที่รอให้ตัวละครเอกมาค้นพบ ต่อไปนี้ นี่คือลิสของดิแดนที่มีการปกครองเป็นของตัวเอง นอกเหนือจากการปกครองของสองพี่น้องราชวงศ์
แดนมังกร (Dragon Land)[]
แดนมังกร ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใครอยู่ มันก็คือถิ่นของมังกรนั่นแหละ มีภูมิประเทศเป็นเกาะลาวาหรือเกาะภูเขาไฟ มีประวัติอยู่ว่า เป็นดินแดนที่จามรีกับมังกรค้นพบที่อยู่ใหม่สำหรับมังกรที่พ่ายแพ้สงครามแย่งดินแดน ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศสันติกันในที่สุด เดิมทีนั้นมังกรในแดนนี้แทบจะเหมือนกับศัตรูของทุกแห่ง คือมีนิสัยอันธพาล หัวรุนแรง ขี้แกล้ง ทำให้โพนี่ทุกตัวติดภาพจำไปอย่างนั้น แต่ก็ต้องขอบคุณสไปค์ที่สามารถแสดงถึงลักษณะของมิตรภาพแก่หัวหน้ามังกรตัวใหม่ได้ เอ็มเบอร์นั่นเอง ทำให้มังกรในถิ่นนี้มีนิสัยที่ดีขึ้นและมีควาสัมพันธ์กับเอเควสเทรียอย่างดีงาม
ฟาราซี (Farasi)[]
(จากคอมมิคหลักเล่มที่ 89 - 92) ฟาราซีเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ 3 ชนิด ได้แก่ ม้าลาย , เคลป์ปี้เจ้าพญานาคฉบับต่างประเทศ และอบาดา ยูนิคอร์นตามความเชื่อของชาวแอฟริกัน ทั้งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของซีโกรา ฟาราซีมีภูมิประเทศแบบชายฝั่ง สะวันนาและทะเลทราย มีแบบมาจากทวีปแอฟริกา คำว่าม้าในภาษาสวาฮิลี คือคำว่า ฟาราซีนั่นเอง
คาซาบรอนโค[]
คาซาบรอนโคเป็นเมืองท่าของฟาราซี จะเห็นได้จากแอปเปิลแจคและผองเพื่อนได้มาจอดเรือที่ท่า ณ เมืองนี้ และถ้าดูรอบๆก็จะเห็นท่าเรือจำนวนมากมาย ชื่อมีแบบมาจาก คาซาบรานคา เมืองหลวงของโมรอคโก
ซีบราท[]
เมืองหลวงของฟาราซี และเป็นเมืองที่ซีโกราเติบโตมา
แซดเดิล อราเบีย (Saddle Arabia)[]
อาณาจักรทะเลทรายที่เราจะไม่มีวันเห็นตัวเมือง มีแต่การกล่าวถึงเท่านั้น ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากเอเควสเทรีย มีประชากรเป็นม้าที่ดูแตกต่างจากโพนี่ชาวเอเควสเทรียโดยสิ้นเชิง เนื่องด้วยมีตัวที่สูงใหญ่กว่าและไม่มีคิ้วตี้มาร์ค แต่ก็ยังคงไว้ความหลากสีอยู่เหมือนเดิม การถูกกล่าวถึงมีดังต่อไปนี้ Magic Duel ผู้ปกครองแห่งแซดเดิลอราเบียได้มารับชมการแสดงที่แคนเทอลอท Friend Forever #32 อฮุลิโซทลกับดร.คาบาเรลอน พูดถึงแผนการบางอย่างที่วางไว้ในแซดเดิลอราเบีย The Movie 2017 ในฉากเปิดตัวเราจะได้ยินโพนี่ตัวหนึ่งพูดว่า "โพนี่จากทั่วทุกสารทิศ ทั้งเมนฮัตตันหรือแม้แต่แซดเดิลอราเบีย ก็ยังมางานเฉลิมมิตรภาพด้วย" และRoad to Friendship ฮูแฟร์ ยูนิคอร์นชาวแซดเดิลอราเบีย เชิญชวนให้ทริกซี่มาแสดงมายากลที่อาณาจักรของเขา โดยอ้างว่าที่นั่นมีแฟนๆของทริกซี่เต็มไปหมด ชื่อมีแบบมาจาก ประเทศ ซาอุดิอราเบีย ส่วน saddle นั้นแปลว่า อานม้า
ยอดเขาแห่งภัยร้าย (Peak of Peril)[]
ยอดเขาแห่งภัยร้ายเป็นถิ่นที่อยู่ของคิริน สิ่งมีชีวิตว์รักสงบ แต่เมื่อมีความโทสะจะกลายร่างเป็น นิคริ ปีศาจเพลิงแห่งความโมโห จนในตอน Sound of Silence แอปเปิลแจคกับฟลัทเทอร์ชาย ได้อธิบายวิธีควบคุมความโกรธให้แก่พวกคิรินฟัง ในที่สุด หุบเขาคิรินได้เป็นพันธมิตรกับเอเควสเทรีย เนื่องด้วยการสอนที่ดีของพวกเขา มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยซะวันนาและทะเลทรายในรูปแบบของออสเตรเลีย และเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟแห่งชาติเอเควสเทรีย
กริฟฟอนสโตน (GriffonStone)[]
กริฟฟอนสโตนเป็นที่อยู่ของพวกกริฟฟอน มีภูมิประเทศเป็นสันเขา บ้านเมืองดูยากจนและนิสัยของชาวเมืองก็ออกทางลบ เนื่องจากในอดีต ปีศาจที่มีนามว่า "อริมาสพิ" ได้มาขโมยสมบัติทรัพย์สินทั้งหมดไป แต่ดันร่วงเหวตายตอนหนีรวมถึงสมบัติที่มันเอามาด้วย เมื่อไม่มีเงินทอง บ้านเมืองก็ยากจน กลายเป็นความเหลื่อมล้ำที่ส่งมารุ่นต่อรุ่น โชคยังดี ในตอน The Lost Treasure of Griffonstone เรนโบว์แดชและพิ้งค์กี้พายสามารถโน้มน้าวให้กริฟฟอนกลับมามีนิสัยที่ดีเหมือนเดิมได้ จนในที่สุด กริฟฟอนสโตนก็ค่อยๆกลายเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองได้อีกครั้ง
ยักยากิสถาน (Yakyakistan)[]
ยักยากิสถานเป็นอาณาจักรของพวกจามรี ตั้งอยู่บนภูเขาสูงและติดกับเทือกเขา มีหิมะปกคลุมทั้งปี มีประวัติอยู่ว่า เมื่อหลายพันปีที่แล้ว พวกจามรีกับมังกรเคยทำศึกสงครามแย่งดินแดนมาก่อน และผู้ชนะก็คือจามรี พวกเขาได้ครอบครองพื้นที่แห่งนั้นไป ซึ่งนั่นก็คือยักยากิสถานในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสร้างสันติ เจ้าชายอูลิเซสผู้ปกครองจามรีในช่วงนั้นได้เดินทางตามหาดินแดนให้มังกร จนในที่สุดก็ค้นพบและที่แห่งนั้นก็กลายเป็นอาณาจักรของมังกรในปัจจุบัน เจ้าชายอูลิเซสได้พระราชทานบรรดาศักดิ์แก่พวกมังกรว่า "จามรีผู้มีเกียรติ" โดยที่ฉายานั้นจะไม่มีใครแย่งไปได้ หลายปีต่อมา จามรีก็เป็นดินแดนปิดด้วยสาเหตุใดก็ไม่ทราบ จนมาถึงตอน Party Pooped ยักยากิสถานก็เปิดประเทศและสร้างไมตรีให้กับสิ่งมีชีวิตทั่วโลก ยักยากิสถานอยู่ทางตะวันตกของอาณาจักรคริสตัล คล้ายกับรัฐอลาสกา แต่เป็นในรูปแบบของมองโกล
อาณาจักรเชนจ์ลิ่ง (Changeling Kingdom)[]
ปราสาทเชนจ์ลิ่ง[]
ปราสาทเชนจ์ลิ่งตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของเอเควสเทรีย อยู่บนหน้าผาริมน้ำ พวกเชนจ์ลิ่งได้เข้ามาทำรังที่นี่หลังจากหลบหนีที่ภูเขาไฟหมื่นองศา ไม่ต้องห่วงว่าโพนี่ที่อยู่ในนั้นจะโดนกิน เพราะว่ามันร้างอยู่แล้ว ภายในปราสาทเต็มไปด้วยรังของเชนจ์ลิ่งหลายห้องและบางห้องก็มีไปด้วยความสับสนมืนงง เนื่องจากเมื่อเปิดประตูเข้าห้องใดห้องหนึ่ง มันจะเหมือนเป็นการสุ่มห้องให้ผู้ที่จะเข้า ส่วนใหญ่ห้องที่สุ่มได้ก็จะเกี่ยวกับความกลัวในใจของผู้ที่เปิด ราชินีคริสซาลิสอาศัยในห้องบัลลังก์โดยมีลูกแก้ววิเศษของอดีตผู้อยู่อาศัย ในคอมมิค Fiendship is magic เล่ม 5 ฝูงเชนจ์ลิ่งทั้งหมดได้หลบหนีออกมา เนื่องจากปราสาทของพวกมันกลายเป็นที่คุมขังแทน รังใหม่ที่พวกมันจะสร้างคือทางทิศตะวันออก
อาณาจักรเชนจ์ลิ่ง[]
อาณาจักรเชนจ์ลิ่งคือที่อยู่อาศัยของเชนจ์ลิ่งในปัจจุบัน เนื้อเรื่องต่อจากปราสาทเชนจ์ลิ่ง ฝูงเชนจ์ลิ่งได้มาสร้างที่อยู่ใหม่ โดยคราวนี้มีความมึนงงกว่าเดิมสำหรับผู้ที่ไม่ใช่เชนจ์ลิ่ง เนื่องจากรังใหม่มีรูปทรงรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้ว่าจะเดินทางให้ดีขนาดไหน ก็ยังหลงอยู่ดี แถมเวทย์มนตร์ยังใช้ไม่ได้อีกด้วย มีห้องบัลลังก์ของคริสซาลิสเหมือนเดิม ธรรมชาติโดยรอบดูมืดมน หญ้าเหี่ยว ไม่มีชีวิตชีวา หลังจากคริสซาลิสถูกกำจัดออกไป พวกเชนจ์ลิ่งกลับตัวกลับใจ มีดีไซน์ใหม่ที่น่ารักกว่าเดิม อาณาจักรและธรรมชาติโดยรอบกลับมามีความสวยงามอีกครั้ง ภายในรังก็เหมือนกับหมู่บ้านโพนี่ทั่วไป เชนจ์ลิ่งสามารถมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องถูกบังคับ (การกระทำที่ไม่ส่งผลเสียต่อใครเท่านั้น) ปกครองโดย ทอแรกซ์ เชนจ์ลิ่งตัวแรกที่สามารถกลับตัวกลับใจได้
คลูดจ์ทาวน์ (Kludgetown)[]
อ่านได้ 2 แบบ คือ คลูดต์ทาวน์กับคลัดจ์ทาวน์ โดยผู้เขียนขออ่านว่าคลูดจ์ทาวน์ คลูดจ์ทาวน์เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้สุดของทวีปเอเควสเทรีย อยู่นอกเหนือการปกครองของ 2 พี่น้องราชวงศ์ เพราะประชากรทั้งหมดไม่ใช่โพนี่แต่เป็นพวกสัตว์อื่นๆแทน และเมืองนี้ก็มีแต่สลัมเต็มไปหมด ประชากรเห็นเงินสำคัญไปกว่าสิ่งใด มีการลักขโมย ขายทาส ซื้อตัว ปล้น มีสิ่งก่อสร้างที่ถูกปล่อยร้างเยอะมาก มีเจ้าพ่อมาเฟียเป็นตัวตุ่น พูดง่ายๆคือคลูดจ์ทาวน์เป็นเมืองที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด มีประชากรเป็นจำนวนมาก คลูดจ์ทาวน์ตั้งอยู่ที่ทะเลทรายโบนดราย และติดกับชายฝั่งตอนใต้
เมาท์แอริส (Mount Aris)[]
เมาท์แอริสเป็นอาณาจักรของฮิฟโปกริฟ สิ่งมีชีวิตครึ่งม้าครึ่งเหยี่ยว มีภูมิศาสตร์เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มียอดเขาสูงๆ มีธรรมชาติสวยงามทั้งป่าไม้และชายหาด เมืองหลวงชื่อว่า ฮิฟโปกริฟเฟีย ตั้งอยู่บนยอดเขา มีประวัติอยู่ว่า นานมาแล้ว เมาท์แอริสท์เป็นดินแดนที่สงบสุขมาเนิ่นนาน แต่มันก็ต้องจบลงไป เพราะว่ากองทัพของสตอร์มคิงได้เข้ามาบุกยึดที่นี่เพื่อขโมย Magic Peral ทั้งสองฝ่ายสู้กันเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายด้วยกำลังและกองทัพที่เหนือกว่าของสตอร์มคิง ทำให้ฮิฟโปกริฟเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องสูญเสียอาณาจักรของพวกเขาไป เหล่าฮิฟโปกริฟจึงต้องใช้เวทย์มนตร์จากอาณาจักรข้างๆเสกตัวเองให้กลายเป็น ซีโพนี่ ไปอยู่ในอาณาจักรใต้น้ำที่มีชื่อว่า ซีเควสเทรีย ดีกว่าถูกจับไปเป็นทาสของสตอร์มคิง โชคดีที่หยิบ Magic Pearl มาด้วย ทำให้การบุกของสตอร์มคิงเสียปล่าว ผ่านไปหลายปี เมาท์แอริสเหลือแต่ซากปรักหักพังและกลายเป็นดินแดนรกร้าง ต่อมาในภาค The Movie ตัวเอกก็สามารถปราบสตอร์มคิงลงได้ พร้อมได้ช่วยเหล่าฮิฟโปกริฟให้เป็นอิสระ พวกเขาตัดสินใจบูรณะเมาท์แอริสท์ใหม่ และสุดท้ายเมาท์แอริสก็กลับมาเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือโด่งดังกว่าเดิม เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวโพนี่และรถไฟนานาชาติเอเควสเทรียก็สร้างสถานีใหม่ที่นี่อีกด้วย เมาท์แอริสตั้งอยู่ ณ ทะเลตอนใต้ ข้างๆคลูดจ์ทาวน์และซีเควสเทรีย
ซีเควสเทรีย (Seaquestria)[]
อาณาจักรใต้น้ำ ที่อยู่ของซีโพนี่ สิ่งมีสิ่งมีชีวิตครึ่งม้าครึ่งปลา พูดง่ายๆก็คือเงือกนั่นแหละ ปกครองโดยราชินีโนโว มีพระราชธิดานามว่า องค์หญิงสกายสตาร์ ซีเควสเทรียอยู่ใต้น้ำลึก มีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ไม่รู้ว่ามันสร้างได้ยังไงทั้งๆที่มันอยู่ใต้น้ำ ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับซีเควสเทรียมากนัก เพราะมีบทบาทเด่นแค่ภาค The movie หลังจากนั้นในซีรี่ย์จะไปโฟกัสที่ฮิฟโปกริฟแทน เหมือนกับว่าซีเควสเทรียเป็นอาณาจักรที่ถูกลืม
อบิสซีเนีย (Abyssnia)[]
อบิสซิเนียเป็นอาณาจักรแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากทวีปเอเควสเทรีย มีเมืองหลวงชื่อว่า แพนธีรา มีแมวพูดได้เดินได้เหมือนคนอาศัยอยู่ แน่นอนเป็นบ้านเกิดของแคปเปอร์ แมวจากภาค The Movie อาณาจักรแห่งนี้เคยถูกรุกรานและฉกชิงทรัพย์สินไปจากน้ำมือของสตอร์มคิง ในคอมมิค Movie Prequel เล่ม 1 ในหน้าแรกเราจะเห็นแผนที่ของอเบซิเนีย มีสถานที่ต่างๆดังนี้ แคทสกิล เฮนรี่ สันเขาลิทเทอร์บอกซ์ แพนธีราเมืองหลวง สยาม(ไม่ใช่ไทยนะ)และแทบบี้ทาวน์ ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับอเบซิเนีย แต่ในคอมิคซีซั่น 10 เล่มที่ 96 จะเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งนี้ เดี๋ยวในอนาคตถ้าหนังสือออกแล้ว จะกลับมาอัพเดทข้อมูลอีกที(ยังอ่านไม่ถึง ผมจะขอไม่สปอยตัวเอง:)
แหล่งน้ำ ทะเลและมหาสมุทร[]
ทะเลเซเลสเชียล (Celestial Sea)[]
อยู่ทางตะวันออกของทวีปเอเควสเทรีย มีรูปแบบมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก
มหาสมุทรลูน่า (Luna Ocean)[]
อยู่ทางตะวันตกของทวีปเอเควสเทรีย มีรูปแบบมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก
อ่าวเกือกม้า (Horseshoe Bay)[]
อยู่ทางใต้ของเมืองบอลติแมร์ มีรูปแบบมาจากอ่าวชีซาพีคในบอลติมอร์
อ่าวลูน่า (Luna Bay)[]
อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองแวนฮูฟเวอร์ มีรูปแบบมาจากอ่าวอลาสกา
แม่น้ำกุโต (Guto River)[]
อยู่ทางเหนือของกริฟฟอนสโตน
ทะเลฟิลลี่ปินส์ (Fillypine Sea)[]
ถูกกล่าวถึงในหนังสือ Daring Do and the Marked Thief of Marapore
สถานที่ที่มิอาจกำหนดตำแหน่งที่ตั้งได้[]
เมาท์เมโทซา (Mount Metazoa)[]
ปรากฏในคอมมิคเล่มที่ 61 และ 62 เม้าท์เมโทซ่า ภูเขาสูงใหญ่และบรรยากาศสวยงาม เป็นสถานที่จัดงาน "Convocation of Creatures" หรืองานประชุมแห่งเผ่าพันธุ์ โดยงานนี้จะมีตัวแทนของสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์จากทั่วโลกมาปรึกษาหาลือในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สนธิสัญญา ฯลฯ มีห้องสมุดยักษ์ที่เลขาของแต่ละเผ่าใช้จัดเก็บข้อมูลของอาณาจักรตนเองและทิ้งข้อมูลที่หมดอายุหรือไม่ใช้แล้ว (มีเป็นพันกว่าชิ้น) นอกจากความตรึงเครียดแล้ว เมาท์เมโทซายังเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยประชากรจากแต่ละเผ่าสามารถมาแบ่งปันวิถีชีวิตของจนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง อาหารการกิน เป็นต้น งานประชุมครั้งล่าสุดห่างจากครั้งที่แล้วเป็นเวลาประมาณ 743 ปี งาน Convocation of Creatures มีลักษณะคล้ายๆกับงานประชุมสหประชาชาติหรือ UN ในชีวิตจริง
เคออสวิลล์ (Chaosville)[]
เคออสวิลล์เป็นมิติและทื่อยู่อาศัยของดิสคอร์ด ดิสคอร์ดหรอ แน่นอนว่าที่นี่มีแต่อะไรก็ไม่รู้ มันมีความวุ่นวายมากๆ แบล็กราวด์คืออะไรก็ไม่รู้ มีเกาะลอยฟ้าเต็มไปหมด และหนึ่งในนั้นคือบ้านของเขา ดิสคอร์ดมักอยู่ที่นี่เมื่อเขาไม่ได้มีอารมณ์ไปป่วนกับแก๊งค์เมน 6 ตัวอื่น ที่นอกเหนือฟลัทเทอร์ชาย
ทาทารัส (Tartarus)[]
ทาทารัสเป็นที่คุมขังนักโทษขั้นเกือบสูงสุดของเอควสเทรีย ส่วนใหญ่จะเป็นวายร้ายที่เมื่อเกนพลังแล้วอาจทำให้โลกแตกได้ กับ สัตว์ประหลาดที่เป็นภัยต่อเอเควสเทรีย เช่น บัคแบร์ที่หนีจากการคุมขังมาได้ในตอน Slice of Life สาเหตุที่ทาทารัสเป็นที่คุมขังที่โหดที่สุดในเอเควสเทรีย นั่นก็เพราะ ผู้คุมขังจะไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่ในกรงที่คล้ายๆกรงหมา นั่งโง่ๆไปนับหมื่นปี มันอาจทำให้ผู้ถูกขังกลายเป็นบ้าและเสียสติได้ แต่ไม่ใช่กับสัตว์ประหลาดที่ไม่มีปัญญา บางรายอาจถูกล็อคมืออีก ถ้าคิดจะหนีออกมา ก็โดนหมายักษ์สามหัว เซอร์เบอรัสจับรับประทาน ยกเว้นผู้หนีจะล่อมันได้ ทาทารัสไม่ได้อยู่ในมิติอื่น อาจอยู่สักที่ในเอเควสเทรีย เนื่องจากตอน School Raze แก๊งค์เมน 6 ได้ไปยังทาทารัสเพื่อสืบความจริงจากทิเรค เห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้ใช้เวทมนตร์ข้ามมิติเลย ทาทารัสในโพนี่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ตำนานคุกนรกกรีกที่ใช้ชื่อเดียวกัน เป็นคุกมืดสำหรับทรมานและสร้างความเจ็บปวดแก่คนบาปที่ตกลงมายังนรกนี้ และมีหมายักษ์หลายหัวชื่อว่าเซอร์เบอรัสเฟ้าทางมิให้คนบาปหนีไปได้ แต่โหดและดุกว่าในเอเควสเทรีย
วัตถุท้องฟ้า[]
อาทิตย์และจันทรา[]
แน่นอน ถ้าโลกโพนี่ไม่มีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มันจะอยู่กันยังไง โลกของโพนี่มีแบบมาจากโลกของเราในชีวิตจริง มีทั้งอาทิตย์และดวงจันทร์ มีปรากฏการณ์ของดาวทั้งสอง เหมือนกับโลก มีกลางวันและกลางคืน แต่ว่ามีอยู่อย่างนึงที่นำมาใช้กับโลกนี้มิได้ นั่นก็คือ การหมุนของโลกและการโคจรรอบดวงอาทิตย์ อย่าลืมนะว่า เซเลสเทียมีพลังเคลื่อนย้ายดวงอาทิตย์ ส่วนลูน่าเคลื่อนย้ายดวงจันทร์ อย่างไรก็ตาม แฟนๆหลายคนก็ตั้งทฤษฎีตามแนวคิดของคนโบราณที่ว่า "โลกของโพนี่อาจจะเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ และมีดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก[https://en.m.wikipedia.org/wiki/Equestria 1]" โดยองค์หญิงทั้งสองสามารถควบคุมดาวทั้งดวงให้โคจรรอบโลกได้ อ้างอิงจากตอน Twilight Kingdom part 2 ที่ทไวไลท์ฝึกควบคุมกลางวันและกลางคืน เห็นได้ว่า ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ขยับตามการควบคุมของเวทย์มนตร์ของทไวไลท์ แต่ก็ต้องถูกหักล้างไป นั่นก็เพราะโลกโพนี่ก็เหมือนกับโลกเรา คือมีด้านหนึ่งได้รับแสงอีกด้านหนึ่งไม่ได้ แต่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน จากตอน Lesson Zero ทุกๆ 1 ชั่วโมง เจ๊เซเลสจะเคลื่อนย้ายดวงอาทิตย์ไประยะทางหนึ่ง จนกระทั่งตะวันลับขอบดิน แล้วลูน่าก็จะมาประสานต่อ ท้ายที่สุดก็ยังพิสูจน์ไม่ได้อยู่ดีว่ากลไกเวลาของโลกโพนี่ทำงานกันอย่างไร ทางทีมงานก็ยังไม่บอกเฉลย แต่อย่างไรก็ตาม จักรวาลของเราก็ยังน่าพิศวงพอๆกับโลกโพนี่นั่นแหละ
กลุ่มดาวและดาวตก[]
- ตามตำนานของไนท์แมร์มูน เมื่อเวลาผ่านไป 1 พันปีนับตั้งแต่ที่เธอถูกขัง กลุ่มดาวจะปลดปล่อยเธอออกมาในวันที่ยาวนานที่สุด และนำความมืดมาชั่วนิรันด์
- ปีศาจหมียักษ์จากตอน Boast Buster และคอมมิคหลักเล่ม 60 มีชื่อว่า Ursa Minor Ursa Major เป็นชื่อเดียวกันกับกลุ่มดาวหมีเล็กและหมีใหญ่ตามโลกวามเป็นจริง ถ้าสังเกตดีๆ หมียักษ์ในเรื่องจะมีลายเป็นอวกาศ มีดาวอยู่ด้วย
- ตอน Suited For Success ทไวไลท์ให้แรริตี้ทำชุดของเธอในธีมของอวกาศ เธอพูดถึง กลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวหมาเล็กและหมาใหญ๋อีกด้วย กลุ่มดาวนายพรานก็ยังถูกกล่าวถึงใน คอมมิค Micro-Series เล่ม 2 และ FIENDship is Magic เล่ม 5
- เนบิลลาหัวม้า หรือ Horsehead Nebula ถูกกล่าวถึงในตอน It's About Time และคอมมิคหลักเล่ม 2,4 และ 24
- คอมมิคหลักเล่ม 75-78 วายร้ายที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลนามว่าคอสมอสได้ถูกจับได้และคุมขังอยู่ที่กลุ่มดาวอันดาลูเซียน กลุ่มดาวนี้ประกอบด้วยดาว 6 ดวงและมีรูปร่างคล้ายหัวใจ ผ่านมาหลายปี ได้มีดาวหางได้พุ่งชนกลุ่มดาวนี้ และทำให้ดาวกระจัดกระจาย ส่งผลให้คอสมอสสามารถหลบหนีไปได้
- ตอน Owl's Well That Ends Well ชาวเมืองโพนี่วิลล์รวมตัวกันไปดูฝนดาวตกในยามค่ำคืน
- ฉากสุดท้ายจากตอน Apple Family Reunion มีดาวตก 2 ลูกพุ่งมาในตอนกลางคืนของวันรวมญาติแอปเปิล โดยดาวตกทั้งสองนี้เป็นตัวแทนของ Bright Mac และ Pear Butter พ่อแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วของแอปเปิลแจค
- ดาวหาง Secretariat เป็นดาวหางที่มาทุกๆ 1 พันปี โดยดาวหางนี้จะมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้สิ่งมีชีวิตในเอเควสเทรียกลายพันธุ์หรือได้รับผลกระทบอะไรบางอย่าง เช่น มีพลังมากขึ้น หรือแม้แต่โพนี่อย่างทไวไลท์เองก็โดนผลกระทบจากดาวหางนี้ด้วย ทำให้เธอมีเวทย์มนตร์ที่โหดขึ้น ปรากฏในคอมมิคเล่ม 1-4
ลิมโบ[]
ลิมโบเป็นเส้นทางที่จะพาไปยังอีกมิติคู่ขนานหนึ่ง มีลักษณะคล้ายทฤษฎีรูหนอน คือเป็นเส้นทางที่จะพาไปยังอีกฟากหนึ่งที่เราไม่รู้จัก หรือไม่ก็มิติคู่ขนานที่กล่าวมา โดยมันปรากฏครั้งแรกใน Equestria Girl ในฉากที่ทไวไลท์และสไปค์เข้าไปในกระจกเวทย์มนตร์เพื่อไปยังมิติของมนุษย์ ขอพูดถึงกระจกก่อน กระจกข้ามไปยังโลกต่างมิตินี้ถูกคิดค้นโดย สตาสเวิร์ลหนวดงาม แต่ก็ต้องทำลายไป เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อโลกหลัก ลิมโบกลับมาอีกครั้งในตอนพิเศษ Mirror Magic ฉากที่เจนิเปอร์ มอนเทจ ใช้พลังจากกระจกขังเมน 7 จากโลกมนุษย์ ในกระจกของเธอ ภาค Forgotten Friendship ฉากที่ซันเซทใช้กระจกข้ามไปยังโลกโพนี่
ตัดมาที่โลกของโพนี่ ลิมโบก็ปรากฏในคอมมิคเล่ม 18 ในฉากที่เมน 6 ใช้กระจกข้ามไปยังจักรวาลคู่ขนานที่ตัวร้ายเป็นตัวดี ส่วนตัวดีเป็นตัวร้าย ตอน Shadow Play เมื่อพันปีที่แล้ว เสาหินแห่งเอเควสเทรียได้เสียสละตนเองในการขังโพนี่แห่งเงามืดมาชั่วสหัสวรรษในลิมโบ ถูกแช่แข็งในนั้นไม่ได้ไปไหน ก่อนที่จะถูกปลดปล่อยและโพนี่แห่งเงามืดก็สามารถกลับตัวกลับใจได้
โลกมนุษย์[]
จักรวาลคู่ขนานหลักหนึ่ง โลกมนุษย์เป็นอีกมิติหนึ่งที่โพนี่นั้นกลายเป็นมนุษย์หลากสี มีสังคมวัฒนธรรม เทคโนโลยี และยุคสมัยเดียวกันกับปัจจุบัน พูดง่ายๆก็คือโลกปกติของเรานั่นเอง ในขณะที่โลกโพนี่มีลักษณะคล้ายๆกับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ตัดกลับมาที่ตัวละครบ้าง ดูเหมือนว่าโพนี่วัยทำงานในโลกนี้นั้น จะกลับมาอยู่ในช่วงวัยรุ่นและไปโรงเรียน โดย มีผอ.คือเซเลสเทียและลูน่า ซึ่งมันไม่เมคเซนส์เป็นอย่างมาก เพราะว่าองค์หญิงทั้งสองมีอำนาจมากในโลกม้าและเป็นผู้ปกครองอาณาจักร แต่ดันกลายเป็นผอ.โรงเรียนซะอย่างนั้น
สถานที่หลักในโลกมนุษย์ก็คือ โรงเรียนมัธยมแคนเทอลอทไฮสคูล เป็นโรงเรียนที่ตัวละครหลักนั้นดำเนินเรื่องมากที่สุด มีประตูมิติอยู่ที่อนุสาวรีย์หน้าโรงเรียน แต่มีแค่ซันเซทชิมเมอร์เท่านั้นที่รู้ อีกที่หนึ่งที่ปรากฏบ่อยก็คือห้างแคนเทอลอทมอล ห้างที่ตัวเอกไปนัดคุยกัน นอกจากนี้ยังมีหลายที่ในเมืองที่คล้ายกับสถานที่ในโลกโพนี่ เช่นร้านขนมหวานที่พิงค์กี้พายไปทำงานที่คล้ายกับชูกาคิ้วบ์คอร์นเนอร์ ร้านเสื้อผ้าที่คล้ายกับโครอสเซลบูทิค ฟาร์มแอปเปิลของแอปเปิลแจค ที่เหมือนกับฟาร์มแอปเปิลของแอปเปิลแจค แต่เล็กกว่า เป็นต้น
มาพูดถึงตัวเมืองกันบ้าง ตัวเมืองในเรื่องมีโซนแบ่งแยกของมันชัดเจน คือโซนหมู่บ้านและโซนตัวเมืองที่มีตึกใหญ่ เมืองนี้อาจจะติดกับทะเล สังเกตจากภาค Forgotten Friendship ที่ซันเซทใช้เวลาแป๊ปเดียวเดินทางจากชายหาดมายังโรงเรียน (ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าเมืองนี้มีม้าเป็นสัตว์ประจำเมือง) ยังไม่ทราบว่าตัวเมืองนี้อยู่ที่ไหนในโลกความเป็นจริง แต่บางคนก็คิดทฤษฎีว่าอาจจะเป็นโลกที่ไม่ใช่โลกเดียวกันกับเราเนื่องจาก มันมีความแฟนตาซีอยู่มาก
จักรวาลคู่ขนานอื่นๆ[]
- จากคอมมิคเล่ม Reflection มีจักรวาลคู่ขนานที่นิสัยของทุกคนนั้นตรงกันข้าม คือตัวดีเป็นตัวร้าย ตัวร้ายเป็นตัวดี ธาตุแห่งความปรองดองก็ยังถูกเปลี่ยนคุณสมบัติ บ้านเมืองดูแย่กว่าในโลกหลัก เมน 6 กลายเป็นแก๊งค์โจร ทริกซี่กลายเป็นเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพกับเป็นอลิคอร์น ปกครองโดยราชาซอมบราผู้ใจดี ปัจจุบันนี้ปกครองโดยองค์หญิงทั้งสองของโลกนั้นแทนที่กลายเป็นคนดี เนื่องจากซอมบร้าเสียสละยอมโดนคำสาปกลายเป็นตัวร้ายและหนีหายไป โลกนั้นมีความสวยงามขึ้นเล็กน้อยหลังโดนเวทย์มนตร์มิตรภาพ
- จากคอมมิค Legends of Magic และ Nightmare Knights ปรากฏจักรวาลคู่ขนานที่โพนี่แห่งเงามืดนั้นสามารถชนะเสาหินแห่งเอเควสเทรียได้ และเปลี่ยนองค์หญิงทั้งสองให้เข้าสู่ด้านมืด แต่เหลือแค่เซเลสเทียด้านมืดเท่านั้นเพราะลูน่าด้านมืดถูกทำลายจากพลังที่มากเกินไป(หรือตายนั่นแหละ แค่ให้มันดู Soft)ปัจจุบันจักรวาลนี้กลายเป็นสถานที่บันเทิงที่เหล่าตัวร้ายจากทุกๆจักรวาลมารวมกัน ถูกดำเนินกิจการโดยเซเลสเทียด้านมืดที่กลับตัวกลับใจได้แล้ว
- การ์ดสะสมหมายเลข #F26 ชุดที่ 4 เป็นการ์ดของไนท์แมร์สตาร์ มีเดสคริปชั่นอยู่ว่า "วันหนึ่ง สตาเสวิร์ลหนวดงามกำลังศึกษาเรื่องกระจกข้ามมิติที่เขาได้สร้างขึ้น เขาได้เข้าหนึ่งในอันที่สร้างมาและพบว่า โลกใบนั้นถูกปกครองด้วยเซเลสเทียด้านมืดผู้ชั่วร้าย นามว่า ไนท์แมร์สตาร์ เธอปกครองเอเควสเทรียโดยไม่มีเวลากลางคืนอีกต่อไป สตาเสวิร์ลที่ได้เห็น เขาจึงรีบออกมาและทำลายกระจกนั่นทิ้งทันที"
หมายเหตุ[]
อ้างอิง[]
- ↑ อ้างอิงจากเว็บไซต์วิกิพีเดีย หัวข้อ Geography